สังเกตว่ากล้องเล็งหรือกล้องผบ รถจะมีกระจกชิ้นค่อนข้างใหญ่ป้องกันอยู่ ถ้าถูกสะเก็ดระเบิด หรือถูกยิงด้วยปืนไรเฟิลแรงสูง หรือปืนกลแบบตรงๆ จะทำให้เสียการมองเห็นมั๊ยครับ แล้วตัวกระจกป้องกันนี้มันเป็นรายการที่สามารถซ่อมในสนามได้มั๊ยครับ เอาประมาณว่าตาม ปสก ของ ทบ เรา เอง
firepower kill เป็นกลยุทธ์หนึ่งของการกำจัดรถถัง โดยไม่ต้องทำลายรถถัง
กลยุทธ์กำจัดความสามารถในการทำลายความสามารถในการต่อสู้ของรถถังแบบทำลายอาวุธเชิงรุกนั้น ก้รวมถึงการทำลายระบบคคย.ด้วย (และอื่นๆก็เช่น ทำลายปากกระบอกปืน ทำลายความสามารถในการหมุนของป้อมปืน เป็นต้น)
การทำลายรถถังยังมีอีกหลายช่องทางเช่น mobility kill หรือการทำลายความสามารถการเคลื่อนที่ เช่น เครื่องยนต์ สายพาน
กลยุทธ์เหล่านี้มีไว้สำหรับหยุดยั้งรถถังโดยที่ไม่ทำลายรถถัง (อย่างกรณีไม่มีคจตถ.หรืออาวุธทำลายรถถังที่เหมาะสม) .......
ถ้าตอบตาคำถามคือ การถูกทำลายกล้อง กล้องนั้นซ่อมในสนามรบไม่ได้หากถูกทำลาย .....อาจจะต้องเข้าไปซ่อมในvehicle depotในแนวหน้าหรืออาจจะถึงซ่อมขั้นโรงงาน .......
กล้องของรถถังสามารถโดนทำลายได้ง่าย (ยกตัวอย่างเกมอย่างsteel beast ...เคยเห็นคลิปว่า โดนยิงกันเป็นว่าเล่นจากพวกIFV ) แต่รถถังแต่ละคันก็จะมีระบบกล้องสำรองต่างๆกันไป
แต่ในปัจจุบัน หากจะให้ถามว่า จะมีสไนเปอร์ส่องกล้องเล็งรถถังอย่างที่ว่าหรือไม่ ..........ต้องบอกก่อนว่า
1. รถถังที่ไหนจะไปเดี่ยวๆกัน?
2.ระบบกล้องความร้อนของรถถังใหม่ๆจับรังสีความร้อนของมนุษย์ได้ไกล2-4กม. (กล้องcatherine FC ของTHALES บนoplot) ซึ่งเกินระยะที่มือแม่นปืนปกติจะทำได้ ......(สถิติสูงสุดว่าไว้ที่2.5กม.) .....รถถังจึงเห็นก่อนเสมอ(ขึ้นอยู่กับความตื่นตัวของพลประจำรถ)
3.รถถังมีกล้องสำรองหลายอัน อย่างm1a2 นอกจาก gunner sight ก้ยังมีCITV ของผบ.รถ หากโดนยิงทั้งคู่ ก็ยังมีศูนย์เล็งสำรองที่เป็นเปอริสโคป หากเปอริสโคปโดนยิง สไนเปอร์คนนั้นก็คงโดนรถถังคันอื่นหรือทหารราบจัดการไปแล้ว .......อย่างที่บอก รถถังไม่เคยไปเดี่ยว
การส่งสไนเปอร์ไปไล่เก็บกล้องรถถัง คงเป็นสิ่งที่ผบ.คนไหนก็คงไม่อยากจะทำถ้าไม่จำเป็น เพราะความเสี่ยงสูงมาก (จึงไม่มีกรณีรถถังฝ่ายอเมริกันและพันธมิตร โดนสอยกล้อง .....ส่วนที่ซีเรีย เกิดจากrpg ระเบิดระยะใกล้ สะเก็ดเลยโดนกล้อง )
กระป๋องบนหัวเจ้าโอทอป น่ะล่อเป้าชั้นดีเลยครับ เพราะมากันเป็นหน่วยสิครับ ถึงต้องส่งสไนเปอร์แอบสอยกระป๋องก่อน เพื่อเป็นการตัดกำลัง
ใช่เลย ถ้าleo2ล่ะก็ กล้องเล็กกว่ากันเยอะ คงไม่มีสไนเปอร์ที่ไหนยิงได้
DFTT.......
