อ่านข่าวแปลสั้นๆแล้วไปอ่านข่าวแท้ยาวๆบ้างครับ ข่าวลงชัดเจนว่าGripen C/D 6ลำ

Thai military outline procurement shopping list

A diesel-electric submarine and another batch of six Saab JAS 39C/D Gripen combat aircraft are expected to be high on a shopping list of items that the Royal Thai Armed Forces (RTAF) wants to purchase by 2024.

An RTAF source confirmed to IHS Jane's recently that the list is being put together by RTAF Supreme Commander General Thanasak Patimaprakorn following a request from Prime Minister Yingluck Shinawatra, who is also Defence Minister.

The list is being drawn up in response to a requirement to replace a range of ageing RTAF materiel and to maintain the military balance with Thailand's peers in Southeast Asia, all of whom are pressing ahead with plans to modernise their respective military capabilities.

Shopping list

As well as the submarine, other military equipment expected to be on the Royal Thai Navy's (RTN's) shopping list include a multipurpose frigate from South Korea's Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering (DSME) - a follow-on order to the frigate ordered from DSME in August 2013; offshore patrol vessels (OPVs), likely to be based on BAE Systems' River-class Offshore Patrol Vessel (OPV), one of which recently entered service with the RTN; and helicopters fitted with anti-submarine warfare capabilities.

The Royal Thai Air Force (RTAF) outlined a requirement in September for at least six additional Gripen aircraft within the next decade to supplement the 12 in service. The RTAF is also looking to acquire search-and-rescue-capable utility helicopters, which is likely to centre on the purchase of Eurocopter EC725 platforms.

The Royal Thai Army is expected to request more Oplot main battle tanks from Ukraine; more armoured personnel carriers, also likely to be sourced from Ukraine; as well as a range of helicopters - including Sikorsky S-70 Black Hawks, Mil Mi-17V-5s and Eurocopter UH-72A Lakotas - to replace ageing Bell and Sikorsky platforms in service.

Submarine procurement

While most of the equipment to be requested by the RTAF is, to varying degrees, already anticipated by the government, it is the procurement of the submarine that will prove most contentious, given the RTN's previous efforts to acquire such a capability and the government's uncommitted stance on the programme.

However, the RTAF source told IHS Jane's that the purchase of the diesel-electric submarine is now being seriously considered. The main driver behind the purchase is the expected long-term impact of Thailand's significant involvement in the development of the deep-sea Dawei port off the Andaman Sea in Myanmar.

This port is forecast to commence operations in about 10 years and will enable Thailand, through its high investment and involvement in the project, to bypass the Gulf of Thailand in importing and exporting goods to Europe, India and the Middle East. The port is the brainchild of former Prime Minister Thaksin Shinawatra, (Yingluck's brother) who was ousted in a military coup in 2006.

The RTAF source said that while the RTN's attention is currently drawn to the procurement of the first of two frigates from DSME, under a USD468 million contract signed in August, a team from the RTN has been undergoing a submarine technology training programme, held by ThyssenKrupp Marine Systems in Germany, with a view to a potential future purchase. The RTN, he said, has also invested in a range of submarine simulation and training systems, which are now installed at the RTN's Sattahip Naval Base.

He said: "The Navy's number one priority at the moment is the procurement of the frigate, but on 8 November a team that has been undergoing submarine training in Germany will return to Thailand. Another team is expected to go to South Korea shortly and with the knowledge from these two teams we will find the best solution for the RTN." He added: "This submarine programme will only be for a brand new submarine, we will not buy second-hand."

Bartering plans

With the growth of Thailand's Gross Domestic Product (GDP) slowing due to the country's dependency on exports to weakened economies and a cutback in domestic spending, the trajectory of Thailand's defence budget is forecast to remain relatively flat. According to IHS Jane's Defence Budgets , total defence spending climbed 7% in 2013 to about USD5.8 billion and will remain at around this level for the next few years.

