สมมติว่าเรือฟริเกตใหม่เราไม่ได้เป็นSaabนะครับ คิดเล่นๆ ผมไม่มีความสามารถในการทำรูปประกอบก็เป็นตัวหนังสือไปก่อนแล้วกัน
ต้นปี2557
เรือฟริเกตลำแรกต่อในเกาหลีใต้คล้ายกับแบบเรือDW3000H Batch IIของท่านSuperboy
กลางปี2557
ครม.อนุมัติโครงการเรือLPDลำที่2โดยใช้แบบรล.อ่างทองเหมือนเดิม
ทร.เริ่มต่อเรือชั้นกระบี่ลำที่2โดยยังไม่มีการปรับเปลี่ยนแบบเรือแต่อย่างใด
ปลายปี2557
เรือชั้นนเรศวรทั้งสองลำติดตั้งอาวุธเสร็จสมบูรณ์และทำการทดสอบในทะเลเรียบร้อย กลับเข้าปฏิบัติการ
รล.พุทธเลิศหล้านภาลัยปลดประจำการก่อนกำหนดเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุหม้อน้ำและท่อไอน้ำแตกเสียหาย ทร.จึงประกาศรับเรือฟริเกตชั้นOHPจากสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการหลังเรือทั้ง2ลำปลดประจำการแล้ว มีกำหนดส่งมอบปลายปี2559
ต้นปี2558
รล.จักรีนฤเบศรติดตั้งระบบและทำการทดสอบเรียบร้อย กลับเข้าปฏิบัติการ
มีการปรับเพิ่มงบประมาณให้ทร. ทร.จึงเริ่มโครงการเรือดำน้ำ3ลำโดยจะจัดหาทีละลำห่างกันทุก2ปี แบบที่เข้าประกวดมาจากเยอรมันที่เสนอU-209/1400พร้อมการลงทุนสนับสนุนเครื่องมือต่อเรือในอู่ราชนาวีและอู่แห้งที่สอง รัสเซียเสนอAmur950ในการจัดหาแบบcounter tradeโดยจะซื้อสินค้าเกษตรไทยในมูลค่าเท่ากันและช่วยสร้างอู่แห้งที่สองในอู่ราชนาวี จีนเสนอType039 Songเวอร์ชั่นอัพเกรดให้ทันสมัยขึ้นพร้อมเสนอช่วยลงทุนสร้างอู่แห้งอู่ที่สองและโรงต่อเรือในร่ม และเกาหลีใต้เสนอDW1400Tพร้อมการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและช่วยดำเนินการสร้างอู่แห้งที่สอง โครงการเรือดำน้ำใหม่สวีเดนยังไม่เสร็จจึงไม่ได้ส่งเข้าประกวด ทุกรายมีoffsetหมดตามเงื่อนไขของทร.
กลางปี2558
ไม่มีอะไรพิเศษเพราะทร.ไม่มีเงิน เนื่องจากใช้ในงบประมาณผูกพัน
ปลายปี2558
กระแสว่าเรือดำน้ำจีนและเกาหลีใต้มีการล็อบบี้แรงขึ้นมากจึงถูกคัดออกไป ในช่วงนั้นคนบ่นอุบว่าทร.อดoffsetดีๆซะแล้ว
ยังดีที่อเมริกาอนุมัติขายESSMและHarpoonเพิ่มเพื่อใช้บน421,422และเรือใหม่
ต้นปี2559
โมดูลบางชิ้นถูกสร้างในเกาหลีใต้ บางชิ้นถูกสร้างในไทย โดยจะนำมาประกอบทีหลังเพราะอู่แห้งไม่ว่าง
กลางปี2559
รล.กระบี่ลำที่สองต่อและทดสอบเสร็จโดยใช้เวลา2ปีสั้นกว่าลำแรกครึ่งหนึ่งเพราะปัญหาของแบบเรือถูกแก้ไขไปเกือบหมด
เริ่มการประกอบเรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำที่2
ปลายปี2559
เรือฟริเกตOHP 2ลำเดินทางมาถึงประเทศไทย ทร.ใช้คอนฟิก2x Mk.141 + 2x Mistral Tetralตามแบบเรือท่านSuperboyแต่วางDS-30ไว้บนแท่นยกตรงที่ออสเตรเลียติดMk.41
ทร.ยื่นเรื่องซื้อเฮลิคอปเตอร์ปรสบเรือดำน้ำเพื่อทดแทนSH-60Bที่มีไม่พอใช้และจัดหาฮ.Lynxเพิ่มเติม ครม.อนุมัติ
ต้นปี2560
คองเกรสอนุมัติขายเฮลิคอปเตอร์MH-60R Seahawk 6ลำให้กับไทยเพื่อทดแทนSH-60Bบนรล.จักรีที่โอนไปให้OHPและเพื่อใช้ในเรือฟริเกตใหม่
กลางปี2560