สงสัยต้องใช้ สไนเปอร์เป็นกองพัน ถึงจะเก็บไอ้กระป๋องสูงๆนี่ได้หมด ยกเว้นรถลีโอ มันเทพยิงยังไงก็ไม่เข้า สงสัยซื้อลีโอมาคงบูชาเทพกันแน่นอน ไม่ต้องปัดรังควานเนอะ
พวกแฟนบอยโอทอปนี่ไม่ไหวจริงๆ แก้ตัวให้อยู่ได้
โอทอปรถถังป่าช้า จะสู้รถถังLeo2ได้ยังงัย
น่ากลัวผีสิง บรึ๋ยยยย
DFTT
มีแต่คนบ้าเท่านั้นล่ะครับ ที่จะส่งสไนเปอร์ไปยิงกล้องตรวจการณ์บนรถถัง ต่อให้ยิงโดนทำลายได้ก็มีกล้องประจำพลยิงอยู่ดี
ยิงเสร็จก็โดนสวนมาหน้าแหกแล้ว เอา ATGM ไปยิงไม่ดีกว่ารึ
อันนี้ผมถามแบบมีสาระนะ อย่าโกรธกันนะ ไอ้เคส sniper นะคงยาก แต่ถ้าข้าศึกใช้ปืนใหญ่แตกอากาศหรือสะเก็ตระเบิดจากกระสุนปืนใหญ่ ล่ะ กระจกของกล้องต่างๆ รวมถึง oplot จะมีปัญหาไหม
มีแน่นอน
สะเก็ดระเบิดนอกจากทำmobility kill ได้ ยังอาจะทำให้ปืนใหญ่ของรถถังหรือระบบกล้องเสียหายได้ไม่ยาก
ปืนใหญ่ขนาด155 ที่เป็นcargo round ยังสามารถทำลายรถถังที่หลังคาบางๆได้ด้วย (พระวิหารนี่ตัวอย่างชั้นดี)
ขอบคุณท่าน icy ครับ ตอบละเอียดดีครับ ตอนถามผมนึกถึงหลายสถาณการณ์อยู่เหมือนกันครับ เช่นที่โดนยิงด้วยปืนรถถัง/อาวุธปล่อยแล้วมันโดนตัวรถแต่ไม่เข้าแล้วERA มันระบิดมีสะเก็ดออกมา หรือปืนใหญ่มาตกใกล้ๆ
เรื่องกระป๋องบน oplot ถามว่ายิงแล้วแตกไหมมันก็แตกแน่ๆ กล้องตรวจการณ์สำหรับ ผบ รถ กับกล้องเล็งหรือระบบควบคุมการยิงมันคนละตัวกันนะครับแล้วก็มีขนาดเล็กมากด้วย แต่ก็มีโอกาสถูกยิงโดนครับ แต่โอกาสที่จะมีคนมาเล็งยิงกล้อง มันน้อยกว่าโอกาสที่จะโดนอาวุธปล่อยทำลายรถถังเยอะเลยนะครับ...555
ย้อนมาที่ประป๋องหน่อยมันคือกล้องตรวจการณ์ ของ ผบรถ ไม่ใช่กล้องสำหรับเล็งเป้านะครับ ประโยชน์มันผมว่ามันจะได้เปรียบในเวลาที่พลประจำรถจำเป็นที่จะต้องรบแบบ ปิดป้อม คือไม่สามารถออกมา นอกรถได้ เช่น สงครามในพื้นที่ รังสี สงครามเคมี พื้นที่ที่ถูกระดมยิงจากปืนเล็กอย่างหนัก การมีกล้องตรวจการณ์ที่สามารถหมุนตรวจสภาพสนามรบได้โดยรอบ จึงน่าจะได้เปรียบกว่า รถถังแบบอื่นที่มีกล้องตรวจแต่เพียงด้านหน้าอย่างเดียว
เลโอรุ่นใหม่เดี๋ยวก็มีกระป๋องติดหัวเหมือนกันครับ
^
รู้สึกกล้องก็บังปืนกลนะครับ แหม่
ชักสนุกไปหากระป๋องมาให้อีก อิอิ
เลอคล้าก ก็มีกระป๋อง
เอ บรามส์ ก็มี ป๊องงงงง
^
รูปที่สอง T-90MS ก็มีป๋อง
สรุป รถถังยุคใหม่จะถูกใจวัยรุ่นอินเทรนต์ ต้องมีป๋อง จายยยย ป่ะ
(แต่ป๋องเรามันก็ใหญ่เกินไปจริงๆนะ ให้มันเตี้ยอีกนิดก็ไม่ได้ มึงจะเอามุมกว้างขนาดไหนวะ)
จากรูปเจ้า ลีโอ(ตัวอัพเกรต) ลองจินตนาการดูสิครับ ถ้ามันพรางลายดิจิตรัล ทบ. มันจะงามขนาดไหน ส่วนเรื่องกระป่อง น่ะเข้าใจนะครับว่ารถถังสมัยไหม่ต่างก็มีกัน แต่เจ้าโอทอปเนี้ยผมว่าน่าจะไหญ่ที่สุดในโลกและ สไนเปอร์เห็นแล้วคงจะหมั่นเขี้ยวมาก นิ้วแทบสั่นอย่ากจะลั่นไก ส่วนเรื่องปืนกลของ เจ้าลีโอ ผมว่ามันอยู่สูง กว่ากระป๋องนะ น่าจะหมุนได้รอบตัวน่ะแหละ จะว่าไปนี่จุดเทียนยามค่ำคืนประกอบรถถังนี่ก็โรแมนติคดีไม่เบานะ แหม่ ^ ^
กล้องผบ.รถ ของLeo2A5 M1A2 Leclerc K1A1 K2 และ Oplot ใช้ตรวจการณ์และเล็งเป้าได้
โหมดOveride ของผบ.รถมีไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่ก็ใช้ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ
กล้องของผบ.รถนอกจากจะใช้ดูสถานการณ์แล้ว ยังสามารถinputข้อมูลของเป้าหมาย(ทางมุม ทางทิศ และระยะ )เข้าในระบบคคย.ของรถถังได้ หลังจากพลปืนต่อตีเป้าหมายแรกแล้ว ผบ.รถ/พลปืนก็จะคุมป้อมปืนให้หันไปที่เป้าหมายที่สอง ประโยชนืของมันก็คือลดเวลาในขั้นตอนต่างๆที่พลปืนจะต้องทำอย่างการวัดทิศทางเป้า มุมเงย และระยะของเป้า เหลือแค่เพียงinputข้อมูลอย่างสภาวะอากาศ ลม ความเบี่ยงเบนของปืน(ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติ)แล้วยิงได้เลย ช่วยลดระยะเวลายิงระหว่างเป้าหมายได้อย่างดี ในขณะเดียวกันผบ.รถสามารถค้นหาเป้าหมายต่อไปได้เลย หรือยังใช้เป็นกล้องสำรองได้อีกด้วย
เหตุนี้จึงใช้คำว่าHunter-Killer ในรถถังที่ติดกล้องจำพวกนี้ นั่นคือ ค้นหา(โดยผบ.รถ)และทำลาย(โดยพลปืน หรือผบ.รถในบางกรณี)
คุณสมบัติH-K แบบเต็มรูปแบบที่สำคัญคือ
1.มีกล้องตรวจการณ์ผบ.รถที่สามารถหมุนได้รอบทิศ (กล้องPNK-3 /4/5 ของT-72 T-90 จึงไม่นับเข้าเป็นกล้องตรวจการณ์ผบ.รถ)
2.กล้องผบ.รถสามารถทำงานได้ทั้งกลางวัน-กลางคืน(มีกล้องตรวจจับความร้อน ----Sagem Vigy บนPT-91 ของมาเลเซียไม่มีกล้องตรวจจับความร้อน รวมถึงPERI 17A1 ของLeo2A4)
3.กล้องผบ.รถจะต้องสามารถวัดระยะได้/มีเลเซอร์วัดระยะ
4.ระบบคคย.ของผบ.รถจะต้องสามารถใช้ร่วมกับพลปืนในการส่งเป้าหมายให้พลปืนจัดการ
5.ผบ.รถมีความสามารถในการยิงปืนจากตำแหน่งของตนเอง (-มีมานานแล้ว หากจำไม่ผิดT-54ก็ทำได้ โดยใช้การตรวจการณ์ผ่านเปอริสโคป แล้วผบ.รถก็จะคุมปืนแทนพลปืนได้ เพียงแต่ไม่มีกล้องเล็งให้ผบ.รถ จึงใช้ตำแหน่งอ้างอิงจากปากลำกล้องแทน .....โบราณสุดๆ หรือ หากจำไม่ผิด M60A3 ก็ใช้กล้องเล็งปก.หนักของผบในการตรวจการณ์แล้วใช้โหมดควบคุม แล้วจึงใช้กล้องเล็งที่ใช่ร่วมกับพลปืน ในการยิงเป้าหมาย.-นี่ก็พัฒนามานิดหน่อย )ในเหตุจำเป็นอย่างกรณีกล้องพลปืนพัง หรือผบ.รถเจอเป้าหมายที่สำคัญกว่าและเร่งด่วนอย่างเป้าหมายที่จู่ๆโผล่มา
กล้องผบ.รถนอกจากจะใช้ตรวจสถานการณ์โดยรอบๆแล้ว ยังต้องเป็นอุปกรณ์ช่วยในเรื่องของระบบคคย. อีกทั้งเป็นศูนย์เล็งสำรองได้ด้วย
คลิปคอนเซ็ปท์คร่าวๆของH-K
cและภาพของกระป๋องAltay .........
.
ป๋องพูม่า ............ป๋องของLeo2A7 หรือLeo2A4EVO/NG โดนปืนบังในมุมด้านหลังเต็มๆนะครัช แล้วไม่ใช่มุมแคบๆด้วย
และกล้องเล็งของปก.รีโมท ก็โดนป๋องบังในมุมป้อมด้วย หุหุ
จากการสอบถามเพื่อนคนยูเครนเค้าบอกว่า ทำไมกระป๋องบนoplotมันถึงใหญ่นัก ได้รับคำตอบว่า
มันเป็นความพยายามของสำนักออกแบบที่จะให้กล้องของผบ.(กระป๋อง) มันควบคุมปืนให้ยิงได้ในมุมสูง(65องศา) โดยไม่ต้องทำป้อมรีโมทแยกออกมา หากทำแบบของT-90MS ก็จะยิงได้ในมุมที่ไม่สูงพอ (ไม่ถึง50องศา) กล้องของOplotจึงออกมาใหญ่อย่างนี้แหละ
(การยิงมุมสูง นอกจากจะใช้ยิงเป้าหมายทางอากาศแล้ว ยังใช้ในกรณีสู้รบในเมือง ซึ่งปืนกลอาจจะต้องเงยไปยิงคนบนตึกรอบๆด้วย)
แต่ระบบกล้องไม่ได้อยู่ในตัวกระป๋อง แต่อยู่ในตัวรถ กระป๋องที่ว่าเป็นแค่เปอริสโคปเท่านั้น โดนยิงไป ราคาก็ไม่ได้แพงมาก(แนวคิดเดียวกับPERI17A2)
แต่แหม่่่่่่่่่่่่่่ พวกแฟนบอยของโอท็อปยังดิ๊ฟกันไม่เลิก อย่าลืมได้มา 5 แรก ต้องเอาหมอผีจากแอฟริกามาปัดรังควานนะครับ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น ลีโอละก็ มันเทพมหาเทพจริงๆ รถถังแบบเทพมหาเทพ อย่าลืมร่างทรงของบรรดาเทพต่างๆมาเจิมด้วยนะครับ เพราะมันเทพจริงๆ
อ่านกระทู้ของพี่ icy แล้วผมฉลาดขึ้นเยอะเลย ชอบจริงๆข้อมูลลึกๆ สรุปก็คือ ไอ้ป๋องยักษ์เนี่ย คือ คุณค่า ที่ ปลอดคู่ควรสินะ....
