หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


คำถาม : กล้องเล็งของรถถัง

โดยคุณ : Sam เมื่อวันที่ : 29/10/2013 16:54:29

สังเกตว่ากล้องเล็งหรือกล้องผบ รถจะมีกระจกชิ้นค่อนข้างใหญ่ป้องกันอยู่ ถ้าถูกสะเก็ดระเบิด หรือถูกยิงด้วยปืนไรเฟิลแรงสูง หรือปืนกลแบบตรงๆ จะทำให้เสียการมองเห็นมั๊ยครับ แล้วตัวกระจกป้องกันนี้มันเป็นรายการที่สามารถซ่อมในสนามได้มั๊ยครับ  เอาประมาณว่าตาม ปสก  ของ ทบ เรา เอง





ความคิดเห็นที่ 1


firepower kill เป็นกลยุทธ์หนึ่งของการกำจัดรถถัง โดยไม่ต้องทำลายรถถัง 

กลยุทธ์กำจัดความสามารถในการทำลายความสามารถในการต่อสู้ของรถถังแบบทำลายอาวุธเชิงรุกนั้น ก้รวมถึงการทำลายระบบคคย.ด้วย (และอื่นๆก็เช่น ทำลายปากกระบอกปืน ทำลายความสามารถในการหมุนของป้อมปืน เป็นต้น) 

การทำลายรถถังยังมีอีกหลายช่องทางเช่น mobility kill หรือการทำลายความสามารถการเคลื่อนที่ เช่น เครื่องยนต์ สายพาน  

กลยุทธ์เหล่านี้มีไว้สำหรับหยุดยั้งรถถังโดยที่ไม่ทำลายรถถัง (อย่างกรณีไม่มีคจตถ.หรืออาวุธทำลายรถถังที่เหมาะสม) .......

 

ถ้าตอบตาคำถามคือ การถูกทำลายกล้อง กล้องนั้นซ่อมในสนามรบไม่ได้หากถูกทำลาย .....อาจจะต้องเข้าไปซ่อมในvehicle depotในแนวหน้าหรืออาจจะถึงซ่อมขั้นโรงงาน .......

กล้องของรถถังสามารถโดนทำลายได้ง่าย (ยกตัวอย่างเกมอย่างsteel beast ...เคยเห็นคลิปว่า โดนยิงกันเป็นว่าเล่นจากพวกIFV ) แต่รถถังแต่ละคันก็จะมีระบบกล้องสำรองต่างๆกันไป  

แต่ในปัจจุบัน หากจะให้ถามว่า จะมีสไนเปอร์ส่องกล้องเล็งรถถังอย่างที่ว่าหรือไม่ ..........ต้องบอกก่อนว่า

1. รถถังที่ไหนจะไปเดี่ยวๆกัน? 

2.ระบบกล้องความร้อนของรถถังใหม่ๆจับรังสีความร้อนของมนุษย์ได้ไกล2-4กม. (กล้องcatherine FC ของTHALES บนoplot) ซึ่งเกินระยะที่มือแม่นปืนปกติจะทำได้ ......(สถิติสูงสุดว่าไว้ที่2.5กม.)  .....รถถังจึงเห็นก่อนเสมอ(ขึ้นอยู่กับความตื่นตัวของพลประจำรถ)

3.รถถังมีกล้องสำรองหลายอัน อย่างm1a2 นอกจาก gunner sight ก้ยังมีCITV ของผบ.รถ  หากโดนยิงทั้งคู่ ก็ยังมีศูนย์เล็งสำรองที่เป็นเปอริสโคป หากเปอริสโคปโดนยิง สไนเปอร์คนนั้นก็คงโดนรถถังคันอื่นหรือทหารราบจัดการไปแล้ว .......อย่างที่บอก รถถังไม่เคยไปเดี่ยว 

การส่งสไนเปอร์ไปไล่เก็บกล้องรถถัง คงเป็นสิ่งที่ผบ.คนไหนก็คงไม่อยากจะทำถ้าไม่จำเป็น เพราะความเสี่ยงสูงมาก  (จึงไม่มีกรณีรถถังฝ่ายอเมริกันและพันธมิตร โดนสอยกล้อง .....ส่วนที่ซีเรีย เกิดจากrpg ระเบิดระยะใกล้ สะเก็ดเลยโดนกล้อง )

 

 

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 28/10/2013 15:02:45


ความคิดเห็นที่ 2


กระป๋องบนหัวเจ้าโอทอป น่ะล่อเป้าชั้นดีเลยครับ  เพราะมากันเป็นหน่วยสิครับ ถึงต้องส่งสไนเปอร์แอบสอยกระป๋องก่อน เพื่อเป็นการตัดกำลัง

โดยคุณ YUKIKAZE เมื่อวันที่ 28/10/2013 16:54:40


ความคิดเห็นที่ 3


ใช่เลย ถ้าleo2ล่ะก็ กล้องเล็กกว่ากันเยอะ คงไม่มีสไนเปอร์ที่ไหนยิงได้ 

DFTT.......

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 28/10/2013 17:02:20


ความคิดเห็นที่ 4


สงสัยต้องใช้ สไนเปอร์เป็นกองพัน  ถึงจะเก็บไอ้กระป๋องสูงๆนี่ได้หมด ยกเว้นรถลีโอ มันเทพยิงยังไงก็ไม่เข้า สงสัยซื้อลีโอมาคงบูชาเทพกันแน่นอน ไม่ต้องปัดรังควานเนอะ 

โดยคุณ tower6221 เมื่อวันที่ 28/10/2013 17:10:27


ความคิดเห็นที่ 5


พวกแฟนบอยโอทอปนี่ไม่ไหวจริงๆ แก้ตัวให้อยู่ได้ 

โอทอปรถถังป่าช้า จะสู้รถถังLeo2ได้ยังงัย 

น่ากลัวผีสิง บรึ๋ยยยย 

DFTT 

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 28/10/2013 17:15:49


ความคิดเห็นที่ 6


มีแต่คนบ้าเท่านั้นล่ะครับ ที่จะส่งสไนเปอร์ไปยิงกล้องตรวจการณ์บนรถถัง ต่อให้ยิงโดนทำลายได้ก็มีกล้องประจำพลยิงอยู่ดี