ทร.ประกาศเลือกแบบเรือดำน้ำAmur 950จากรัสเซีย มีข่าววงในว่าเป็นเพราะโดนแรงกดดันจากรัฐบาลที่ต้องการระบายสินค้าเกษตร เรือดำน้ำเยอรมันจึงแห้วอีกครั้งจนคนในเว็บโวยวายกันเต็ม แต่รัฐบาลจะอนุมัติเรือชั้นF122มือสองมาทดแทนรล.ตาปี รล.คีรีรัฐ และรล.มกุฎราชกุมารแทน(เพราะอู่ไม่พอจึงไม่ได้ดำเนินการต่อในประเทศ) โดยเล็ง3ลำสุดท้ายที่ปลดประจำการอันได้แก่F212 Karlsruhe, F213 Augsburg, F214 Lübeck ตัวเรือสภาพดีมากแม้ว่าจะอายุมากกว่า30ปีแล้ว คาดกันว่าเรือชุดนี้จะใช้ได้จนเรืออายุเกือบ60ปีทีเดียว
ปลายปี2560
เรือฟริเกตลำแรกต่อและทดสอบในทะเลเสร็จสิ้น เตรียมเดินทางสู่ประเทศไทย
ต้นปี2561
ทร.ปลดประจำการรล.พุทธยอดฟ้าจุฬาโลกก่อนรับมอบเรือลำใหม่(ตามแผนปลดกลางปี2561หลังรับมอบเรือใหม่) เนื่องจากปัญหาบริเวณระบบส่งกำลังของเครื่องจักรใหญ่
กลางปี2561
เรือฟริเกตลำแรกรับมอบและขึ้นระวางประจำการในกองทัพเรือไทย
โดยเรือลำนี้ใช้เครื่องยนต์ดีเซลMTU 4เครื่องเหมือนกับFormidable แต่มีระบบมอเตอร์ไฟฟ้าด้วย ระบบอำนวยการรบเป็นThales TACTICOS เรดาร์หลักอยู่บนเสาI-Mast 500 มีSTING EOใช้คุมปืน76/62SR ท้ายเรือติดปืนรองMSI DS-30M 2กระบอก เหนือโรงเก็บฮ.ใช้Phalanxจาก461ร่วมกับอะไหล่ที่เหลือจาก462ไปก่อน กลางลำเรือมีพื้นที่พอสำหรับเรือเล็ก(ในช่องด้านข้าง) และแท่นยิงMk.141 4แท่น สำหรับHarpoon block 2 16นัด แต่ติดแค่2แท่น8นัดมาก่อน มีโรงเก็บฮ.+ลานจอดรองรับฮ.ขนาด10ตัน ไม่มีโซนาร์ลากท้าย มีห้องท้ายเรือเว้นไว้สำหรับเป้าลวงลากท้ายแต่ยังไม่ได้ติด ตอร์ปิโดเบาใช้แท่นยิงMk.54ที่มะริกันขายให้รวมถึงจะเอาไปวางแทนMk.32บนเรือชั้นนเรศวรด้วย
ปลายปี2561
เรือLPDลำที่2ทดสอบเสร็จ เดินทางถึงประเทศไทยและขึ้นระวางประจำการ
ทร.รับมอบเรือชั้นF122 3ลำโดยเปลี่ยนRAM 2ระบบเหลือเป็นPhalanx 1ระบบ อัพเกรดMk.29ให้ยิงESSMได้ และติดปืนDS-30แทนBk.27
ต้นปี2562
คองเกรสอนุมัติอากาศยานเพิ่มให้กับทร.ไทยเพื่อต้านอิทธิพลของจีนในแถบนี้ที่ยังเพิ่มขึ้นไม่หยุดหลังจากอนุมัติF-15 Silent Eagleให้ทอ.สิงคโปร์และF-15T Stike Eagelผลิตใหม่(ซึ่งเป็นลำท้ายๆของสายการผลิต)กับทอ.ไทยเพื่อทดแทนF-16A/Bที่ไม่ได้ทำMLU
โดยอากาศยานที่อนุมัติได้แก่ MH-60S Knighthawk 4ลำ เพื่อใช้งานบนLPDลำที่2และ911 AV-8B Harrier II+ลำท้ายๆของสายการผลิตที่อัพเกรดยืดอายุแล้วและสภาพดีที่สุดจำนวน12ลำ และสภาพดีรองลงมาอีก8ลำเพื่อสำรองกรณีเครื่องตกและใช้เป็นอะไหล่ TAV-8B 4ลำใช้เป็นเครื่องฝึก รวมถึงอนุมัติการสนับสนุนอะไหล่ให้ใช้ได้อีกจน911ปลดประจำการ
ต้นปี2563
ก่อนรับมอบอากาศยานประจำ911 ทร.เดินโครงการปรับปรุงเรืออีกครั้งและจัดหาเรือดำน้ำอีกลำที่ล่าช้ามา1ปี
กลางปี2563
เรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำที่2ประกอบเสร็จ ผ่านการทดสอบและขึ้นระวางประจำการ โดยมีการติดRAMแล้วแต่ยังมีMk.41เพียง8ท่อ
ปลายปี2563
ทร.นำ911เข้าอู่เพื่อทดแทนSadralที่หมดอะไหล่ด้วยRAM 2แท่นด้านหน้าและPhalanx 2แท่นด้านหลัง