ปืนกลรีโมทของLeoมีหลายแบบ ไอ้รุ่นที่ท่านเห็นในรูปถ้าไม่เงยกระบอกโดนกล้องแน่นอนแจ้
กระป๋องมันใหญ่ ก็มีประโยชน์ของมันน้ะ ไม่งั้นมันจะทำใหญ่ๆ ทำไมน๊ออ """.
ฮา แทงกันนัว จุดเทียนประกอบรถถังนี่ฮาสุดละ(กวนได้โล่) ประกอบรถถังก็ต้องใช้ไฟฟ้ากับเครื่องไม้เครื่องมืออยู่ดีครับ
เอาคุยแบบดีๆนะครับ
ถามหลวงพี่ครับว่า ถ้าการออกแบบกล้องของยูเครนพยายามให้ยิงมุมสูงได้โดยไม่ต้องทำป้อมรีโมทแยก ก็แล้วทำปอมรีโมทแยกมันไม่ดียังไงครับ ผมว่าดีออก เช่นตัว flw200 ยิงได้ทุกทิศทาง มุมเงยก็ได้สูงกว่ามาก ระบบตรวจการณ์กลางวันกลางคืน มีสแตบิไลเซอร์อีกขนาดก็ไม่ใหญ่นะครับ อีกอย่างทำไมถึงกล้อง pnk-6 ถึงมีมุมเงยสูงครับ ฝาครอบใหญ่กล้องข้างในเลยเงยได้?
เรื่องปืนบังป้อมกับป้อมบังปืน คือไม่อันใด้อันหนึ่งก็ต้องบังกันอยู่แล้ว ซึ่งผมว่าทางที่ดีที่สุดก็คือทำป้อมรีโมทแยกนั่นแหละ ปืนหันไปทางไหนกล้องก็หันตาม
ผมไม่เข้าใจนะ
ฝ่ายที่เชียร์คันไหนก็ควรเอาข้อดีของคันนั้นๆมาบอกไม่ใช่เหรอ เทียบกันตรงๆเลยว่าอันไหนดีกว่าอันไหนไม่ใช่แบบบางคนมานั่งบ่นหน้าตาของคันนึงแล้วไปชาบูอีกคันนึงโดยไม่ได้เอาข้อมูลมาลงแบบท่านไอซ์สักแอะ
Leo2Evoก็ไม่ได้เหนือกว่าไปซะทุกอย่าง(มีอะไรเหนือกว่าบ้าง ฝ่ายที่ชาบูเอามาลงแบบเป็นตัวเลขกันหน่อยครับ)
ถ้าเป็นLeopard2A6ยอมรับว่ามันเทพจริง ไม่มีข้อก้งขาเลยกับเจ้านี่ ได้มาใช้ผมก็ไม่เอาOplotหรอกครับ(แต่แพง...) ปัญหาคือมันไม่มีในตัวเลือก ซึ่งในตัวเลือกที่มีทุกรุ่นมันก็พอฟัดพอเหวี่ยงกันเกือบหมด(ยกเว้นK1ถ้าเป็นปืน105อำนาจการยิงดูจะต่ำไปนิด ถ้าปืน120ก็สบายๆ) ถ้าอยากได้ลีโอก็จัดเทียบสเปคแบบตารางนิ้วเลยครับ ไม่เอาหน้าตานะเอาแค่สมรรถภาพ(เพราะหน้าตาถือเป็น"อคติ"ส่วนบุคคล...ทั้งทางดีและเสีย)
แหม่ จะเล่นมุขไหน หลางพี่ก็บล๊อคได้หมดเลย รอบนี้ผมแพ้ซะแล้ว จะขอแก้ตัวในคร้งหน้าก็แล้วกัน
ปล.ถ้าดีลโอทอปล้มเมื่อไหร่เรามาเป็นเพื่อนกันนะครับ ^ ^
ไม่ใด้คิดว่าจะเป็นเหตุให้เอาออปลอตมาเทียบกับ ถ อื่นๆหรอกนะครับ ผมมองสองประเด็นคือ
1) แผนการซ่อมบำรุง ในใจอยากให้. ทบ สต๊อก อะไหล่สำคัญๆอย่างนี้ รวมถึงความรู้ในการซ่อมบำรุง
เพราะถ้ารถไม่เสียหายทั้งคันเราน่าจะตั้งเป้าไปที่ซ่อมคืนสภาพได้เองทั้งหมด
2) ในส่วนชองกล้องตรวจการณ์ และ. คคย มันจะเป็นอะไรที่แยกส่วนมาให้ kcp ทำการ ซ่อมบำรุง
และดัดแปลงได้มั๊ย? ผมเสียดายความรู้และ ปสกที่ kcp มีจากโครงกปรับปรุง คคย ให้ ถ ของเรา
ระบบกล้องตรวจการดี+ คคย ดีๆนี่เอาไปผนวกกับ เฟิสวิน แล้วเราจะได้รถรบที่มี ปสพ สูงขึ้นมากเลยละ่ครับ
ถ้าคุณ yuki พูดถึง leo ในภาพของคุณ GT500 นี่จะบอกว่านั่งฝันได้เลยตัวนั้น
กล้องเล็งรถถังที่ไว้ใจได้ที่สุดคือกล้องเล็งที่ติดกับป้อมเนี้ยล่ะครับ รถถังตระกูลT แทบจะมีกล้องเล็งหลักเล็กที่สุดเทียบกับบรรดารถถังด้วยกัน
ถ้ากล้องใหญ่เต็มหน้าก็เลอแคร์ ฝรั่งเศสนั้นเอง แต่ที่ว่า ถ้าจะยิงใส่ตรงหน้าต้องวัดกับระบบตรวจจับประสิทธิภาพสูงเหมือนกัน