ยิงเสร็จก็โดนสวนมาหน้าแหกแล้ว เอา ATGM ไปยิงไม่ดีกว่ารึ

โดยคุณ aonestudio เมื่อวันที่ 28/10/2013 17:25:29


ความคิดเห็นที่ 7


อันนี้ผมถามแบบมีสาระนะ อย่าโกรธกันนะ ไอ้เคส sniper นะคงยาก แต่ถ้าข้าศึกใช้ปืนใหญ่แตกอากาศหรือสะเก็ตระเบิดจากกระสุนปืนใหญ่ ล่ะ กระจกของกล้องต่างๆ รวมถึง oplot จะมีปัญหาไหม 

โดยคุณ skysky เมื่อวันที่ 28/10/2013 17:28:45


ความคิดเห็นที่ 8


มีแน่นอน 

สะเก็ดระเบิดนอกจากทำmobility kill ได้ ยังอาจะทำให้ปืนใหญ่ของรถถังหรือระบบกล้องเสียหายได้ไม่ยาก

ปืนใหญ่ขนาด155 ที่เป็นcargo round ยังสามารถทำลายรถถังที่หลังคาบางๆได้ด้วย  (พระวิหารนี่ตัวอย่างชั้นดี) 

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 28/10/2013 17:33:26


ความคิดเห็นที่ 9


ขอบคุณท่าน icy ครับ ตอบละเอียดดีครับ  ตอนถามผมนึกถึงหลายสถาณการณ์อยู่เหมือนกันครับ  เช่นที่โดนยิงด้วยปืนรถถัง/อาวุธปล่อยแล้วมันโดนตัวรถแต่ไม่เข้าแล้วERA มันระบิดมีสะเก็ดออกมา  หรือปืนใหญ่มาตกใกล้ๆ

โดยคุณ Sam เมื่อวันที่ 28/10/2013 19:18:22


ความคิดเห็นที่ 10


      เรื่องกระป๋องบน oplot ถามว่ายิงแล้วแตกไหมมันก็แตกแน่ๆ  กล้องตรวจการณ์สำหรับ ผบ รถ กับกล้องเล็งหรือระบบควบคุมการยิงมันคนละตัวกันนะครับแล้วก็มีขนาดเล็กมากด้วย แต่ก็มีโอกาสถูกยิงโดนครับ แต่โอกาสที่จะมีคนมาเล็งยิงกล้อง มันน้อยกว่าโอกาสที่จะโดนอาวุธปล่อยทำลายรถถังเยอะเลยนะครับ...555

     ย้อนมาที่ประป๋องหน่อยมันคือกล้องตรวจการณ์ ของ ผบรถ ไม่ใช่กล้องสำหรับเล็งเป้านะครับ ประโยชน์มันผมว่ามันจะได้เปรียบในเวลาที่พลประจำรถจำเป็นที่จะต้องรบแบบ ปิดป้อม คือไม่สามารถออกมา นอกรถได้ เช่น สงครามในพื้นที่ รังสี สงครามเคมี พื้นที่ที่ถูกระดมยิงจากปืนเล็กอย่างหนัก  การมีกล้องตรวจการณ์ที่สามารถหมุนตรวจสภาพสนามรบได้โดยรอบ จึงน่าจะได้เปรียบกว่า รถถังแบบอื่นที่มีกล้องตรวจแต่เพียงด้านหน้าอย่างเดียว

เลโอรุ่นใหม่เดี๋ยวก็มีกระป๋องติดหัวเหมือนกันครับ


โดยคุณ GT500 เมื่อวันที่ 28/10/2013 20:33:07


ความคิดเห็นที่ 11


^

รู้สึกกล้องก็บังปืนกลนะครับ แหม่

โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 28/10/2013 20:58:25


ความคิดเห็นที่ 12


 ชักสนุกไปหากระป๋องมาให้อีก อิอิ

เลอคล้าก ก็มีกระป๋อง


เอ บรามส์ ก็มี ป๊องงงงง



โดยคุณ GT500 เมื่อวันที่ 28/10/2013 21:00:41


ความคิดเห็นที่ 13


^

รูปที่สอง T-90MS ก็มีป๋อง

สรุป รถถังยุคใหม่จะถูกใจวัยรุ่นอินเทรนต์ ต้องมีป๋อง จายยยย ป่ะ

(แต่ป๋องเรามันก็ใหญ่เกินไปจริงๆนะ ให้มันเตี้ยอีกนิดก็ไม่ได้ มึงจะเอามุมกว้างขนาดไหนวะ)

โดยคุณ GT500 เมื่อวันที่ 28/10/2013 21:02:26


ความคิดเห็นที่ 14


จากรูปเจ้า ลีโอ(ตัวอัพเกรต) ลองจินตนาการดูสิครับ ถ้ามันพรางลายดิจิตรัล ทบ. มันจะงามขนาดไหน ส่วนเรื่องกระป่อง น่ะเข้าใจนะครับว่ารถถังสมัยไหม่ต่างก็มีกัน แต่เจ้าโอทอปเนี้ยผมว่าน่าจะไหญ่ที่สุดในโลกและ สไนเปอร์เห็นแล้วคงจะหมั่นเขี้ยวมาก นิ้วแทบสั่นอย่ากจะลั่นไก ส่วนเรื่องปืนกลของ เจ้าลีโอ ผมว่ามันอยู่สูง กว่ากระป๋องนะ น่าจะหมุนได้รอบตัวน่ะแหละ จะว่าไปนี่จุดเทียนยามค่ำคืนประกอบรถถังนี่ก็โรแมนติคดีไม่เบานะ แหม่ ^ ^

โดยคุณ YUKIKAZE เมื่อวันที่ 28/10/2013 21:29:05


ความคิดเห็นที่ 15


กล้องผบ.รถ ของLeo2A5 M1A2 Leclerc K1A1 K2 และ Oplot ใช้ตรวจการณ์และเล็งเป้าได้ 

โหมดOveride ของผบ.รถมีไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่ก็ใช้ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ

กล้องของผบ.รถนอกจากจะใช้ดูสถานการณ์แล้ว ยังสามารถinputข้อมูลของเป้าหมาย(ทางมุม ทางทิศ และระยะ )เข้าในระบบคคย.ของรถถังได้ หลังจากพลปืนต่อตีเป้าหมายแรกแล้ว ผบ.รถ/พลปืนก็จะคุมป้อมปืนให้หันไปที่เป้าหมายที่สอง ประโยชนืของมันก็คือลดเวลาในขั้นตอนต่างๆที่พลปืนจะต้องทำอย่างการวัดทิศทางเป้า มุมเงย และระยะของเป้า เหลือแค่เพียงinputข้อมูลอย่างสภาวะอากาศ ลม ความเบี่ยงเบนของปืน(ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติ)แล้วยิงได้เลย ช่วยลดระยะเวลายิงระหว่างเป้าหมายได้อย่างดี ในขณะเดียวกันผบ.รถสามารถค้นหาเป้าหมายต่อไปได้เลย หรือยังใช้เป็นกล้องสำรองได้อีกด้วย

เหตุนี้จึงใช้คำว่าHunter-Killer ในรถถังที่ติดกล้องจำพวกนี้  นั่นคือ ค้นหา(โดยผบ.รถ)และทำลาย(โดยพลปืน หรือผบ.รถในบางกรณี) 

คุณสมบัติH-K แบบเต็มรูปแบบที่สำคัญคือ 

1.มีกล้องตรวจการณ์ผบ.รถที่สามารถหมุนได้รอบทิศ (กล้องPNK-3 /4/5 ของT-72 T-90 จึงไม่นับเข้าเป็นกล้องตรวจการณ์ผบ.รถ)

2.กล้องผบ.รถสามารถทำงานได้ทั้งกลางวัน-กลางคืน(มีกล้องตรวจจับความร้อน ----Sagem Vigy บนPT-91 ของมาเลเซียไม่มีกล้องตรวจจับความร้อน รวมถึงPERI 17A1 ของLeo2A4)

3.กล้องผบ.รถจะต้องสามารถวัดระยะได้/มีเลเซอร์วัดระยะ 

4.ระบบคคย.ของผบ.รถจะต้องสามารถใช้ร่วมกับพลปืนในการส่งเป้าหมายให้พลปืนจัดการ 

5.ผบ.รถมีความสามารถในการยิงปืนจากตำแหน่งของตนเอง (-มีมานานแล้ว หากจำไม่ผิดT-54ก็ทำได้ โดยใช้การตรวจการณ์ผ่านเปอริสโคป แล้วผบ.รถก็จะคุมปืนแทนพลปืนได้ เพียงแต่ไม่มีกล้องเล็งให้ผบ.รถ จึงใช้ตำแหน่งอ้างอิงจากปากลำกล้องแทน .....โบราณสุดๆ  หรือ หากจำไม่ผิด M60A3 ก็ใช้กล้องเล็งปก.หนักของผบในการตรวจการณ์แล้วใช้โหมดควบคุม แล้วจึงใช้กล้องเล็งที่ใช่ร่วมกับพลปืน ในการยิงเป้าหมาย.-นี่ก็พัฒนามานิดหน่อย )ในเหตุจำเป็นอย่างกรณีกล้องพลปืนพัง หรือผบ.รถเจอเป้าหมายที่สำคัญกว่าและเร่งด่วนอย่างเป้าหมายที่จู่ๆโผล่มา 

  กล้องผบ.รถนอกจากจะใช้ตรวจสถานการณ์โดยรอบๆแล้ว ยังต้องเป็นอุปกรณ์ช่วยในเรื่องของระบบคคย. อีกทั้งเป็นศูนย์เล็งสำรองได้ด้วย 

คลิปคอนเซ็ปท์คร่าวๆของH-K 

cและภาพของกระป๋องAltay ......... 

 


โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 28/10/2013 21:30:57


ความคิดเห็นที่ 16


ป๋องพูม่า ............ป๋องของLeo2A7 หรือLeo2A4EVO/NG โดนปืนบังในมุมด้านหลังเต็มๆนะครัช  แล้วไม่ใช่มุมแคบๆด้วย 

และกล้องเล็งของปก.รีโมท ก็โดนป๋องบังในมุมป้อมด้วย หุหุ 

จากการสอบถามเพื่อนคนยูเครนเค้าบอกว่า ทำไมกระป๋องบนoplotมันถึงใหญ่นัก ได้รับคำตอบว่า 

มันเป็นความพยายามของสำนักออกแบบที่จะให้กล้องของผบ.(กระป๋อง) มันควบคุมปืนให้ยิงได้ในมุมสูง(65องศา) โดยไม่ต้องทำป้อมรีโมทแยกออกมา  หากทำแบบของT-90MS ก็จะยิงได้ในมุมที่ไม่สูงพอ (ไม่ถึง50องศา)  กล้องของOplotจึงออกมาใหญ่อย่างนี้แหละ

(การยิงมุมสูง นอกจากจะใช้ยิงเป้าหมายทางอากาศแล้ว ยังใช้ในกรณีสู้รบในเมือง ซึ่งปืนกลอาจจะต้องเงยไปยิงคนบนตึกรอบๆด้วย) 

แต่ระบบกล้องไม่ได้อยู่ในตัวกระป๋อง แต่อยู่ในตัวรถ กระป๋องที่ว่าเป็นแค่เปอริสโคปเท่านั้น โดนยิงไป ราคาก็ไม่ได้แพงมาก(แนวคิดเดียวกับPERI17A2)



โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 28/10/2013 21:38:43


ความคิดเห็นที่ 17


แต่แหม่่่่่่่่่่่่่่  พวกแฟนบอยของโอท็อปยังดิ๊ฟกันไม่เลิก อย่าลืมได้มา 5 แรก ต้องเอาหมอผีจากแอฟริกามาปัดรังควานนะครับ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น ลีโอละก็ มันเทพมหาเทพจริงๆ รถถังแบบเทพมหาเทพ อย่าลืมร่างทรงของบรรดาเทพต่างๆมาเจิมด้วยนะครับ  เพราะมันเทพจริงๆ

โดยคุณ tower6221 เมื่อวันที่ 28/10/2013 21:42:07


ความคิดเห็นที่ 18


 อ่านกระทู้ของพี่ icy แล้วผมฉลาดขึ้นเยอะเลย ชอบจริงๆข้อมูลลึกๆ สรุปก็คือ ไอ้ป๋องยักษ์เนี่ย คือ คุณค่า ที่ ปลอดคู่ควรสินะ....

