พอดีผมผ่านมาที่หน้ากองบิน46แล้วมีเครื่องบินลำนี้ตั้งโชว์อยากทราบว่าคือรุ่นอะไร ท่านใดพอจะทราบมั้งครับ
เครื่องบิน
T-33 ครับ ปลดประจำการแล้ว ฝาแฝดกับ F-80 shooting star
ดึงข้อมูลมาจากกระทู้ของคุณ onn40 RTAF AIRCRAFT STORY ลองเข้าไปอ่านรายละเอียดประวัติความเป็นมาที่เหลือดูเอาในเวปลิ้งค์นี้ เนื้อหามันจะอยู่ช่วงกลางๆของกระทู้ครับ
http://www.thaifighterclub.org/webboard/13583/RTAF-AIRCRAFT-STORY.html
T-BIRD STORY by FS.1 ASI S.
การรบทางอากาศในสงครามเกาหลีนั้น ถือเป็นการเปิดศักราชของการรบทางอากาศยุคใหม่ จากที่เคยใช้เครื่องบินขับไล่ใบพัดในช่วงเริ่มต้นของสงคราม ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นการใช้เครื่องบินขับไล่ไอพ่นเข้าทำการต่อสู้กันแทน มีการพัฒนา บ.รบไอพ่นแบบใหม่เกิดขึ้นทั้งจากของฝ่ายโลกเสรีและฝ่ายคอมมิวนิสต์ ซึ่งหลายๆ แบบนั้นก็ได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการทำสงครามด้วย และ บ.รบไอพ่นแบบแรกที่ สหรัฐฯ ได้นำมาใช้ในสมรภูมิเกาหลีนั้น ก็คือ F-80C Shooting Star ของ ทอ.สหรัฐฯ นั่นเอง ซึ่งต่อบริษัทล๊อคฮีด ที่เป็นผู้สร้างก็ได้มีการพัฒนาให้เป็น TF-80C ซึ่งเป็นต้นแบบของในรุ่นสองที่นั่งเพื่อใช้ทำการฝึกนักบินด้วย และต่อมาในสายการผลิตมันก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น T-33 Shooting Star ในที่สุด ในกองทัพสหรัฐฯ นั้นมันได้ถูกใช้งานสำหรับการฝึกบินขั้นสูงให้กับนักบินทั้งของ ทอ. และ ทร. ในยุคสงครามเย็น (แต่ใน ทร.สหรัฐฯ นั้นมันได้รับการกำหนดชื่อเป็น TV-2) อยู่หลายปีจนภายหลังจึงถูกแทนที่ด้วย บ.ฝึกรุ่นใหม่กว่า นอกจากนี้มันยังได้ถูกส่งมอบให้กับชาติพันธมิตรของ สหรัฐฯ อีกมากกว่า 30 ประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมถึงประเทศไทยด้วย
ซึ่งเรื่องที่สหรัฐฯ นั้นจะมอบ T-33 ให้กับ ทอ.ไทย นั้น ที่ผ่านมาหลายปีนั้นผมได้เคยศึกษาเรื่องนี้จากเอกสารต่างๆ ทั้งจากที่จัดทำโดยกองทัพอากาศเองและจากแหล่งอื่นๆ แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันน่าจะมีอะไรที่ไม่ค่อยตรงกับความเป็นจริงในขณะนั้น ซึ่งก่อนนั้นอื่นผมขอนำเรื่องราวที่ได้มีการบันทึกไว้ในเอกสารของกองทัพอากาศเกี่ยวกับเรื่องของการรับมอบ บ.T-33 ชุดแรกของ ทอ.ไทย ที่ได้เคยตีพิมพ์ในหนังสือ “ 3347 รำลึก ” ซึ่งเป็นหนังสือที่กองทัพอากาศได้จัดทำขึ้นในวาระการปลดประจำการเครื่องบินแบบ T-33 (บ.ฝ.11) และ C-47 (บ.ล.2) ซึ่งในส่วนของการจัดงานนั้น ได้จัดให้มีขึ้นในวันที่ 12 ก.ย.2539 และได้มีการมอบหนังสือที่จัดทำขึ้นให้แก่ผู้เข้าร่วมในงานนี้ โดยในหน้าที่ 11 ของหนังสือเล่มนี้ได้มีการกล่าวถึง บ.T-33 ไว้ดังนี้