This economic challenge coupled with a perceived requirement in Bangkok to bolster the country's agricultural industry have prompted the Thai government to consider purchasing the RTAF's list of required materiel through barter-trade. Underscoring this effort, Yingluck is reported to have sought support from RTAF leaders to purchase the military acquisition requirements through exchanges of "rubber, rice and chicken". Such barter trade deals will help Thai farmers, she said.

RTAF spokesman Group Captain Prapas Sonjaidee also confirmed to IHS Jane's in September that the service was looking at the possibility of acquiring additional Gripen aircraft through the exchange of chickens or other agricultural produce. "This is a possibility depending on the government's policy," he said. "We don't have a plan at the moment but a barter trade arrangement could be organised in the future."

ผมดีใจนะครับว่ามีเรือดำน้ำด้วยนะครับ แต่ต้องมารุ้นกันว่าจะผ่าน ครม หรือป่าว และมารุ้นว่าจะได้ของชาติใดมา ตอนนี้คงไม่พ้นเกาหลีอีก แต่ผมเชียร์สวิเดนนะ แต่มันที่ตรงที่เขาไม่มีเรือดำน้ำรุ่นใหม่เพราะ A26 ยังพัฒนาไม่เสร็จ หรือว่าเสร็จแล้วแต่เราก็เป็นชาติแรกที่จะได้ใช้ เพราะเราเป้นชาติแรกรวมไปถึงชาติเดียวที่ชอบใช้อะไรก่อนใครและไม่มีใครใช้อยู่แล้ว นี้คงเป็นที่มาของข่าวดีที่ ทร จะมีของฝันให้พวกเรา

เรือดำน้ำ ขอเดาว่าเป็น "สาวเยอรมัน เกิดที่เกาหลี แต่พูดภาษาสวีเดน" ครับ

เรือดำน้ำแค่ยิงตอปิโด ได้ผมก็พอใจแล้วครับ

ทร. มีข่าวจะได้เรือ ด. ก็เฉยๆละกันครับ ขอให้เห็นตัวเป็นๆค่อยว่ากัน

แต่มี ฟริเกตเพิ่ม opv เพิ่ม จริงๆแล้ว ขอชั้นอ่างทองเพิ่มอีกลำ จะฟินมาก

ทอ. กริเพน มาได้ก็ดี แต่ไม่ตื้นเต้นเท่าไหร่ ถ้าจะให้ดี c130 มือสองเพิ่มสัก 6 จะแจ่มเลย

ทบ. ดีใจที่มิ17 ยังได้ไปต่อ แต่ลุ้นกับ s 70 มากกว่า อิอิ มาได้จะแหล่มเลย

ส่วน ถ.หลัก ถ้าดีจริง oplot เพิ่มอีกก็ไม่ขัดข้อง แต่เจียดงบมาให้ชัยเสรีเพิ่มด้วย จะฟินฝุดฝุด

ในส่วนตัวผมคิดว่าสำหรับ JAS-39 C/D จำนวน 6 ลำนั้น ถ้าจะซื้อเพื่อเพิ่มเติมบรรจุลงที่ฝูง 701 นั้นก็น่าจะทำเรื่องเสนอเพื่ออนุมัติได้แล้ว แต่ถ้ายังเลื่อนไปอีก 4-5 ปีอาจจะสำหรับบรรจุลงที่ 102 แทน F-16ADF ก็เป็นได้ครับ ส่วนเรื่องเรือดำน้ำนั้นคงเป็นเรื่องที่คาดเดายาก แต่จากที่อินโดนีเซียจัดหาเรือดำน้ำจากเกาหลีใต้อาจจะเป็นข้อพิสูจน์สมรรถนะเรือดำน้ำของเกาหลีใต้พอที่เกาหลีใต้จะเสนอแบบเรือดำน้ำให้กับกองทัพเรือ ซึ่งถ้าหากเทียบเรือใหม่จากเยอรมันหรือเกาลีแล้วราคาถูกกว่าและมีข้อเสนองามๆก็อาจจะมาได้ แต่ก็ไม่แน่ที่สวีเดนก็อาจจะมีข้อเสนองามๆเช่นกัน แต่เยอรมันผมว่าเรามีปัญหาเรื่องราคากับเงื่อนไขแน่นอนครับ

ปล.ช่วงนี้สบายใจจัง อาร์เซนอล ฟอร์มดี เป็นจ่าฝูง ฮิ ฮิ

ขอบคุณสำหรับข่าวสารมากนะครับท่าน  superboy 

จากประโยคนี้

This submarine programme will only be for a brand new submarine, we will not buy second-hand."