โดยคุณ GT500 เมื่อวันที่ 28/10/2013 22:25:46


ความคิดเห็นที่ 19


ปืนกลรีโมทของLeoมีหลายแบบ ไอ้รุ่นที่ท่านเห็นในรูปถ้าไม่เงยกระบอกโดนกล้องแน่นอนแจ้


โดยคุณ Akula เมื่อวันที่ 28/10/2013 22:31:00


ความคิดเห็นที่ 20


กระป๋องมันใหญ่ ก็มีประโยชน์ของมันน้ะ ไม่งั้นมันจะทำใหญ่ๆ  ทำไมน๊ออ """.

โดยคุณ smile33 เมื่อวันที่ 28/10/2013 22:51:02


ความคิดเห็นที่ 21


ฮา แทงกันนัว จุดเทียนประกอบรถถังนี่ฮาสุดละ(กวนได้โล่) ประกอบรถถังก็ต้องใช้ไฟฟ้ากับเครื่องไม้เครื่องมืออยู่ดีครับ

เอาคุยแบบดีๆนะครับ

ถามหลวงพี่ครับว่า ถ้าการออกแบบกล้องของยูเครนพยายามให้ยิงมุมสูงได้โดยไม่ต้องทำป้อมรีโมทแยก ก็แล้วทำปอมรีโมทแยกมันไม่ดียังไงครับ ผมว่าดีออก เช่นตัว flw200 ยิงได้ทุกทิศทาง มุมเงยก็ได้สูงกว่ามาก ระบบตรวจการณ์กลางวันกลางคืน มีสแตบิไลเซอร์อีกขนาดก็ไม่ใหญ่นะครับ อีกอย่างทำไมถึงกล้อง pnk-6 ถึงมีมุมเงยสูงครับ ฝาครอบใหญ่กล้องข้างในเลยเงยได้? 

เรื่องปืนบังป้อมกับป้อมบังปืน คือไม่อันใด้อันหนึ่งก็ต้องบังกันอยู่แล้ว ซึ่งผมว่าทางที่ดีที่สุดก็คือทำป้อมรีโมทแยกนั่นแหละ ปืนหันไปทางไหนกล้องก็หันตาม

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 28/10/2013 23:55:49


ความคิดเห็นที่ 22


ผมไม่เข้าใจนะ

ฝ่ายที่เชียร์คันไหนก็ควรเอาข้อดีของคันนั้นๆมาบอกไม่ใช่เหรอ เทียบกันตรงๆเลยว่าอันไหนดีกว่าอันไหนไม่ใช่แบบบางคนมานั่งบ่นหน้าตาของคันนึงแล้วไปชาบูอีกคันนึงโดยไม่ได้เอาข้อมูลมาลงแบบท่านไอซ์สักแอะ

Leo2Evoก็ไม่ได้เหนือกว่าไปซะทุกอย่าง(มีอะไรเหนือกว่าบ้าง ฝ่ายที่ชาบูเอามาลงแบบเป็นตัวเลขกันหน่อยครับ)

ถ้าเป็นLeopard2A6ยอมรับว่ามันเทพจริง ไม่มีข้อก้งขาเลยกับเจ้านี่ ได้มาใช้ผมก็ไม่เอาOplotหรอกครับ(แต่แพง...) ปัญหาคือมันไม่มีในตัวเลือก ซึ่งในตัวเลือกที่มีทุกรุ่นมันก็พอฟัดพอเหวี่ยงกันเกือบหมด(ยกเว้นK1ถ้าเป็นปืน105อำนาจการยิงดูจะต่ำไปนิด ถ้าปืน120ก็สบายๆ) ถ้าอยากได้ลีโอก็จัดเทียบสเปคแบบตารางนิ้วเลยครับ ไม่เอาหน้าตานะเอาแค่สมรรถภาพ(เพราะหน้าตาถือเป็น"อคติ"ส่วนบุคคล...ทั้งทางดีและเสีย)

โดยคุณ Phu2000 เมื่อวันที่ 28/10/2013 23:59:28


ความคิดเห็นที่ 23


แหม่ จะเล่นมุขไหน หลางพี่ก็บล๊อคได้หมดเลย รอบนี้ผมแพ้ซะแล้ว จะขอแก้ตัวในคร้งหน้าก็แล้วกัน  

    ปล.ถ้าดีลโอทอปล้มเมื่อไหร่เรามาเป็นเพื่อนกันนะครับ ^ ^

 

โดยคุณ YUKIKAZE เมื่อวันที่ 29/10/2013 00:52:21


ความคิดเห็นที่ 24


ไม่ใด้คิดว่าจะเป็นเหตุให้เอาออปลอตมาเทียบกับ ถ อื่นๆหรอกนะครับ ผมมองสองประเด็นคือ

1) แผนการซ่อมบำรุง ในใจอยากให้. ทบ สต๊อก อะไหล่สำคัญๆอย่างนี้ รวมถึงความรู้ในการซ่อมบำรุง

    เพราะถ้ารถไม่เสียหายทั้งคันเราน่าจะตั้งเป้าไปที่ซ่อมคืนสภาพได้เองทั้งหมด

2) ในส่วนชองกล้องตรวจการณ์ และ. คคย มันจะเป็นอะไรที่แยกส่วนมาให้ kcp ทำการ ซ่อมบำรุง

และดัดแปลงได้มั๊ย? ผมเสียดายความรู้และ ปสกที่ kcp มีจากโครงกปรับปรุง คคย ให้ ถ ของเรา

ระบบกล้องตรวจการดี+ คคย ดีๆนี่เอาไปผนวกกับ เฟิสวิน แล้วเราจะได้รถรบที่มี ปสพ สูงขึ้นมากเลยละ่ครับ

โดยคุณ Sam เมื่อวันที่ 29/10/2013 01:05:23


ความคิดเห็นที่ 25


ถ้าคุณ yuki พูดถึง leo ในภาพของคุณ GT500 นี่จะบอกว่านั่งฝันได้เลยตัวนั้น

โดยคุณ FiTaLipz เมื่อวันที่ 29/10/2013 07:42:41


ความคิดเห็นที่ 26


กล้องเล็งรถถังที่ไว้ใจได้ที่สุดคือกล้องเล็งที่ติดกับป้อมเนี้ยล่ะครับ รถถังตระกูลT แทบจะมีกล้องเล็งหลักเล็กที่สุดเทียบกับบรรดารถถังด้วยกัน 

