สมมุตฺิว่า ทอใแถวบ้านเราใด้ บ.ที่ว่ามาก่อนเราสัก 2-3 ประเทศ... สมมุติอีกว่าเกิดต้องรบกัน ขนเอา F35 ออกมา... มันจะหากันเจอมั๊ย ?
มันต้องกลับมาดวลกันด้วย ปืนกลอากาศกับ IR homing missle ในระยะสายตาหรือเปล่า.. เข้าตำราสูงสุดคืนสู่สามัญมั๊ย ?
คำถาม + คำตอบพวกนี้มันน่าจะมีผลต่อมุมมองของเราต่อ บ ในอนาคตของเราอย่างมากเลยเนาะ....
Stealthไม่ได้แปลว่าหาไม่เจอ...แค่ลดrcsจนสามารถตรวจจับได้ในระยะสั้นลง
แต่ผมว่า มันก็ยังอยู่ในระยะกลางของAIM-120และนอกระยะAIM-9อยู่ดี....(หรือว่าเราอยากได้FS-2020+Meteor+Iris-T? น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวเลือก "ถ้าทำได้จริงๆ")
สำหรับผม อยากให้ ทอ. ได้ FS-2020 เพราะ saab ดูจะ จริงใจมากกว่า พ่อค้าหัวสูง(usa) เเละ หน้าจะ เข้ากับ ระบบดีกว่า
เเล้ว f35 ผมว่ายากที่ เขาจะขายให้เรา ถ้าขายก็คงลดสเปค หรือ ขายไม่มีโปรโมชั้น
สิทธิ์ที่เขาจะขาย f-35 ให้เราไม่น้อยเลยครับ ขอแค่มีเงินพอ เพราะมันไม่ได้เทคโนโลยี่ที่หวงหรือลับอะไรมาก บริษัทประเทศอื่นๆ ช่วยพัฒนาเยอะแยะ ไม่ได้เป็นความลับอยู่ในประเทศเมกาครับ
ส่วนที่ว่าเอฟ 35 สองลำมาเจอกัน จะเท่าๆ กับเครื่องไม่สเต็ลธ์สองลำมาสู้กัน ก็คงถูกแหละครับ
สเตลท์ไม่ได้หมายความว่ามันจะล่องหนไปจากจอเรดาร์ครับ แต่ลดหน้าตัดให้จับได้ยากขึ้นทำให้ระยะตรวจจับเครื่องแบบนี้ใกล้เข้ามา แต่ทั้งนี้มันก็ขึ้นกับยุทธวิธี ตัวช่วย และอาวุธที่จะใช้ครับ มันก็พัฒนาตามกันไป
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับคุณ Phu แล้ว เรดาห์ภาคพื้นดินที่ว่าเจ๋งๆ นี่จะเห็น บ เสตลท์ในระยะสักเท่าไหร่ครับ ?