กลางปี2564
ทร.เจรจากับBAE Systemsในการนำแบบของเรือชั้นกระบี่เดิมมาปรับปรุง ซึ่งได้รับอนุญาตแต่ต้องจ่ายค่าแบบเพิ่ม
ปลายปี2564
หลังจากรับมอบทดสอบใช้งานเรือลำแรก ทร.สั่งเรือดำน้ำเพิ่มอีกลำ ในขณะที่อูแห้งอู่ที่สองดำเนินการสร้างใกล้จะแล้วเสร็จ ครม.ได้อนุมัติโครงการสร้างโรงต่อเรือในร่มเพิ่ม
ต้นปี2565
ทร.รับมอบอากาศยานจากสหรัฐทั้งหมด
911ออกจากอู่
ทร.ดำเนินโครงการต่อเรือทดแทนเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง เรือระบายพล เรือทุ่นระเบิดหลายลำที่ใกล้ปลดประจำการโดยให้บริษัทเอกชนต่างๆออกแบบแข่งขันกันและต่อทั้งหมด
ต้นปี2566
ทร.ปรับแบบOPVลำใหม่จากแบบเรือเดิมเสร็จสิ้นกลายเป็นกึ่งคอร์เวตกึ่งOPV ระวาง2250ตัน มีโรงเก็บฮ.Lynx 1ลำ ลานจอดรองรับฮ.ขนาด7ตัน ปืนรอง30มม 2กระบอก ปืนกลครึ่งนิ้ว2กระบอกเหมือนเดิม ท้ายเรือต่อจากลานจอดมีเครนและพื้นที่รองรับคอนเทนเนอร์สองตู้หรือจะวางเรือเล็กแทนก็ได้ ตัวเรือรองรับHarpoonหรืออวป.ที่มีมิติใกล้เคียงกัน 8ท่อแต่ยังไม่ได้ติด มีโซนาร์หัวเรือและแท่นยิงตอร์ปิโดเบาที่วางแผนว่าจะแกะMk.32มาจาก421,422
กลางปี66
จัดหาลูกจรวดESSMและHarpoonเพิ่ม
ปลายปี2566
ทร.เริ่มต่อเรือOPVใหม่พร้อมกัน2ลำโดยใช้อู่แห้งเดิมในขณะที่อู่แห้งที่สองเสร็จสิ้นกำลังดำเนินการขนย้ายอุปกรณ์เข้า(รัสเซียช่วยสร้างเฉพาะอู่และออกเงินค่าอุปกรณ์ไปซื้อของยุโรปตะวันตก)
ต้นปี2566
ทร.รับมอบเรือดำน้ำอีก2ลำที่เหลือ รัสเซียขายจรวดให้แต่ต้องส่งสินค้าเกษตรไปเพิ่ม
ไม่มีอะไรพิเศษไปจนถึงปี2568เพราะทร.ต้องจ่ายหนี้งบประมาณผูกพันที่ผัดผ่อนมาและยังต้องจ่ายค่าบำรุงรักษาและค่ากำลังพลเพิ่มขึ้นด้วย อีกเหล่าคือทอ.ก็ไม่ได้จัดหาอะไรเพิ่มเช่นกันเพราะไม่มีเงินเรื่องจากเพิ่งจัดJAS-39ไปชุดนึงและF-15Tไปชุดนึงเพื่อคานเวียดนามและมาเลเซีย ในขณะที่หลังจากทบ.รับมอบOplotครบ200กว่าคันก็ดำเนินการผลิตยุทโธปกรณ์หลายอย่างในประเทศไปเรื่อยๆซึ่งใช้งบประมาณมากในการสร้างโรงงานจึงไม่ได้จัดหาอะไรเพิ่มเติม
ปลายปี2568
OPVทั้งสองลำต่อเสร็จและเข้าประจำการ ทร.หลายประเทศที่มีขนาดเล็ก เช่น บรูไน คูเวต ไนจีเรีย ศรีลังกา บังคลาเทศ(ซึ่งรายหลังพม่าไม่ยอมจนมาโวยวายไม่ให้ขายให้) ให้ความสนใจจัดซื้อเพราะมีราคาใกล้เคียงกับOPVเจ้าอื่นๆแต่คุณลักษณะใกล้เคียงเรือคอร์เวตสงครามตามแบบกว่า
ปี2569
เรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำที่1อายุ8ปี เรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำที่2อายุ6ปี สหรัฐก็อนุมัติการขายSM-2MRให้ไทย ทร.จึงนำเรือทั้ง2ลำไปอัพเกรดอีกครั้งโดยแทนที่ฟาลังซ์สุดเก่าของเรือลำแรกด้วยRAM และติดMk.41เพิ่มบนเรืออีกลำละ8ท่อ รวมถึงซื้อเป้าลสงลากท้ายและNulkaมาติดด้วย(ติดตรงไหนดีหว่า)
ปี2570
กรมอู่ทหารเรือได้รับออเดอร์ต่อเรือจากบรูไนและศรีลังกา โดยรายแรกต่อ3ลำติดอาวุธตะวันตก รายหลังต่อ2ลำติดอาวุธอิสราเอล และมีคูเวตที่กำลังจัดโครงการอีกประเทศ
ปี2571