ถ้ากล้องใหญ่เต็มหน้าก็เลอแคร์ ฝรั่งเศสนั้นเอง แต่ที่ว่า ถ้าจะยิงใส่ตรงหน้าต้องวัดกับระบบตรวจจับประสิทธิภาพสูงเหมือนกัน

ระบบแสนบอบบางพวกนี้ถ้ารบในเมืองผมว่ารอดยาก โดยเฉพาะหลังคาเนี้ยล่ะ การคุกคามจากอาวุธวิถีโค้งมีทั้งปืนค. กระสุนปืนใหญ่แบบต่างๆ ง่ายๆว่าเจอลูกแตกอากาศไป กระป๋องไหนๆก็แหลก

อีกอย่างถ้าจะเล็งยิงจากตรงหน้า ก็โดนรถถังยิงสวนแน่ๆเหมือน รัสเซียปราบมือสไนเปอร์ในเชเชนก็ใช้กล้องรถถังเนี้ยล่ะค้นหา

 

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 29/10/2013 08:43:13


ความคิดเห็นที่ 27


เรื่องทำไมไม่ทำป้อมรีโมทแยก .............เข้าใจว่า

1.เนื้อที่บนป้อมไม่อำนวย ป้อมของรถถังฝ่ายรัสเซีย/โซเวียต มีขนาดเล็ก ทำให้ติดป้อมรีโมทไม่ถนัด หากติดได้ก็เป็น7.62 กระสุนก้เล็กไปอีก 

2.ราคาที่เพิ่มมา

3.ความอินดี้ของสำนักออกแบบ 5555555 

ประเด็นข้อแรกดูเป็นไปได้ที่สุด อย่างT-90MSที่มีขนาดป้อมพอๆกัน ก็ต้องรวมกล้องตรวจการณ์เข้ากับปืน เพื่อทำเป็นป้อมรีโมท ...... 

ประเด็นข้อสามก็อย่ามองข้ามไป จริงๆแล้วหากติดsensorเข้ากับปก.ในตำแหน่งเดิมของoplot ก็น่าจะทำได้ .....คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากความอินดี้ของสำนักออกแบบ  เพราะจะว่าเรื่องเทคโนโลยีจำกัดก็ไม่น่าใช่ ในเมื่อสามารถทำป้อมรีโมทขนาด30มม.ได้(อย่างShKVAL บนBTR-3E1) แค่ติดกล้องทีวี+เลเซอร์วัดระยะ+กล้องกลางคืน ให้กับปก.หนักก็ไม่น่าจะยาก    

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 29/10/2013 08:52:54


ความคิดเห็นที่ 28


อย่างT-64E ต้องเสริมป้อมเพื่อติดตั้งป้อมปืนรีโมท 


โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 29/10/2013 08:57:46


ความคิดเห็นที่ 29


       ที่บอกจะให้เอา สเปคจากแคทตาล็อค มาเทียบกันนั้นผม ดูแล้ว leo กับ oplot ไม่ได้ด้อยกว่ากันซักเท่าไหร่ ที่ oplot เด่นกว่าชัดๆก็เห็นจะเป็นด้าน mobility  

ฉายา flying tank ของรถถังตระกูล T-80 นั้นคงไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ซึ่งแน่นอนมันต้องถ่ายทอดถึง oplot ด้วย

     Oplot หนัก 46 ตัน  มีแรงม้าต่อตันอยู่ที่ 26 hp/ton 

     Leo. หนัก  68 ตัน  มีแรงม้าต่อตันอยู่ที่ 24.1hp/ton

ต้องถือว่า เป็นสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมของ leo ที่หนักกว่าเกือบ 20 ตันแต่มีแรงม้าต่อน้ำหนักที่ใกล้เคียง oplot ที่เบากว่ามาก แต่อย่างไรก็ตามจากสเปคดังนี้ทำให้เห็นได้ว่า oplot น่าจะคล่องตัวกว่า ถึงแม้ทั้งคู่ จะมีความเร็ว สูงสุด ใกล้เคียงกันคือที่ ประมาณ 70 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง แต่ความเร็วในการออกตัว เช่น จาก 0-70 oplot น่าจะทำได้ดีกว่า

     อีกประการจากสเปคแคทตาล็อคที่ไม่น่าเอามาเทียบ แต่ผมรู้สึกว่าเอาน่ะ มันก็เหนือกว่านะ คือเรื่องการลุยน้ำลึก

 Oplt นั้น สามารถลุยน้ำลึกโดยไม่ติดตั้งอุปกรเสริมได้ถึง 1.8 เมตร และ 5 เมตรเมื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริม

ในขณะที่ Leo ลุยน้ำลึกแบบไม่ติดตั้งอุปกรณ์ได้แค่ 1 เมตร และติดตั้งอุปกรณ์ได้ 4 เมตร

ซึ่งตรงนี้ไม่รู้สินะกับประเทศที่น้ำท่วมซ้ำซากอย่างบ้านเราอาจมีประโยชน์ 555 

    อีกประการคือ oplot ปืนโตกว่า.  ซึ่ง...นานาจิตตังนะ  (พอดีผมมีปัญหากับเรื่องขนาด) 

    ส่วนเรื่องความแม่นยำไม่เคยมีคลิปหรือเอกสารอะไรที่ทดสอบ oplot กับ leo แบบตรงๆ เห็นก็จะมีแต่คลิปของทางฝั่งรัสเซียที่ทดสอบ T-90 กับ Abrams ที่ผมเคยโพสคลิปแต่มันไม่ขึ้น(บ่องตง ผมโพสยูทูปไม่เป็น โง่ว่ะ)

  การทดสอบทำโดยให้รถเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 25 กิโลเมตร ยิงเป้าหมายจากระยะ 1.5 ถึง 3 กิโลเมตร ในเวลา 54 วินาที ซึ่งทางพี่รัสเซีย เค้าบอกของเค้า ยิงถูกเป้า ถึง 7 เป้าใน 54 วินาที โดยในคลิป เค้าแวะมาขบ Leo ว่า ยิงโดนแค่เป้าเดียว (ก็พิจารณาเอานะเชื่อไม่เชื่อ) 

     ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับ oplot หรอก 555 แต่ผมมองว่า ยูเครน กับ รัสเซีย สร้างรถถังมาจากองค์ความรู้เดียวกัน อย่างน้อยก็น่าจะมีข้อดีติดมาไม่น้อย..(อย่างน้อยมึงก็ต้องโดนซักเป้าให้เท่า Leo ละวะ)

    อีกประการคือเรื่องแผ่นเกราะ ERA ในคลิปเดียวกันพี่รัสเซียเค้าบอกเค้าทดสอบโดยให้ T-90 โดนปืน 120 มม ขนาดเดียวกับ Abrams ยิงถึง 6 นัด โดยที่ตัวรถไม่ได้รับความเสียหายมีเพียงแผ่นเกราะภายนอกที่หลุดออกเท่านั้น (เชื่อไม่เชื่อก็พิจารณาเอานะ)

   มันก็ไม่เกี่ยว กับ oplot อีกแหละ 5555 แต่มันก็มี ERA เหมือนกันถึงคุณภาพจะด้อยกว่าของพี่รัสเซีย แต่มันก็น่าจะทนได้ซักนัดละวะ 
   สรุปตอนแรกเทียบสเปค แคทตาล็อคล้วนๆว่ากันด้วยเหตุผล ตอนหลังๆนี่อารมณ์ล้วนๆ ใครอยากมีสาระให้อ่านแต่ท่อนแรกครับ 555

ปล ผมพิมพ์ในโทรศัพท์ ย่อหน้ามันอาจจะโดดไปโดดมา ขออภัยด้วยครับ

โดยคุณ GT500 เมื่อวันที่ 29/10/2013 09:12:43


ความคิดเห็นที่ 30


 (พอดีผมมีปัญหากับเรื่องขนาด) ....................เอ่อ  555555 

กระสุน125มม.ของรัสเซีย/โซเวียต/ยูเครน ยังมีประสิทธิภาพสู้กระสุน120มม.ไม่ได้  เพราะเป็นกระสุนแยกส่วน พลังงานของดินขับสูญเสียเยอะ (ไม่ได้ดันลูกกระสุนโดยตรงเหมือนกระสุนเต็มนัด) อีกทั้งเทคโนโลยีดินขับของรัสเซีย/ยูเครน ยังด้อยกว่าฝั่งนาโต้  ถึงเพิ่มพลังดินขับได้ ปืนก็มีข้อจำกัดในเรื่องความดันในรังเพลิง ปืนตระกูล2A46/D81 เลยจะถูกแทนที่ด้วยปืน2A82ที่มีแรงดันรังเพลิงมากกว่าในรถถังArmata

...........เสียดายรถถังทบ. ไม่ได้ใช้ปืนVityaz 50คาลิเบอร์  ไม่งั้นพอมีลุ้นว่าจะมีพลังการยิงเทียบเท่าปืน120มม.ได้  

http://kbao.com.ua/tankovaja_pushka_50l_vitjaz.html

 

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 29/10/2013 09:24:19


ความคิดเห็นที่ 31


ปืนโตกว่าห้ามิลิโมตรเนี่ยนะครับ ฮา เข้าใจว่าเน้นอารมณ์ล้วนๆ

ความจริงเส้นผ่าศูนย์กลางลำกล้องปืนอย่างเดียวไม่ได้บอกอะไรเลยนะครับ ยิ่งเป็นกระสุนพลังงานจลน์หัวรบกับลำกล้องคนละไซส์

ทีนี้ถ้าพูดถึงส่วนดินขับอย่างเดียวว่าอันไหนแรงกว่าก็ต้องวัดความยาวด้วย 

อนึ่งปืนของลีโอพาร์ดลำกล้องยาวกว่าพอตัวเลย (อันนี้เรื่องความแม่น)

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 29/10/2013 09:39:52


ความคิดเห็นที่ 32


เรื่องกล้องบนป้อมปืนนั้นส่วนตัวมองว่าจะเล็กจะใหญ่ถ้าสไนป์เปอร์มันจะส่องมันเล่นได้ทั้งหมดครับ แต่ว่าจะมีสไนป์เปอร์คนไหนหาญกล้าต่อกรกับรถถัง ส่วนเรื่องเกราะของ LEOPARD2A6 นั้นเกราะน่าจะเป้นแบบใหม่ แต่ถ้าจะเอา LEOPARD2A4 มือสองผมคาใจครับว่าเกราะมันจะเหนือกว่า OPLOT เพราะเป็นเกราะที่พัฒนามาหลายปีแล้ว ที่สำคัญเกราะรถถังชาร์เลนเจอร์อังกฤษที่ว่าดีที่สุดเรียกว่าวิศวกรมั่นใจที่สุดยังเสร็จอาวุธโจมตีรถถังที่ยิงจากด้านหน้าถึงขั้นพลขับสาหัส ในส่วนตัวจึงมองว่ารอบบ้านเราตอนนี้รถถังอะไร OPLOT เอาอยู่ครับ 

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 29/10/2013 09:40:59


ความคิดเห็นที่ 33


ลำกล้องของleoa4 คือ44คาลิเบอร์ =5280มม.

ลำกล้องของoplot คือ48คาลิเบอร์ =6000มม.

ลำกล้องปืนรัสเซียยาวกว่า120 L44 แต่สั้นกว่าL55 ของA5/6 

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 29/10/2013 09:43:58


ความคิดเห็นที่ 34


    เอาละวะ..ทั้งยาว ทั้งใหญ่ สะใจ ฝุดๆ....(เรื่องคุณภาพกรูไม่แคร์แย้วว)

 

ปล.เถียงกันเรื่อง Mobility บ้างดิ

โดยคุณ GT500 เมื่อวันที่ 29/10/2013 09:54:38


ความคิดเห็นที่ 35


เกราะa4ไม่ติดเกราะเสริม ด้อยกว่าoplotแน่นอน โดยเฉพาะตรงจุดที่เป็นกล้องของพลปืนนั้นบางทีเดียว 

แต่ถ้าเสริมแล้ว ก็น่ากลัวทีเดียวล่ะ (เกราะเสริมของSGและREVO เป็นนาโนเซรามิคคอมโพสิต รุ่นAMAP B และAMAP SC  ที่โดยส่วนตัวยกให้เป็นเกราะเสริมคอมโพสิตลามิเนตที่ดีที่สุด พิสูจน์ผลงานโดยPATRIA AMV/ROSOMAK ในอาฟกานิสถาน ที่โดนRPGไปหลายลูกก็ยังกลับฐานได้ปลอดภัย)