ระบบแสนบอบบางพวกนี้ถ้ารบในเมืองผมว่ารอดยาก โดยเฉพาะหลังคาเนี้ยล่ะ การคุกคามจากอาวุธวิถีโค้งมีทั้งปืนค. กระสุนปืนใหญ่แบบต่างๆ ง่ายๆว่าเจอลูกแตกอากาศไป กระป๋องไหนๆก็แหลก
อีกอย่างถ้าจะเล็งยิงจากตรงหน้า ก็โดนรถถังยิงสวนแน่ๆเหมือน รัสเซียปราบมือสไนเปอร์ในเชเชนก็ใช้กล้องรถถังเนี้ยล่ะค้นหา
เรื่องทำไมไม่ทำป้อมรีโมทแยก .............เข้าใจว่า
1.เนื้อที่บนป้อมไม่อำนวย ป้อมของรถถังฝ่ายรัสเซีย/โซเวียต มีขนาดเล็ก ทำให้ติดป้อมรีโมทไม่ถนัด หากติดได้ก็เป็น7.62 กระสุนก้เล็กไปอีก
2.ราคาที่เพิ่มมา
3.ความอินดี้ของสำนักออกแบบ 5555555
ประเด็นข้อแรกดูเป็นไปได้ที่สุด อย่างT-90MSที่มีขนาดป้อมพอๆกัน ก็ต้องรวมกล้องตรวจการณ์เข้ากับปืน เพื่อทำเป็นป้อมรีโมท ......
ประเด็นข้อสามก็อย่ามองข้ามไป จริงๆแล้วหากติดsensorเข้ากับปก.ในตำแหน่งเดิมของoplot ก็น่าจะทำได้ .....คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากความอินดี้ของสำนักออกแบบ เพราะจะว่าเรื่องเทคโนโลยีจำกัดก็ไม่น่าใช่ ในเมื่อสามารถทำป้อมรีโมทขนาด30มม.ได้(อย่างShKVAL บนBTR-3E1) แค่ติดกล้องทีวี+เลเซอร์วัดระยะ+กล้องกลางคืน ให้กับปก.หนักก็ไม่น่าจะยาก
อย่างT-64E ต้องเสริมป้อมเพื่อติดตั้งป้อมปืนรีโมท
ที่บอกจะให้เอา สเปคจากแคทตาล็อค มาเทียบกันนั้นผม ดูแล้ว leo กับ oplot ไม่ได้ด้อยกว่ากันซักเท่าไหร่ ที่ oplot เด่นกว่าชัดๆก็เห็นจะเป็นด้าน mobility
ฉายา flying tank ของรถถังตระกูล T-80 นั้นคงไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ซึ่งแน่นอนมันต้องถ่ายทอดถึง oplot ด้วย
Oplot หนัก 46 ตัน มีแรงม้าต่อตันอยู่ที่ 26 hp/ton
Leo. หนัก 68 ตัน มีแรงม้าต่อตันอยู่ที่ 24.1hp/ton
ต้องถือว่า เป็นสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมของ leo ที่หนักกว่าเกือบ 20 ตันแต่มีแรงม้าต่อน้ำหนักที่ใกล้เคียง oplot ที่เบากว่ามาก แต่อย่างไรก็ตามจากสเปคดังนี้ทำให้เห็นได้ว่า oplot น่าจะคล่องตัวกว่า ถึงแม้ทั้งคู่ จะมีความเร็ว สูงสุด ใกล้เคียงกันคือที่ ประมาณ 70 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง แต่ความเร็วในการออกตัว เช่น จาก 0-70 oplot น่าจะทำได้ดีกว่า
อีกประการจากสเปคแคทตาล็อคที่ไม่น่าเอามาเทียบ แต่ผมรู้สึกว่าเอาน่ะ มันก็เหนือกว่านะ คือเรื่องการลุยน้ำลึก
Oplt นั้น สามารถลุยน้ำลึกโดยไม่ติดตั้งอุปกรเสริมได้ถึง 1.8 เมตร และ 5 เมตรเมื่อติดตั้งอุปกรณ์เสริม
ในขณะที่ Leo ลุยน้ำลึกแบบไม่ติดตั้งอุปกรณ์ได้แค่ 1 เมตร และติดตั้งอุปกรณ์ได้ 4 เมตร
ซึ่งตรงนี้ไม่รู้สินะกับประเทศที่น้ำท่วมซ้ำซากอย่างบ้านเราอาจมีประโยชน์ 555
อีกประการคือ oplot ปืนโตกว่า. ซึ่ง...นานาจิตตังนะ (พอดีผมมีปัญหากับเรื่องขนาด)
ส่วนเรื่องความแม่นยำไม่เคยมีคลิปหรือเอกสารอะไรที่ทดสอบ oplot กับ leo แบบตรงๆ เห็นก็จะมีแต่คลิปของทางฝั่งรัสเซียที่ทดสอบ T-90 กับ Abrams ที่ผมเคยโพสคลิปแต่มันไม่ขึ้น(บ่องตง ผมโพสยูทูปไม่เป็น โง่ว่ะ)