ทร.ส่งOHP 1ลำ รล.ตากสิน และเรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำแรกไปฝึกRIMPAC 2028
ได้รบกับเอเลี่ยนร่วมกับเรือบรรทุกเครื่องบินชั้นGerald R Ford, เรือพิฆาตชั้นZumwalt, เรือLCS ชั้นIndependence, เรือบรรทุกเครื่องบินชั้นIzumo, เรือลาดตระเวนAdmiral Nakhimov เรือฟริเกตRSS SteadfastและRSS intrepid และเรือรบลำอื่นๆอีกจำนวนมากและได้ปกป้องโลกไว้ในที่สุด จบบริบูรณ์ เย้ๆ
สนุกไหมครับเนี่ย ฮ่าๆ
ยอมรับในความขยัน
กระทู้แบบนี้ผมชอบจังเลยท่านภู 555 รบกับเอเลี่ยนต้องฉีดยาให้ตัวเองป่วยหนักก่อน(นั่นมันซอมบี้แล้ว)
ผมขอเสนอเรือฟริเกตปราบเรือดำน้ำราคาประหยัดขนาด3,000ตัน(1ใน5โมเดลของเรือตระกูลนี้) ที่ประกอบเองในประเทศบ้างแล้วกันครับ คอนเซปคือตัวเรือแบบง่ายๆที่ปรับปรุงได้หลากภาระกิจ พยายามไม่ใช้อาวุธจากอเมริกาและจรวดต่อสู้อากาศยานแค่พอป้องกันตัวเท่านั้น นั่งคิดมานานแล้วว่าจะตั้งกระทู้ขายฝันดีไหม ขอคิดไปเรื่อยๆก่อนเพราะจิ้นนี้ยาวไกลยิ่งนัก :)
เยี่ยมครับ. ขอให้ฝันตรงๆ สัก50% ก็พอใจแล้ว
ผมว่าถ้าทร.ดำเนินการนี้ก็ smooth ดีนะครับ แต่ทร.เลือกท่ายาก ตอนนี้ก็ต้องรอดูกันไป
กำลังลองทำตารางงบประมาณที่ต้องใช้อยู่ครับ ขอสักสองสามวัน ฮ่าๆๆ
ขออนุญาตใช้ภาพท่านsuperboyมาใส่ด้วยนะครับ(ถ้าผมใส่ได้)
สำหรับระบบCIWSของเรือหลวงจักรี ผมว่าหลังจากกองทัพเรือทำการเชื่อมโยงให้STIR 1.8 ช่วยในการค้นหาและกำหนดเป้าหมายแล้ว Sadralเองก็จะมีประสทิธิภาพมากขึ้น เพียงแค่จัดหาจรวดMistral2 มาใช้งานแทนจรวดเก่าที่หมดอายุน่าจะทัดเทียมRAMเหมือนกันนะครับ เพียงแต่ในอนาคตเปลี่ยนปืนกล20มม.จำนวน4กระบอกรอบลำเป็นระบบรีโมทด้วยก็น่าจะดี ระยะยิง6.5กม.ของจรวดเพียงพอสำหรับป้องกันตัวเพราะยังไงต้องมีเรือฟริเกตช่วยป้องกันภัยทางอากาศให้อยู่แล้ว
เรือติดSadral กราบซ้ายขวาและด้านหลัง การนำRAMมาติดทดแทน2จุดผมว่ามันไม่พอนะครับ ทีนี้ถ้าทั้งระบบและจรวดด้วยอย่างน้อยจุดละ30ล้านเหรียญ ก็เท่ากับ90ล้านเหรียญเพื่อมีCIWS 63นัดครอบคลุม360องศา(เรือOPV1ลำ) เทียบกับซื้อจรวดMistral2มาทดแทนงบประามาณต่างกันเยอะเลย ถ้าปรับปรุงแล้วใช้งานดีก็ไม่ต้องหาเรื่องเสียเงินนะ คือถ้าจะติดตั้งเพิ่มหาSea captor ใส่ท่อVLSรุ่นใหญ่ของเขาเองซัก4ท่อพร้อมจรวด16นัดน่าจะดีกว่านะครับ (25 กม.)
ย้ายไปอยู่กระทู้ล่างครับ
เออแฮะผมก็ลืมเรื่องราคาลูกจรวดRAMไปเลย งั้นใช้Mistralเดิมๆก็ได้ครับ VLSไม่ต้องก็ได้มั้งครับเพิ่มแบบแท่นยิงให้วุ่นวายเปล่าๆ
ว่าแต่ทำตารางมันต้องทำยังไงถึงจะออกมาเป็นไฟล์สกุลpng,jpg,gifหว่า
ส่วนรูปเรือ911เรานี่ใช้รูปท่านJuldasได้ไหมครับ (ผมไม่มีความรู้ด้านแต่ง ตัด ต่อ เขียนรูปในคอมด้วยสิ) เอาMk.41กับESSMออก วางอุปกรณ์สนับสนุนอากาศยานแทนก็ได้
ท่านภูใช้ภาพบนของท่านจูดาสก็ได้แต่ตัดESSMออก
จบแค่นี้ก่อนแล้วกันครับสำหรับ911 ผมมีแนวความคิดพิสดารอีกแล้วด้วยการหาเครื่องบินปีกแข็งมาประจำการ แล้วเราจะกลับมาใหม่อีกครั้ง เหอๆๆๆ