555555.........555555........555555.......  3 ลำเป็นอย่างน้อยที่ว่า   " เรือใหม่ครับบบบ....."     สงสัยเกาหลีเสนอแบบมาให้แล้วแน่นอน   ถ้าเรือขนาด  1500-1600  ตัน  ก็คงไม่พ้น  DW-1400T    แต่ถ้า  1000-1200  ตัน  ก็คง  Type-210 mod class   และถ้าเล็กกว่า 1000  ตัน   อาจจะหวยออก  KSS-500A  mod  for  RTN  

     brand  new  submarine  ซะด้วย    เรือเยอรมันมีลุ้นทีเดียว   เกาหลีก็แรง......  ได้สิทธิบัตรแบรนเนม  brand  name  มาสร้างด้วยเช่นกัน    

 ทอ.  Jas-39  C/D  แน่นอนอย่างน้อย  6     ก็คงมาเสริมในฝูง 701  ให้ครบ 18  เครื่องนะครับผมว่า    และคงจะจัดหาสำหรับฝูง 102  อีกต่างหาก   หวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นเช่นนั้นครับ    F-5T  ก็คงถูกแทนด้วย  F-16 ฝูง 102 เดิม  แล้วสำรองประจำการไป  เพราะเครื่องยังมีชั่วโมงบินอีกเยอะทีเดียว

เรือดำน้ำ  ถ้าซื้อในอีก 4-5 ปี ข้างหน้าโน้น  ผมเดาว่าเป็น  สวีเดน เยรมัน ครับ....แง๋ม แง๋ม เลยงานนี้...

สงสัยแต่ว่า...ทำไมนักข่าว หรือคอลัมท์นิสไทย  ไม่สามารถสรุปข่าวที่ ชัด ชัด ทำนองนี้  ได้แบบ "เจน ดีเฟน"

ทั้งๆ ที่อยู่เมืองไทย และเป็นคนไทย ด้วย.....

ในรายงานไม่พูดถึง HIMARS สำหรับ ทบ. แต่ใน วิกิ มีไอเท่มนี้อยู่ 3 ชุดเป็นสถานะ ออนออเดอร์..ผมว่ามันดูแปลกๆนะ(ถ้ามีมูลความจริง)

ทำให้คาดการณ์เอาว่า  DTI คงทำไม่ทันภัยคุกคามที่มองเห็นใน 2-5 ปีนี้.... และ...เอาไว้เป็นไม้กัน....(ทาง ตต ?) เพราะดูเหมือนทางโน้นเตรียมพร้อมซะเกิ๊น นะ... ทหารบก 370.000 นาย   ป อัตราจร 80+   รถเกราะ 500+ (ตามรายงานว่ามี BTR ที่จะประกอบเอง 1000)     รถถัง 300+ ... แถมสายข่าว ตามตลาดสด คาราโอเกะ และโรงงานต่างๆ อีก กว่าล้าน... บรึ๋ย.....