T-33 กับกองทัพอากาศไทย
เครื่องบิน ที-33 เป็นเครื่องบินไอพ่นแบบแรกของกองทัพอากาศไทย จัดหามาโดยได้รับความช่วยเหลือทางทหารระหว่างกองทัพอากาศไทยและกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 โดยกองทัพอากาศไทยต้องส่งนักบินไปบินมาเองจากประเทศญี่ปุ่น กองทัพอากาศไทยโดย จอมพลอากาศ ฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้สั่งให้พิจารณาคัดเลือกนักบินที่เหมาะสม เพื่อส่งไปฝึกบินและนำเครื่องบินจากจากประเทศญี่ปุ่นกลับประเทศไทย นักบินชุดแรกที่ได้รับการคัดเลือกคือ 1. พล.อ.ท.ทวี จุลละทรัพย์ เสธ.ทอ. 2. พล.อ.ต.บุญชู จันทรุเบกษา รอง เสธ.ทอ. 3. พล.อ.ต.เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร เสธ.บย. 4. พล.อ.จ.มานพ สุริยะ จก.ขว.ทอ. และด้วยเหตุผลบางประการ พล.อ.ต.เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร ไม่ได้ไปประเทศญี่ปุ่นด้วย
คณะนักบินได้เดินทางไปถึงประเทศญี่ปุ่นในกลางเดือน กรกฎาคม 2498 ได้เข้ารับการอบรมวิชาภาคพื้นเกี่ยวกับคุณลักษณะของเครื่องบินไอพ่น และทำความคุ้นเคยกับเครื่องบิน เมื่อผ่านการอบรม ภาคพื้นแล้ว ผู้ที่ได้รับการฝึกภาคอากาศเป็นคนแรกคือ พล.อ.ท.ทวี จุลละทรัพย์ หลังจากผ่านการฝึกกับครูได้ 3 ชม.ก็ได้ปล่อยเดี่ยว คนที่สองคือ พล.อ.ต.บุญชู จันทรุเบกษา และคนต่อมาคือ พล.อ.จ.มานพ สุริยะ หลังจากที่ทั้ง 3 ท่านได้รับการปล่อยให้บินเดี่ยวหมดแล้ว ก็ได้บินหาความชำนาญจนมั่นใจว่าสามารถที่จะนำเครื่องบิน บินกลับประเทศไทยได้ พล.อ.ท.ทวี จุลละทรัพย์ ก็วางแผนที่จะบินกลับประเทศไทยทันที โดยบินผ่านสนามบินฟิจิ, สนามบินโอกินาวา, ประทศญี่ปุ่น สนามบินคล้าค ประเทศฟิลิปปินส์ สนามบินไซ่ง่อน ประเทศเวียดนาม และ สนามบินดอนเมือง ท่านทั้ง 3 ได้นำเครื่องบินมาถึงสนามบินดอนเมืองด้วยความเรียบร้อย ในต้นเดือนสิงหาคม 2498 ท่ามกลางการต้อนรับของผู้บัญชาการทหารอากาศ และทหารกองเกียรติยศ
ลงใต้มาหาดใหญ่....ที่กองบิน56ก็มีเหมือนกันครับ
จอดอยู่ปากทางเข้ากองบินลำนึง....และจอดเป็นซากอยู่แถวๆโรงเก็บอีกหลายลำ
สมัยเด็กๆไปงานวันเด็กทีไรก็เห็นเจ้านี่บินโชว์ทุกปี...
ตอนเรียนม.ต้นก็เห็นบินผ่านโรงเรียนวันละ 2-3ลำทุกวัน
ทุกวันนี้จอดเป็นซากไปแล้ว...ยังไม่มีเครื่องบินรุ่นอื่นมาแทนเลย