เรือท่านภูผมว่ามันจะแบกหลังแอ่นเลยนา ปืน5นิ้วของอิตาลีก็ต้องใช้พื้นที่เยอะต่อความยาวออกไปอีกซัก10เมตรดีกว่าไหม แต่ค่าจรวดใส่เต็มลำคงแพงดีเนอะ
ขอแทรกนิดนึงนะครับ สำหรับรล.จักรีฯ จากโครงการเรือฟริเกตสมรรถนะสูงที่มีข้อกำหนดในการติดตั้งระบบเรดาร์ Long Range 3D ที่มีระยะการตรวจจับไกลถึง 350 กม. ซึ่งดูจากขนาดและสมรรถนะแล้วผมว่าเจ้าเรดาร์ตัวนี้มันน่าจะเหมาะสมกับรล.จักรีฯ มากกว่าเจ้ายีราฟทะเลมากเลยนะครับ อีกอย่างที่ผมอยากให้มีก็คือ Phalanx ครับ
เรือฟริเกตผมใส่เรดาร์ Sea Giraffe AMB กับ T-Link datalinkหนะครับ แต่ระบบอำนวยการรบอะไรก็ได้มั้งเพราะเรือไม่ได้ติดอาวุธล้ำสมัยอะไร จรวดsea captor ก็ยิงแล้วลืมไม่ต้องมีFCSช่วย
จริงๆเรือปัจจุบันมันผสมข้ามบริษัทกันได้แหละ ขนาดเรือโปแลนด์ใช้TACTICOSเป็นระบบอำนวยการรบใช้ STING-EO Mk2 เป็นเรดาร์ควบคุมการยิง แต่ใช่เรดาร์ Sea Giraffe AMB และจรวดRBS-15 เฉยเลย
ผมชอบเรือฟริเกตของท่าน superboy นะ 55555 ว่าแต่จะใช้ระบบอำนวยการรบอะไรดีครับ จะได้ครบ ผมได้เก็บเอาไปฝัน 5555
ลองทำภาพบ้าง ท่านSuperboyครับผมขอเสนอแบบDW4000Tเข้าประกวดครับ มีMk.41 32ท่อวางตามแนวเรือหัวเรือเลยยาวหน่อย ฟาลังซ์ท้ายเรือ RAMหัวเรือ ปืนหัวเรือเป็น127/64 LWด้วยความชอบส่วนตัว เสาI-Mastยกสูงขึ้นกว่าเดิม(แท่นยกไม่สวยเลย เหอๆ)เพราะยกSTING EOสูงขึ้นหลบRAM ข้างแท่นยกSTINGมีNulkaติดด้วย
อยากได้แบบนี้กี่บาทครับเนี่ย แพงไปไว้ตอนเรือในฝันแบบแรกทำMLU 15ปีก็ได้
เอาอันล่างที่เสียออกยังไงหว่า
ส่วนอันนี้911 เพิ่มNulkaกับAV-B+ เปลี่ยนปืน20มม.ยิงมือเป็น20(หรืออาจจะ30)มม.รีโมทของอิสราเอล จะใช้ป้อมแบบมีปืนครึ่งงนิ้วร่วมแกนหรือติดSPIKE ERหรือติดSAMขนาดเล็กดีครับ
DW4000T v.2
เรื่องค่าใช้จ่ายก็แยกเรือhigh enกออกจากlow endเลยแบบชัดๆไปเลยละกันครับ ให้เรือhigh endจอดอยู่ที่ท่านานๆ อายุการใช้งานของลูกจรวดและอากาศยานจะได้ยืนๆแล้วค่อยๆเก็บเงินซื้อจรวดไปทีละ4ลูก8ลูก16ลูกก็ว่ากันไป สมมติรัฐบาลให้งบในอัตราส่วนทบ:ทร:ทอ = 1:2:1 เหมือนกับสมัยWWIIไม่ใช่4:1:1แบบปัจจุบัน
เอาราคาปืน5นิ้วของอิตาลีมาให้ดู เยอรมันสั่งไปติดเรือF-125 จำนวน4ลำ 80ล้านยูโรครับ !!
http://www.naval-technology.com/news/newsgerman-navy-receives-first-12764-lw-vulcano-naval-gun
เรือหลวงจักรีมีปืนกล20มม.ติดตั้ง4จุดรอบลำ แต่สถานที่ติดค่อนข้างคับแคบมากโดยเฉพาะกระบอกที่ติดท้ายเรือ แคบขนาดนี้DS-30Mติดไม่ไหวแน่และบอกลาจรวดทุกชนิดได้เลยครับ ถ้ากองทัพเรือมีแผนปรับปรุงจุดนี้อาจจะติดทดแทนแค่3จุด คืดทดแทนด้านหน้าซ้ายขวาที่ตีโป่งออกไปข้างนอกเหมือนแท่นติดซาดรัล และเพิ่มท้ายเรือฝั่งซ้ายตรงข้ามกับแท่นซาดรัลซึ่งสามารถติดCIWSได้อีกจุดแต่เรายังไม่ได้ติด แต่ต้องเป็นระบบที่ใช้พื้นที่น้อยๆอยู่อันนี้เรื่องจริงนะครับ (ส่วน2กระบอกท้ายคงเดิมแบบนี้แหละ)แต่ผมว่าเรือเราอาวุธป้องกันตัวมีพอสมควรแล้วขาดแต่เครื่องบินปีกแข็งบนลานจอดเท่านั้นเอง อนาคตเราคงไม่มีโอกาสซื้อเรือลำใหญ่แบบนี้แล้วหละครับเรือหลวงจักรีก็ยังมีประโยชน์มหาศาลเมื่อเขามีอาวุธครบตามที่ควรจะมี