ส่วนผมเรื่องเรือดำน้ำผมยังไม่เชื่่อไรทั้งนั้นจนกว่าจะมีตัวเป็นๆมาอยู่ในประเทศ เพราะที่ผ่านมาลุ้นจนเหนื่อยไม่อยากลุ้นเเล้วครับ

เรือดำน้ำมันใหม่เอี่ยมเครื่องยนต์ดีเซลยังกว้างไปหน่อยหนะครับเป็นไปได้ทุกแบบที่มีขายเลย ถ้ามีประโยคเพิ่มเติมอย่างAIP หรือ Mini เพิ่มขึ้นมาอีกน่าจะพอบอกหน้าตาเรือได้ว่าเล็กหรือใหญ่แค่ไหน

ที่ท่านairy พูดมาผมเห็นด้วยนะว่าไม่มีเลย แต่ผมว่านักข่าวบ้านเราทำได้นะถ้าต้นสังกัดอยากให้เขียนข่าวแบบนี้ แต่ส่วนมากข่าวที่ขายได้คือการเมือง บัญเทิง สังคม(พระ ผู้หญิง หวย)และเศรษฐกิจ(หุ้นตก น้ำมันขึ้น)ตามลำดับ ข่าวทางการทหารเลยเป็นแค่สรุปสั้นๆแบบข่าวนี้ ซึ่งบางทีคนแปลก็สับสนจนคลาดเคลื่อนไปบ้าง เช่น เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง (OPV) ชั้น River จากบริษัท BAE Systems(ตามแบบภาพของผม) กับ offshore patrol vessels (OPVs), likely to be based on BAE Systems' River-class Offshore Patrol Vessel (OPV) (ซึ่งก็คือเรือหลวงกระบี่นั่นเอง)

ผมตั้งข้อสังเกตุไว้อย่างนี้นะครับ

1. HIMARS อาจจะสั่งซ์้อไปแล้วอยู่ระหว่างส่งมอบ เลยไม่มี ข้อมูลในนี้ เพราะสั่งไปแล้ว

2. JAS 6ลำน่าจะลงฝูงเดิม เพระาหากจะลงฝูงใหม่ น่าจะเป็น12 ไม่ใช่6  ซึ่งงานนี้ของแถมหรือของพ่วงน่าจะเป็น ระบบ SAM เพราะส่วนตัวเข้าใจว่า ทอ หาอะไรมาแทน RBS70 อยู่ 

ในแง่ของเรื่อง JAS-39 C/D ในความเห็นของผมนั้นคือสังเกตจากการสั่งซื้อของกองทัพอากาศที่เสนออนุมัติจัดหาล็อตละ 6 ลำ เมื่อครบตามจำนวนจึงเริ่มขออนุมมัติเพิ่มเติมอีก 6 ลำ ซึ่งถ้าหากว่าจะจัดหาอีก 6 ลำมาเพิ่มที่ฝูงเดิมก็น่าจะดำเนินการขออนุมัติได้แล้ว แต่ถ้าระยะเวลาต่อไปอีก 4-5 ปีข้างหน้าผมจึงมองว่า ที่ฝูงเดิมอาจจะคงที่ 12 ลำเลย เพราะถ้าจะจัดหามาให้ครบ 18 ลำ อีก 6 ลำหลังดูจะล่าช้าไปมากครับ จึงมองว่าน่าจะมองมาทดแทน F-16ADF โดยเสนอจัดหาเริ่มต้นที่ 6 ลำก่อนครับ

http://www.bernama.com.my/bernama/v7....php?id=977015

Royal Thai Air Force Targets To Become Regional Leading Force By 2019

BANGKOK, Sept 11 (Bernama) -- The Royal Thai Air Force aims to become a leading force in the Association of Southeast Asian Nations (Asean) by 2019, thanks to the procurement of the Gripen fighters, Thai News Agency (TNA) reported.

Thai Supreme Commander General Thanasak Patimapragorn said this on Wednesday, when he congratulated the Royal Thai Air Force on its air defence integration.

General Thanasak believed that the Royal Thai Air Force can be a leading air force in Asean by 2019 as planned.

General Thanasak told journalists that other countries have praised the Royal Thai Air Force's procurement of Gripen fighters, and that it will integrate its information system with the Royal Thai Army and the Royal Thai Navy in the future.

According to the Thai armed forces chief, the procurement of the Gripen fighters is aimed at national defence against future threats and not warfare.