ขอยกตัวอย่างสำหรับSmart-Lนะครับ
จากNaval Institute Guidebook เรดาห์Smart-Lมีระยะdetectเป้าRCSขนาด0.001m^2ได้ที่65km ขนาด0.5-1m^2ที่220km
จากglobalsecurity F-35Aมีradar cross sectionที่0.005m^2(ครึ่งนึงของนก) ก็น่าจะตรวจจับได้ที่ระยะราวๆ 70-80km
เห็นด้วยกับหลายๆ ความเห็นครับ...สเตลท์คือความสามารถในการถูกตรวจจับยาก ไม่ได้แปลว่ามันล่องหน แค่เห็นบนจอเรดาห์เล็กๆ เท่านั้นเอง แต่ทั้งนี้ถึงจะเล็ดรอดการถูกตรวจจับด้วยเรดาห์ ก็ยังมีเรดาห์พิสูจน์ฝ่ายเข้ารหัสตรวจสอบอีก กว่าจะได้ดวลกันด้วยปกอ.ก็นานอยู่......ถ้าสนใจเรื่องเรดาห์หรือ เรดาห์ ครอสส เซคชั่น ลองไปอ่านบทความของอ.รินทร์ สมาชิก TFC และวมต.TAF ดูละครับ แกเขียนเรื่อง MLU F-16 เอาไว้เมื่อ 5 ปีที่แล้วที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=warfighter&month=03-2008&date=28&group=1&gblog=7 บล็อกหายไปนาน แล้วก็กลับมา คาดว่าแกคงไปจ่ายค่าโฮสแล้ว
ขอบคุณครับคุณเทอดเกียรติ link ที่ส่งมาให้ความกระจ่างดีมากเลยครับ รู้ประมาณนี้แล้วผมชักจะเอนเอียงไปทางfs2020 ละครับเพราะกว่าf35 จะตกถืงท้องเราfs2020 ซึ่งแม้จะยังไม่เป็นรูปเป็นร่างแต่ในทาางกลับกันก็มีโอกาสเก็บข้อมูลเพื่อปรับเปี่ลยนสเปคเรดาห์ ให้ทันสมัยที่สุดเมื่อมันออกตลาด และดูแล้วทอ เราทำงานกับ Saab ไกล้ชิดกันดีจริงๆครับ
F-35 สำหรับทอ.ไทย ในความเห็นส่วนตัวผมมองว่าเป็นได้แค่ความฝัน....ด้วยเหตุผลสนับสนุนดังต่อไปนี้ เอาง่ายๆว่าหากต้องผลิต F-35 เพื่อมาแทน F-16 (อย่างเดียว ยังไม่รวมบ.แบบอื่น เช่น แฮริเออร์ F-18 ฯลฯ) ยอดผลิตทุกบล๊อคล่าสุด 4,500 เครื่อง ตีว่า รุ่น A/B รวม C/D บล๊อคต้น (25, 30/32) ตีว่าเป็นครึ่งของยอดผลิตทั้งหมดกลมๆ 2,000 เครื่อง กำลังการผลิตของล๊อคฮีต มาร์ติน เดือนละ 3 เครื่อง หรือตีแบบมั่ว 100 เครื่องต่อปีรวมโรงงานในยุโรปแบบที่เคยผลิต F-16 ใช้เวลาเบ็ดเสร็จ 2,000/100 = 20 ปี กว่าจะแทนได้หมด.........ทอ.ไทย ไม่ได้เป็นผู้ลงขันการวิจัยในระดับใดๆ ทั้งสิ้นคงเป็นลำดับสุดท้ายหากมีตังค์ซื้อ ตีง่ายๆ ว่าอย่างเร็วคงได้ภายใน 20 ปี อาจเร็วว่านั้นนิดนึง หากแฟนพันธ์แท้ F-16 เช่นปากีฯ เวเนฯ เปลี่ยนไปใช้ T-50 หรือ J-20 นี่ยังไม่นับเรื่องความล่าช้าของโครงการที่ราคาต่อตัวเปล่าๆจะปาเข้าไป 200 ล้านยูเอสดอลล่าอยู่แล้ว....กว่าจะถึงโน่น บ.เราคงกราวด์กันครบทุกฝูงหมดแล้ว ทางออกคงเป็นซ๊าบเจ้าเก่า ไม่ก็ J-20 สนไหมครับ
ปฏิบัติการบน911ไม่ได้หรอกครับ
ถ้าF-35มียอดซื้อขนาดนั้นจริงๆยิ่งสมควรจะมีติดตัวไว้ซัก1ฝูงเป็นอย่างต่ำนะครับ เครื่องบินในยุคนี้ที่จะมียอดผลิตแตะหลักพันลำได้ดูเป็นเรื่องยากเหลือเกิน อเมริกาขายอาวุธเป็นอาชีพหลักอยู่แล้วถ้ามีลูกค้าเก่าแก่กำเงินมาซื้อแล้วไม่รับผมว่าทั้งสส. สว. และประธานาธิปดีสอบตกหมดแน่นอน เพราะไม่ใช่แค่เครื่องบินเท่านั้นที่ขายได้จะรวมไปถึงอาวุธติดตัวอีกมากมายหลายแบบตามมา