การทดสอบทำโดยให้รถเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 25 กิโลเมตร ยิงเป้าหมายจากระยะ 1.5 ถึง 3 กิโลเมตร ในเวลา 54 วินาที ซึ่งทางพี่รัสเซีย เค้าบอกของเค้า ยิงถูกเป้า ถึง 7 เป้าใน 54 วินาที โดยในคลิป เค้าแวะมาขบ Leo ว่า ยิงโดนแค่เป้าเดียว (ก็พิจารณาเอานะเชื่อไม่เชื่อ)
ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับ oplot หรอก 555 แต่ผมมองว่า ยูเครน กับ รัสเซีย สร้างรถถังมาจากองค์ความรู้เดียวกัน อย่างน้อยก็น่าจะมีข้อดีติดมาไม่น้อย..(อย่างน้อยมึงก็ต้องโดนซักเป้าให้เท่า Leo ละวะ)
อีกประการคือเรื่องแผ่นเกราะ ERA ในคลิปเดียวกันพี่รัสเซียเค้าบอกเค้าทดสอบโดยให้ T-90 โดนปืน 120 มม ขนาดเดียวกับ Abrams ยิงถึง 6 นัด โดยที่ตัวรถไม่ได้รับความเสียหายมีเพียงแผ่นเกราะภายนอกที่หลุดออกเท่านั้น (เชื่อไม่เชื่อก็พิจารณาเอานะ)
มันก็ไม่เกี่ยว กับ oplot อีกแหละ 5555 แต่มันก็มี ERA เหมือนกันถึงคุณภาพจะด้อยกว่าของพี่รัสเซีย แต่มันก็น่าจะทนได้ซักนัดละวะ
สรุปตอนแรกเทียบสเปค แคทตาล็อคล้วนๆว่ากันด้วยเหตุผล ตอนหลังๆนี่อารมณ์ล้วนๆ ใครอยากมีสาระให้อ่านแต่ท่อนแรกครับ 555
ปล ผมพิมพ์ในโทรศัพท์ ย่อหน้ามันอาจจะโดดไปโดดมา ขออภัยด้วยครับ
(พอดีผมมีปัญหากับเรื่องขนาด) ....................เอ่อ 555555
กระสุน125มม.ของรัสเซีย/โซเวียต/ยูเครน ยังมีประสิทธิภาพสู้กระสุน120มม.ไม่ได้ เพราะเป็นกระสุนแยกส่วน พลังงานของดินขับสูญเสียเยอะ (ไม่ได้ดันลูกกระสุนโดยตรงเหมือนกระสุนเต็มนัด) อีกทั้งเทคโนโลยีดินขับของรัสเซีย/ยูเครน ยังด้อยกว่าฝั่งนาโต้ ถึงเพิ่มพลังดินขับได้ ปืนก็มีข้อจำกัดในเรื่องความดันในรังเพลิง ปืนตระกูล2A46/D81 เลยจะถูกแทนที่ด้วยปืน2A82ที่มีแรงดันรังเพลิงมากกว่าในรถถังArmata
...........เสียดายรถถังทบ. ไม่ได้ใช้ปืนVityaz 50คาลิเบอร์ ไม่งั้นพอมีลุ้นว่าจะมีพลังการยิงเทียบเท่าปืน120มม.ได้
http://kbao.com.ua/tankovaja_pushka_50l_vitjaz.html
ปืนโตกว่าห้ามิลิโมตรเนี่ยนะครับ ฮา เข้าใจว่าเน้นอารมณ์ล้วนๆ
ความจริงเส้นผ่าศูนย์กลางลำกล้องปืนอย่างเดียวไม่ได้บอกอะไรเลยนะครับ ยิ่งเป็นกระสุนพลังงานจลน์หัวรบกับลำกล้องคนละไซส์
ทีนี้ถ้าพูดถึงส่วนดินขับอย่างเดียวว่าอันไหนแรงกว่าก็ต้องวัดความยาวด้วย
อนึ่งปืนของลีโอพาร์ดลำกล้องยาวกว่าพอตัวเลย (อันนี้เรื่องความแม่น)
เรื่องกล้องบนป้อมปืนนั้นส่วนตัวมองว่าจะเล็กจะใหญ่ถ้าสไนป์เปอร์มันจะส่องมันเล่นได้ทั้งหมดครับ แต่ว่าจะมีสไนป์เปอร์คนไหนหาญกล้าต่อกรกับรถถัง ส่วนเรื่องเกราะของ LEOPARD2A6 นั้นเกราะน่าจะเป้นแบบใหม่ แต่ถ้าจะเอา LEOPARD2A4 มือสองผมคาใจครับว่าเกราะมันจะเหนือกว่า OPLOT เพราะเป็นเกราะที่พัฒนามาหลายปีแล้ว ที่สำคัญเกราะรถถังชาร์เลนเจอร์อังกฤษที่ว่าดีที่สุดเรียกว่าวิศวกรมั่นใจที่สุดยังเสร็จอาวุธโจมตีรถถังที่ยิงจากด้านหน้าถึงขั้นพลขับสาหัส ในส่วนตัวจึงมองว่ารอบบ้านเราตอนนี้รถถังอะไร OPLOT เอาอยู่ครับ
ลำกล้องของleoa4 คือ44คาลิเบอร์ =5280มม.
ลำกล้องของoplot คือ48คาลิเบอร์ =6000มม.