ปืนกลรีโมทของอิสราเอลผมว่าน่าจะได้อยู่หรอกครับไม่ได้ใหญ่โตอะไรมาก ใช้รุ่นติดปืนกล12.7ร่วมแกนเลยละกันง่ายดี
ส่วนจุดที่วางSadralนั่นติดCIWsตระกูลPhalanxได้ทุกแบบแหละครับเพราะทำพื้นที่มาเพื่อPhalanxอยู่แล้ว
ว่าแต่เรือฟริเกตผมมีแต่ของแพงๆทั้งนั้นเลยแฮะ ให้เอกชนช่วยออกจะได้ไหมเนี่ย เหอะๆ (เรี่ยไรเงินประชาชนที่อยากซื้อของให้ทร.ช่วยจ่าย หุๆ) เอาจริงๆตามแผนการผม ทบ.จะได้ปีละ50000ล้านลดลงมา30000ล้านจากเดิม80000กว่าล้าน เอาไปโปะให้ทร. 20000ล้าน ทอ. 10000ล้าน เป็นปีละราว40000กว่าล้านกับ 30000กว่าล้าน ไม่ต้องถึงขนาดสมัยจอมพลป.ก็ได้
ท่านSuperboyคิดยังไงกับการเอาZubrมาแทนเรือLSTชุดสีชังครับ (ถ้าเปลืองไปเปลี่ยนเครืองก๊าซบางเครื่องเป็นดีเซลกับไฟฟ้าก็ได้...รึเปล่า) ลืมใส่เครดิตเสากระโดงท่านSuperboyแฮะแปปนึงนะครับ
ลงภาพในเวปเราไม่ต้องใส่เครดิตก็ได้ครับสบายๆ เรือหลวงสีชังมีขนาด3,540และ4,520ตัน คนหละไซด์กับเรือZubrหนะครับ ปัจจุบันเขานิยมเป็นเรือLPDๆลำใหญ่เสียส่วนมากไปแล้วด้วย ส่วนเรือระบายพลขนาดเล็กเราก็มีอูเรือในบ้านเราต่อเองได้ Zubrจึงมีโอกาสน้อยมาก
ปืนกลติดรีโมทถ้าเป็นตระกูลไต้ฝุ่นของอิสราเอลจะใช้พื้นที่ไม่มากนัก เพียงแต่ปืนรองของเราจะเป็นDS-30Mแบบแบเบอร์ เหมือนปืนหน้าหลักจะเป็น76/62 แบบนอนมา จริงผมเสียดาย 57mm mk 110 นะน่าจะติดในเรือตรวจการณ์หลายลำเพราะอเนกประสงค์กว่า
เรื่องฟาลังซ์จะมีปัญหาเรื่องน้ำหนักมากกว่า ซาดรัลแท่นหนึ่งหนักตันนิดๆแต่ฟาลังซ์6ตันกว่าๆนะครับ วงกลมเหลืองคือจุดติดตั้งCIWSได้วงกลมแดงคือเรายังไม่ได้ติด วงกลมเขียวคือจุดติดปืนกล เรือสเปนติดCIWSเป็นปืนของเขาผลิตเองซึ่งก็น่าจะติดฟาลังซ์ได้เลย แต่ไม่รู้เรือเรารับน้ำหนักไหวไหม จากภาพจะเห็นใต้วงกลมเหลืองมีการเสริมฐานด้านล่างด้วยขณะที่จุดติดปืนกลไม่มี ถ้าจะติดฟาลังซ์แบบชัวร์คือบนดาดฟ้าเรือเลยซะงั้น เสียพื้นที่อีก
เรือบรรทุกเครื่องบินรูปแบบเดิมๆจะตีระเบียงยาวด้านข้างออกมาเพื่อใช้เป็นติดตั้งอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ มันเลยรองรับได้ไม่เท่ากันจุดไหนอยากติดของหนักต้องเสริมทั้งความกว้างและด้านล่าง ส่วนเรือรุ่นใหม่ๆมักจับที่ห้อยๆอยู่ยัดเขาตัวเรือทั้งหมดแล้วใช้เปิดช่องเอาอีกที เคยคิดจะไปที่นี่หลายทีแล้วนะแต่ไปไม่ถึงเสียที
ส่วนsatcomที่เห็นต้องเป็นจุดติดSTIR ก้ไม่รู้จะย้ายไปไว้เหมือนเรือผมหรือเปล่า หวังว่าอัพเกรดแล้วน่าจะมีระบบยิงซาดรัลที่ดีกว่าในคลิปนี้นะครับ (รีโมท3ตัวเรียงกันเลย เหอๆๆๆๆ) อย่างน้อยก็ช่วยบอกจำนวนและทิศทาง รวมทั้งคำนวนให้ว่าควรยิงเป้าหมายไหนก่อน(อยู่ที่softwareหละเพราะhardwareมันสมควรที่จะทำได้อยู่แล้ว) สำหรับท่านที่เข้ามาอ่านแล้วงง กระทู้คุยไปเรื่อยก็ออกแบบนี้แหละครับ ดีกว่ากระทู้ยิงได้ยิงไม่ได้หรือรถถังโยกอะไรแบบนั้นปวดหัวตื๊บ