ส่วนA5/A6 มีการย้ายตำแหน่งกล้องพลปืนทำให้จุดอ่อนดั้งเดิมของA4หมดไป แล้วเสริมเกราะด้านหน้าเป็นเกราะlaminate ซ้อนหลายชั้น(ทำด้วยเซรามิค+ทังสเตนเจาะรู) +ช่องว่าง/Spaced Armor เพื่อสร้างความเครียดให้กระสุนAPFSDS จนหักหรือเสียพลังงานไป หรือถ้าเป็นกระสุนHEATก็จะเจอกับช่องว่างในเกราะพลังงานของเจ๊ทโลหะก็จะกระจายไป  

โดยส่วนตัวคิด(แบบไม่เข้าข้าง) รถถังที่ดีที่สุดในอาเซียนตอนนี้คือleopard2 revo ของอินโดนีเซีย (หากมาแบบฟูลออปชั่น) 

ส่วนoplot มาเป็นที่2 ร่วมกับLeopard2 SG ของสิงคโปร์

อันดับ3ยกให้PT-91M ของมาเลเซีย

อันดับ4 T-55M3ของเวียดนาม

อันดับ5 M60A3ของทบ.ไทย

อันดับ6 T-72S ของพม่า (ระบบต่างๆยังเป็นของโซเวียต ด้อยกว่าT-55M3และM60A3ไม่ว่าจะเรื่องเกราะ ระบบคคย. จะมีดีกว่าก็คือปืน125มม.นั่นแหละ แต่105ของทั้งT-55M3และM60A3ก็จัดการT-72ได้ในนัดเดียวเช่นเดียวกัน) 

 

 

 

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 29/10/2013 10:06:23


ความคิดเห็นที่ 36


รถถังที่เราไม่ได้พัฒนาเองจะมองทุกอย่างมันไร้ที่ติก็ไม่ได้

ง่ายๆว่าOplot มันก็ข่มเพื่อนบ้านที่ชายแดนติดกันได้ทุกสารทิศ  ถึงเราประจำการLeo2A4 เจอ125มม. จากT-72M PT-91M พวกนี้เข้าไป ผมยังไม่แน่ใจเลยว่าไอ้ที่ชื่นชมนักหนามันจะรอดรึเปล่า โดยเฉพาะรายหลังที่ใส่อุปกรณ์SAGEM เต็มๆคัน

โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 29/10/2013 10:08:07


ความคิดเห็นที่ 37


บางครั้งสไนเปอร์ ก็โชว์มาแล้วครับอย่างเชสเนีย นี่กล้องเล็กๆอย่างbmp-1ก็โดนสอยเบ้าตาแตกมาแล้ว

ส่วนเรื่องความสูงของกระป๋องมันมีทั้งข้อดีข้อเสีย อย่างเมกาที่ใช้crows rcwsติดบนm1 abrams

ก็เหมือนจะเจอประสบการณ์ตรงรบในเมืองมาแล้วว่ามันใหญ่เกะกะ โอกาสถูกทำลายง่ายเกินไป
ดูเหมือนจะมีระบบควบคุมแบบใหม่ที่เบาลง,เล็กและเตี้ยลงกว่าเดิมมากมาแทนในอนาคต

ดูแล้วผมชอบการออกแบบป้อมของT-64E มากกว่าoplotแหะ

โดยคุณ dcalpha เมื่อวันที่ 29/10/2013 10:21:05


ความคิดเห็นที่ 38


อ่านมาถึงตรงนี้ก็เลยสงสัยครับว่า ทำไมหนออินโดฯถึงได้ดีลที่ดีมากขนาดนี้จากทางเยอรมัน ในขณะที่เราไม่ได้แม้กระทั่งการยื่นข้อเสนอเข้าแข่งขันเลยด้วยซ้ำ ช่างน่าเสียดายจริงๆ

โดยคุณ TWG เมื่อวันที่ 29/10/2013 10:26:06


ความคิดเห็นที่ 39


อย่างรถถัง Leopard เคยมีการทดสอบติดตั้งป้อมปืน20มม. ควบคุมด้วยรีโมท ตั้งแต่ออกแแบบแรกๆ สุดท้ายไม่ได้ติดตั้งเพราะเรื่องขนาดเนี้ยล่ะ

 



โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 29/10/2013 10:27:40


ความคิดเห็นที่ 40


มันมีไว้เพื่อ ให้ได้เปรียบในการรบ มั้งครับ  กลัวนักเสียดายนักก็ถอดเก็บไว้  หรือจอดไว้เลย แล้วเอาดาบไปไล่ฟันเอา ท่าจะดี  ของแบบนี้ มี เยอะๆไว้ได้เปรียบ 
พูดแต่เรื่องเสียบเปรียบๆ   มวยมันก็ต้องมีแพ้ทางกันบ้าง ต้องแก้เกมกันบ้าง ซีเรียสไปใย 

เก่งนักก็ยิงเบ้าตาคนขับเลยประไรแค่กระจกบางๆคั่นไว้เหมือนกัน   แล้วค่อยสอยกระป๋อง และกล้องพลยิง 

โดยคุณ hs3mmq เมื่อวันที่ 29/10/2013 10:34:01


ความคิดเห็นที่ 41


       

   จริงๆผมกำลังจะตั้งกระทู้ถามเรื่องปืนกลร่วมแกน พอดีมีเรื่องกล้องเข้ามาเลยมามันอยู่นี่ไม่ได้ไปไหน ไหนๆก็มาแล้ว ถามในนี้เลย 
   คือผมดูสารคดีมาแล้วเพิ่งจะถึงบางอ้อว่า ปืนกลร่วมแกน แท้ที่จริงแล้ว เค้าคิดค้นมาตั้งแต่สมัยสงครามโลก และประโยชน์ใช้สอยของมันคือใช้ยิงเพื่อหาระยะที่ถูกต้อง โดยการยิงปืนกลไปก่อน พอกระสุนปืนกลโดนเป้าจึงยิงปืนใหญ่ตามไป ทำให้สามารถยิงโดนเป้าได้ตั้งแต่นัดแรก 