ลำกล้องปืนรัสเซียยาวกว่า120 L44 แต่สั้นกว่าL55 ของA5/6
เอาละวะ..ทั้งยาว ทั้งใหญ่ สะใจ ฝุดๆ....(เรื่องคุณภาพกรูไม่แคร์แย้วว)
ปล.เถียงกันเรื่อง Mobility บ้างดิ
เกราะa4ไม่ติดเกราะเสริม ด้อยกว่าoplotแน่นอน โดยเฉพาะตรงจุดที่เป็นกล้องของพลปืนนั้นบางทีเดียว
แต่ถ้าเสริมแล้ว ก็น่ากลัวทีเดียวล่ะ (เกราะเสริมของSGและREVO เป็นนาโนเซรามิคคอมโพสิต รุ่นAMAP B และAMAP SC ที่โดยส่วนตัวยกให้เป็นเกราะเสริมคอมโพสิตลามิเนตที่ดีที่สุด พิสูจน์ผลงานโดยPATRIA AMV/ROSOMAK ในอาฟกานิสถาน ที่โดนRPGไปหลายลูกก็ยังกลับฐานได้ปลอดภัย)
ส่วนA5/A6 มีการย้ายตำแหน่งกล้องพลปืนทำให้จุดอ่อนดั้งเดิมของA4หมดไป แล้วเสริมเกราะด้านหน้าเป็นเกราะlaminate ซ้อนหลายชั้น(ทำด้วยเซรามิค+ทังสเตนเจาะรู) +ช่องว่าง/Spaced Armor เพื่อสร้างความเครียดให้กระสุนAPFSDS จนหักหรือเสียพลังงานไป หรือถ้าเป็นกระสุนHEATก็จะเจอกับช่องว่างในเกราะพลังงานของเจ๊ทโลหะก็จะกระจายไป
โดยส่วนตัวคิด(แบบไม่เข้าข้าง) รถถังที่ดีที่สุดในอาเซียนตอนนี้คือleopard2 revo ของอินโดนีเซีย (หากมาแบบฟูลออปชั่น)
ส่วนoplot มาเป็นที่2 ร่วมกับLeopard2 SG ของสิงคโปร์
อันดับ3ยกให้PT-91M ของมาเลเซีย
อันดับ4 T-55M3ของเวียดนาม
อันดับ5 M60A3ของทบ.ไทย
อันดับ6 T-72S ของพม่า (ระบบต่างๆยังเป็นของโซเวียต ด้อยกว่าT-55M3และM60A3ไม่ว่าจะเรื่องเกราะ ระบบคคย. จะมีดีกว่าก็คือปืน125มม.นั่นแหละ แต่105ของทั้งT-55M3และM60A3ก็จัดการT-72ได้ในนัดเดียวเช่นเดียวกัน)
รถถังที่เราไม่ได้พัฒนาเองจะมองทุกอย่างมันไร้ที่ติก็ไม่ได้
ง่ายๆว่าOplot มันก็ข่มเพื่อนบ้านที่ชายแดนติดกันได้ทุกสารทิศ ถึงเราประจำการLeo2A4 เจอ125มม. จากT-72M PT-91M พวกนี้เข้าไป ผมยังไม่แน่ใจเลยว่าไอ้ที่ชื่นชมนักหนามันจะรอดรึเปล่า โดยเฉพาะรายหลังที่ใส่อุปกรณ์SAGEM เต็มๆคัน
บางครั้งสไนเปอร์ ก็โชว์มาแล้วครับอย่างเชสเนีย นี่กล้องเล็กๆอย่างbmp-1ก็โดนสอยเบ้าตาแตกมาแล้ว
ส่วนเรื่องความสูงของกระป๋องมันมีทั้งข้อดีข้อเสีย อย่างเมกาที่ใช้crows rcwsติดบนm1 abrams
ก็เหมือนจะเจอประสบการณ์ตรงรบในเมืองมาแล้วว่ามันใหญ่เกะกะ โอกาสถูกทำลายง่ายเกินไป
ดูเหมือนจะมีระบบควบคุมแบบใหม่ที่เบาลง,เล็กและเตี้ยลงกว่าเดิมมากมาแทนในอนาคต
ดูแล้วผมชอบการออกแบบป้อมของT-64E มากกว่าoplotแหะ
อ่านมาถึงตรงนี้ก็เลยสงสัยครับว่า ทำไมหนออินโดฯถึงได้ดีลที่ดีมากขนาดนี้จากทางเยอรมัน ในขณะที่เราไม่ได้แม้กระทั่งการยื่นข้อเสนอเข้าแข่งขันเลยด้วยซ้ำ ช่างน่าเสียดายจริงๆ
อย่างรถถัง Leopard เคยมีการทดสอบติดตั้งป้อมปืน20มม. ควบคุมด้วยรีโมท ตั้งแต่ออกแแบบแรกๆ สุดท้ายไม่ได้ติดตั้งเพราะเรื่องขนาดเนี้ยล่ะ
จริงๆผมกำลังจะตั้งกระทู้ถามเรื่องปืนกลร่วมแกน พอดีมีเรื่องกล้องเข้ามาเลยมามันอยู่นี่ไม่ได้ไปไหน ไหนๆก็มาแล้ว ถามในนี้เลย
คือผมดูสารคดีมาแล้วเพิ่งจะถึงบางอ้อว่า ปืนกลร่วมแกน แท้ที่จริงแล้ว เค้าคิดค้นมาตั้งแต่สมัยสงครามโลก และประโยชน์ใช้สอยของมันคือใช้ยิงเพื่อหาระยะที่ถูกต้อง โดยการยิงปืนกลไปก่อน พอกระสุนปืนกลโดนเป้าจึงยิงปืนใหญ่ตามไป ทำให้สามารถยิงโดนเป้าได้ตั้งแต่นัดแรก
ทีนี้พอกาลเวลามันเปลี่ยนไป มีเทคโนโลยีกล้องเล็งและระบบควบคุมการยิงที่ทันสมัย ท่านทั้งหลายคิดว่าปืนกลร่วมแกนยังมีความจำเป็นอยู่มั้ย... คือผมคิดว่าการที่มันมีแกนเดียวกับ ปืนใหญ่รถถัง จะเอามันมาหมุนไล่ยิงทหารราบ มันคงไม่ใช่หน้าที่หรือประโยชน์ใช้สอยที่แท้จริง...