เดิมทร.ต้องการติดPhalanx 4แท่นอยู่แล้วนะครับ(แต่จัดหาSadralมาแทน) ผมว่าตัวเรือน่าจะรองรับอยู่แล้ว
เสียดายZubrนะครับ ขนได้ตั้ง150ตัน พื้นที่พออยู่ได้สูงสุดตั้ง500คนเอาไปทำภารกิจช่วยผู้ประสบภัยน่าจะดีเพราะแล่นไวมาก
ไม่ติดหนะดีแล้วหละครับ เพราะ1เราติดอาวุธเองขนาดซาดรัลเบาๆยังติดช้าไปตั้งครึ่งปี 2เรือสเปนท้ายเรือเขาติดแบบนี้ฐานรองรับจะมั่นคงกว่า 3 ติด4จุดเยอะไปเปลือง เรือสมัยใหม่อย่างDokdo LPH ติดแต่2จุดหน้าหลังก็คลอบคลุมหมดแล้ว (แถมRAMสำหรับยิงระยะไกล1จุด) เรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกาก็ลดเหลือแค่2จุซ้ายขวาแล้ว ทดแทนด้วยRAM + ESSM จากแท่นMK29
จะว่าไป เอาแท่นMK29มาติดบ้างก็ดีนะ ประหยัดและเบายิงได้8นัดก็ยังดี ไปนั่งจิ้นต่อจะติดตรงไหนของเรือดี แล้วเอาซาดรัลไปใส่เรือหลวงปัตตานีแทน บรรเจิด เหอๆๆๆๆ
ไหนๆก็มีพื้นที่เผื่อแล้วตีดาดฟ้ายกวางตรงMk.41เลยไหมครับเหอๆ
what if AN/SPS-48E installed
ท่านSuperboyมีBrahMosไหมครับ กำลังวาดAmur 950T อยู่ เหอๆ
มีเท่านี้แหละครับ ต้องเข้าไปหาในเวปนั้นเอง
ออกมาแล้ว
วันนี้บอร์ดเงียบเหงาแฮะ
เอาเรือใหม่ผมบ้าง Universal Platform Ship แบบเรือนี้จะประกอบด้วย รุ่นใหญ่แบบที่1เป็นเรือปราบเรือดำน้ำและสนับสนุนการยกพลขึ้นบก(ทดแทนเรือชุดเจ้าพระยา4ลำ และเรือปราบเรือดำน้ำที่เคยมีในอดีตแต่ปลดไปหมดแล้ว)รวมถึงเป็นแบบเรือส่งออกแบบที่2ต่อจากชุดกระบี่ขยายแบบด้วย และแบบที่2เรือกึ่งLCSระวาง3200ตัน
รุ่นเล็กแบบที่1เรือคอร์เวตทดแทนเรือเร็วโจมตีทั้ง9ลำและเรือชุดรัตนโกสินทร์(ที่มีอายุ40กว่าปีแล้วในราวปี70-75) แบบที่2เรือตรวจการณ์ทดแทนชุดสัตหีบทั้งหมด แบบที่3เรือกึ่งเรือตรวจการณ์ทดแทนชุดคำรณสินธุ์และชุดหัวหินที่อัพเกรดไปปราบเรือดำน้ำ(เพราะชุดหัวหินใช้แบบเรือเดียวกับคำรณสินธุ์ แต่เป็นเวอร์ชั่นlow cost) แบบที่4เรือปฏิบัติการสงครามทุ่นระเบิดทดแทนและเพิ่มเติมจากร.ล.ถลาง(เพิ่มจาก1เป็น3-4ลำ)
ส่วนเรือชั้น1อย่างชุดนเรศวร OHP และF122จะยังไม่ปลด
เสากระโดงผมยกของท่านSuperboyมาทั้งเสาเลย ตัวเรือใต้แนวน้ำก็ด้วยเพราะสองอย่างนี้วาดไม่เป็นเหอๆๆๆ
1.เวอร์ชั่นทั่วไป
ระวาง3200ตัน มิติเรือใหญ่กว่าGowindนิดหน่อย เครื่องCODEL (COmbined Diesel-ELectric) ดีเซลสี่ไฟฟ้าสอง หัวเรือเป็น76SR สองกระบอกเอาไว้ยิงฝั่ง(เนื่องจากทดแทนเรือชุดเจ้าพระยาที่ปืนยิงถล่มชายฝั่งเยอะมาก...เอาจรวดยิงก็แพงอีก) บนเสากระโดงเป็นSea Giraffeธรรมดาๆ CMSก็9LVเพราะเดี๋ยวSAABงอนที่ทน.เลือกThalesในโครงการฟริเกตสมรรถนะสูงป้องกันภัยทางอากาศ(ในฝัน) มีโซนาร์อยู่bulbous bowหัวเรือ มีช่องยิงตอร์ปิโดMU-90ในตัวเรือ กลางเรือฝาข้างเปิดได้ วางMk.41ใส่Sea CaptorกับNulka วางRHIBสองข้าง มีTESEO 8ท่อใส่Milas หรือRBS-15 Mk.3 ท่อ Millenim Gunท้ายเรือ(ลืมวางMirador) ลานจอดท้ายเรือรับฮ.10ตันได้แต่ไม่ได้ใส่ไว้ โรงเก็บใส่Lynxได้หนึ่งลำที่ทร.บรรจุเป็นฮ.ปด.แล้ว ใต้ลานจอดมีmission bay 2ช่องสำหรับRHIBอีก2ลำ