He said that the fighters will become part of Asean's peacekeeping forces when the Asean Community (AC) is formed by 2015.

ถ้าเรามีแพลนจะไปให้ถึงในปี2019 ผมคิดว่าคงต้องสั่งกริเพนเพิ่มอีก6ลำภายใน5ปีนี้อย่างแน่นอน แต่ให้เดาคงเป็นปีงบประมาณ 2015ขึ้นไปมากกว่าช่วงนี้ฝึกนักบินทั้ง2ฝูง(เอแวคด้วย)ให้ชำนาญการเอาไว้ก่อน

นอกประเด็นนิดหนึ่งครับ นี่เป็นภาพนักบินบราซิลไปฝึก BVR combat ที่สวีเดนโน่น

SAABกำลังหวังขายเครื่องบินในโครงการF-X2ของบราซิลอยู่ ตอนนี้ F/A-18ของเมริกานำโด่งเพราะพี่กันจะปล่อยเงินกู้ให้ด้วย(เอามาจากไหนฟระ) ส่วนสวีเดนคงทำได้แค่ลดราคาสู้และOFFERเรื่องอื่นแทน แต่ถ้าสำเร็จขึ้นมาจริงๆก็อาจจะมี Sea Gripen ในอนาคตก็เป็นได้ ไม่เกี่ยวกับเราโดยตรงแต่โดยอ้อมก็คือจะมีคนใช้งานเครื่องบินแบบเดียวกันเพิ่มขึ้น

น้อง JAS 39 C/D ที่จะมาเพิ่ม 6 ลำนั้น คิดว่าน่าจะมาเพิ่ม ให้ครบตามจำนวนฝูง 701 ซึ่งแต่เดิมที ต้องการที่ 16-18 ลำ 

ตามจำนวนนี้ จะทำให้เครือข่ายที่กองทัพวางไว้จะสมบูรณ์ที่สุดครับ 

ทำให้ผมสงสัยว่า เราต้องใช้น้อง JAS39 C/D กันถึง 18 ลำเลยเหรอ ถึงจะได้ระบบที่สมบูรณ์

ถ้ากองทัพอากาศต้องสนับสนุน การป้องกันภัยทางอากาศให้กองเรือ ของกองทัพเรือด้วย

อย่างน้อย ก็ควรมี 18 ลำ  รวมทั้งเจ้าอีรี่อายควรมาเพิ่มอีก 1

   สำหรับเรือดำน้ำสวีเดน  A-19  นั้น   ผมว่าทางสวีเดนคงน่าจะสามารถยื่นของเสนอทางอุตสาหกรรมแก่ ทร. ไม่ยากนัก   อาจจะถ่ายทอดเทคโนโลยีในการต่อเรือให้และให้ทร.สามารถต่อเรือเองได้ในลำถัดๆไปแบบที่เกาหลีให้เรา    แต่น่าจะติดปัญหาที่ราคาเรือนี่แหล่ะครับ   ผมว่าราคาน่าจะแพงเอาเรื่องทีเดียว   เพราะมาพร้อมระบบ  AIP   และผลงานในการฝึกซ้อมรบของเรือชั้นนี้กับเรือประเทศอื่นๆนั้น  ดีมากด้วย    ขนาดก็ใกล้เคียง  Type-209/AIP  และ  DW-1400T  มาก

   ถ้าเกาหลีเสนอถ่ายทอดเทคโนโลยีต่อเรือให้เราแบบคาวเรือฟรีเกต   และราคาถ้าต่ำกว่าเพื่อน  ก็มีโอกาสสูงกว่าครับ  

   type -210 mod class  เยอรมันออกแบบมาเพื่อตลาดลูกค้าเงินไม่หนามาก  แต่ไม่มีระบบ AIP  ซึ่งถ้าจะติดตั้ง  ก็คงต้องจ่ายเพิ่มไ่ม่น้อยทีเดียว   และทางเยอรมันไม่น่าจะยินยอมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เรา