    ทีนี้พอกาลเวลามันเปลี่ยนไป มีเทคโนโลยีกล้องเล็งและระบบควบคุมการยิงที่ทันสมัย ท่านทั้งหลายคิดว่าปืนกลร่วมแกนยังมีความจำเป็นอยู่มั้ย...  คือผมคิดว่าการที่มันมีแกนเดียวกับ ปืนใหญ่รถถัง จะเอามันมาหมุนไล่ยิงทหารราบ มันคงไม่ใช่หน้าที่หรือประโยชน์ใช้สอยที่แท้จริง... 
   และถ้ามันไม่จำเป็นหรือไม่ค่อยจะมีโอกาสได้ใช้ทำไมรถถังรุ่นใหม่ๆยังติดตั้งปืนกลร่วมแกนอยู่... มีความเห็นว่ายังไงกันครับ

โดยคุณ GT500 เมื่อวันที่ 29/10/2013 10:58:14


ความคิดเห็นที่ 42


ก็ยังจำเป็นครับ เช่นเจอเป้าหมายที่ยิงปืนใหญ่แล้วเสียดายกระสุนหรือยิงปืนใหญ่แล้วลุงเหลิมแกจะหาว่าโอเวอร์รีแอ็คก็ใช้ปก.ร่วมแกนครับ

ใช้ระบบควบคุมการยิงเดียวกับปืนหลักรถถังครับ

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 29/10/2013 11:12:15


ความคิดเห็นที่ 43


ปก.ร่วมแกนยังมีประโยชน์อยู่มากครับ เป้าหมายบางอย่างไม่จำเป็นต้องเอา heat,heshไปไล่ยิงให้เสียของ

รถถังเอากระสุนปืนหลักไปกันราวๆ40นัด แต่พวกปืนกลนี่มีกระสุนเป็นพันๆนัด ในอิรักนี่ก็ยังเห็นใช้งานกันอยู่

แถมไม่ต้องเสี่ยงออกมายิงจากป้อมด้านบน(สำหรับคันที่ไม่มีrcws)

 

โดยคุณ dcalpha เมื่อวันที่ 29/10/2013 11:33:00


ความคิดเห็นที่ 44


ขนาดปืนกลร่วมแกนก็ยังไม่ค่อยเหมือนกันเท่าใด ฝรั่งเศสเน้นปืนกลร่วมแกนขนาด20มม.(เอเอ็มเอ็กซ์-30/32) ปืนกลร่วมแกน12.7มม.(เลอแคร์) แต่ปืนกลเหนือป้อมใช้แค่7.62มม. เท่านั้น

 


โดยคุณ MIG31 เมื่อวันที่ 29/10/2013 11:57:04


ความคิดเห็นที่ 45


ในภาพของคุณdcalphaเป็นM1A1 SA(Situation Awareness) ป้อมปืน.50นั้น ยังไม่ใช่รีโมทคอนโทรล เป็นระบบยิงปก.50จากภายในเหมือนM1A1 ทั่วไป แต่เพิ่มกล้องจับความร้อนและระบบวัดระยะด้วยเลเซอร์  (คล้ายๆPNK-5บนT-84 แต่มีกล้องความร้อน )  

ส่วนM1A2 จำเป็นจะต้องติดป้อมรีโมท เพราะระบบยิงปก.50จากภายในไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากระบบภายในรถที่เปลี่ยนไป ดังนั้นM1A2 /SEP เวลาผบ.รถจะยิงปก.50 จึงต้องโผล่หัวออกมายิง   ตอนแรกคงคิดจะใช้CROWS II แต่มาเปลี่ยนเป็น Kongsberg M151 แทนในconfigแบบTUSK

.............

โดยคุณ icy_CMU เมื่อวันที่ 29/10/2013 11:58:19


ความคิดเห็นที่ 46


เรื่องดีลที่ว่าทำไมเยอรมันไม่เสนอให้เรา ผมว่ามันเป็นเราไม่ออกใบให้เขายื่นข้อเสนอมากกว่าหรือเปล่าครับ ฮา

 

โดยคุณ tongwarit เมื่อวันที่ 29/10/2013 13:14:40


ความคิดเห็นที่ 47


     ^

      มันก็น่าคิด 

      แต่ผมไม่สนหรอก เลโอ... "ไม่สวย" เชอะ ปืนก็เล็ก ป๋องก็ไม่ใหญ่..... 

โดยคุณ GT500 เมื่อวันที่ 29/10/2013 13:50:39


ความคิดเห็นที่ 48


สุดยอดเลยมีกระทู้เกี่ยวกับรถถังมาเมื่อไร ยาวกันทุกที่ แต่ครั้งนี้ผมชอบมากได้ความรู้เยอะเลย ถกกันด้วยเหตุและผลดีกว่าเรื่องอคติส่วนตัวน่ะครับ ส่วนตัวประเทศเราได้อะไรมาผมก็ เชียร์หมดแหละ ขอแค่ได้มาแล้วให้ใช้มันให้เกิดประโยชน์ที่สุดมากกว่าครับ ส่วนเรื่อง อินโดได้ Leo2Evo ไปนี้ผมเสียดายน่ะ แต่เรื่องนี้เข้าใจได้ว่าทำไมเราถึงไม่ได้หรือเราถึงไม่เคยคิดที่จะขอหรือแม้แต่ทางเยอรมันไม่คิดที่จะขายให้ คือเท่าที่ทราบมาทางกองทัพเรากับทางเยอรมัน ค่อนข้างจะมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกันอยู่น่ะ เพราะทางค่ายประชาธิปไตย เขาไม่ค่อยจะปลื้มเท่าไรกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแบบผิดปกติ โดยเฉพาะเยอรมันนี้กับเรานี้เป็นเยอะกว่าเพื่อน เพราะเขาถือว่าบ้านเรายังมีความเสี่ยงสูงที่จะมีรัฐบาลที่มาจากทหารได้ อันนี้ละไว้ในฐานที่เข้าใจครับ

ปล.ประเด็นที่ผมจะเสนอให้มาถกกันคือ ในเรื่องประสิทธิภาพของรถถัง base on สมรภูมิบ้านเรามากกว่าครับ มันจะมีข้อเปรียบเทียบหน่อยว่าอะไรดีหรือว่าไม่ต่างกัน เมื่อเทียบกับวงเงินที่เสียไปครับขอบคุณมาก  

โดยคุณ Odin เมื่อวันที่ 29/10/2013 16:54:29