และถ้ามันไม่จำเป็นหรือไม่ค่อยจะมีโอกาสได้ใช้ทำไมรถถังรุ่นใหม่ๆยังติดตั้งปืนกลร่วมแกนอยู่... มีความเห็นว่ายังไงกันครับ
ก็ยังจำเป็นครับ เช่นเจอเป้าหมายที่ยิงปืนใหญ่แล้วเสียดายกระสุนหรือยิงปืนใหญ่แล้วลุงเหลิมแกจะหาว่าโอเวอร์รีแอ็คก็ใช้ปก.ร่วมแกนครับ
ใช้ระบบควบคุมการยิงเดียวกับปืนหลักรถถังครับ
ปก.ร่วมแกนยังมีประโยชน์อยู่มากครับ เป้าหมายบางอย่างไม่จำเป็นต้องเอา heat,heshไปไล่ยิงให้เสียของ
รถถังเอากระสุนปืนหลักไปกันราวๆ40นัด แต่พวกปืนกลนี่มีกระสุนเป็นพันๆนัด ในอิรักนี่ก็ยังเห็นใช้งานกันอยู่
แถมไม่ต้องเสี่ยงออกมายิงจากป้อมด้านบน(สำหรับคันที่ไม่มีrcws)
ขนาดปืนกลร่วมแกนก็ยังไม่ค่อยเหมือนกันเท่าใด ฝรั่งเศสเน้นปืนกลร่วมแกนขนาด20มม.(เอเอ็มเอ็กซ์-30/32) ปืนกลร่วมแกน12.7มม.(เลอแคร์) แต่ปืนกลเหนือป้อมใช้แค่7.62มม. เท่านั้น
ในภาพของคุณdcalphaเป็นM1A1 SA(Situation Awareness) ป้อมปืน.50นั้น ยังไม่ใช่รีโมทคอนโทรล เป็นระบบยิงปก.50จากภายในเหมือนM1A1 ทั่วไป แต่เพิ่มกล้องจับความร้อนและระบบวัดระยะด้วยเลเซอร์ (คล้ายๆPNK-5บนT-84 แต่มีกล้องความร้อน )
ส่วนM1A2 จำเป็นจะต้องติดป้อมรีโมท เพราะระบบยิงปก.50จากภายในไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากระบบภายในรถที่เปลี่ยนไป ดังนั้นM1A2 /SEP เวลาผบ.รถจะยิงปก.50 จึงต้องโผล่หัวออกมายิง ตอนแรกคงคิดจะใช้CROWS II แต่มาเปลี่ยนเป็น Kongsberg M151 แทนในconfigแบบTUSK
.............
เรื่องดีลที่ว่าทำไมเยอรมันไม่เสนอให้เรา ผมว่ามันเป็นเราไม่ออกใบให้เขายื่นข้อเสนอมากกว่าหรือเปล่าครับ ฮา
^
มันก็น่าคิด
แต่ผมไม่สนหรอก เลโอ... "ไม่สวย" เชอะ ปืนก็เล็ก ป๋องก็ไม่ใหญ่.....
สุดยอดเลยมีกระทู้เกี่ยวกับรถถังมาเมื่อไร ยาวกันทุกที่ แต่ครั้งนี้ผมชอบมากได้ความรู้เยอะเลย ถกกันด้วยเหตุและผลดีกว่าเรื่องอคติส่วนตัวน่ะครับ ส่วนตัวประเทศเราได้อะไรมาผมก็ เชียร์หมดแหละ ขอแค่ได้มาแล้วให้ใช้มันให้เกิดประโยชน์ที่สุดมากกว่าครับ ส่วนเรื่อง อินโดได้ Leo2Evo ไปนี้ผมเสียดายน่ะ แต่เรื่องนี้เข้าใจได้ว่าทำไมเราถึงไม่ได้หรือเราถึงไม่เคยคิดที่จะขอหรือแม้แต่ทางเยอรมันไม่คิดที่จะขายให้ คือเท่าที่ทราบมาทางกองทัพเรากับทางเยอรมัน ค่อนข้างจะมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกันอยู่น่ะ เพราะทางค่ายประชาธิปไตย เขาไม่ค่อยจะปลื้มเท่าไรกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแบบผิดปกติ โดยเฉพาะเยอรมันนี้กับเรานี้เป็นเยอะกว่าเพื่อน เพราะเขาถือว่าบ้านเรายังมีความเสี่ยงสูงที่จะมีรัฐบาลที่มาจากทหารได้ อันนี้ละไว้ในฐานที่เข้าใจครับ
ปล.ประเด็นที่ผมจะเสนอให้มาถกกันคือ ในเรื่องประสิทธิภาพของรถถัง base on สมรภูมิบ้านเรามากกว่าครับ มันจะมีข้อเปรียบเทียบหน่อยว่าอะไรดีหรือว่าไม่ต่างกัน เมื่อเทียบกับวงเงินที่เสียไปครับขอบคุณมาก