2.ปราบเรือดำน้ำเต็มพิกัด
เพิ่มTESEOอีก4ท่อแทนปืน76รวมMilas 12ลูก วางแท่นยิงตอร์ปิโดเพิ่มแทนRHIB มีโซนาร์ลากท้ายหนึ่งตัววางแทนRHIBท้ายเรือ1ลำ
3.เวอร์ชั่นส่งออก
ถอด76ออก1กระบอกวางMilleniumแทนกลางลำถอดMk.41จะวางเรือRHIBได้3-4ลำ!!! ถอดTESEOออกวางNSMหรือExcetแทนก็ได้
แก้DW4000เพิ่มBulbous Bowและแก้superstrutureนิดหน่อย
เรือท่านภูสั้นเกินไปครับ ผมเอาเรือเล็กออกแล้วขยายใหญ่ก็ได้107เมตรเอง เรือMGS ของผมจริงๆขยายร่างมาจากเรือOPVนะครับและจะทำเป็นประมาณเรือLCS เน้นพื้นที่ใช้งานภายในลำเลียงทหาร พลเรือนหรือโรงพยาบาลในแนวหน้าอะไรประมาณนั้น ตัวเรือเลยสั้นวางปล่องเครื่องยนต์แบบLSC-2แต่เน้นรูปทรงกล่องเหลี่ยมๆง่ายๆแบบLCS-1 เน้นลานจอดยาวๆเพื่อรองรับเฮลิคอแเตอร์13ตัน แต่มีโรงเก็บแค่10ตันและท้ายเรือต้องสุงหน่อยเพื่อมีช่องปล่อยเรือเล็ก รูปทรงมันเลยได้ประมาณในภาพ เรือฟริเกตนี่ตัวท๊อปแขวนบนสุดเท่านั้นเอง (แต่ชอบLPDมากที่สุดนะ) เห็นเท่านี้ผมนั่งวาดเป็นเดือนเลยนะแค่วัดความสุงให้เท่ากันทั้งลำก็แก้หลายวันแล้ว พื้นที่ว่างติดจรวดกับช่องใส่เรือเล็กก็อีกหลายวันเลย เหอๆๆๆ
ปืนมิลลิเนี่ยมต้องมีตัวช่วยหนะครับเพราะมันมีแต่กล้องทีวี ผมใส่มิราดอร์ให้แต่ถ้าได้เป็นceros200ขึ้นไปหละเยี่ยมเลย เรือท่านภูตรงกลางมันหายไปเลยหนะครับถ้าตีฝาข้างขึ้นมาสุงๆน่าจะดี ส่วนเรือลำนี้ผมทำสีเลียนแบบเรือฮอล์แลนด์เลยแล้วกันเพราะชอบเป็นการส่วนตัว ใช้ท่อยิงตอร์ปิโดรุ่นใหม่ก็ได้ครับ MU90 ยิงจากแท่นคู่กำลังมาแรง ส่วนที่ผมใส่แฝดสามเพราะจะโชว์พื้นที่ภายในเท่านั้นเอง ดูไปดูมาเหมือนเรือคอร์เวตอิตาลียังไงยังงั้น แต่ก็ไม่น่าเกิน3,000ตันนะ
จบแล้วครับสำหรับเรือหลวงจักรีรอเรือจริงมาค่อยอัพเดทอีกรอบ นั่งทำหอบังคับการใหม่อยู่นานเพราะของเก่าตำแหน่งไม่ถูก รถลิฟท์ของจรงต้องหันก้นให้แต่ผมวาดไม่เป็น555 ส่วนกริเพนของกองทัพอากาศนะครับ
เมื่อติดตั้งระบบอำนวยการรบ เรดาร์ใหม่(แม้ระยะจะสั้นลงแต่ประสิทธิภาพดีขึ้น)กับSTIR ที่จะช่วยให้ซาดรัลทำงานได้ดีขึ้นแล้ว ต่อไปผมหวังจะเห็นการติดตั้งระบบสงครามอิเลคทรอนิคและเป้าลวงที่ทันสมัยเพิ่มเติมนะครับ โซนาร์พื้นๆซักตัวก็ดีต่อด้วยเพิ่มชุดปราบเรือดำน้ำบนS-70Bให้ครบ6ลำ MH-60S อีก4ลำก็ทยอยซื้อมาเรื่อยๆแล้วกัน คงเป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ไปเรื่อยๆก่อนจนกว่าจะมีเครื่องบินปีกแข็งมาประจำการอีกครั้ง(หวังว่าจะมีนะ) ปืนกลติดรีโมทเพิ่มหน้า-หลังที่หละจุดก็ได้(เผื่อๆไว้)เอารุ่นขนาด20มม.นี่แหละจะได้ใช้กระสุนเหมือนกัน เรื่องUAVคงไม่น่ามีนะไปเน้นใส่ในเรือOPVที่ต้องใช้ทุกวันจะมีประโยชน์กว่า
รถเครนบน911ไม่ใช่คันนี้เหรอครับ
ขออภัยผู้ที่อยู่ในภาพ
อันนี้ผมแปะธงชาติบนHarrierแล้วก็หันSadralด้านหน้าออก ติดMk.41ยิงIris-T SLแทน เรือฟริเกตก็ไม่ต้องใช้CAMMแล้วเดี๋ยวหลายแบบเกิน(เอาไปแชร์กันใช้กับทอ.ได้ไหม)
ท่านภู MH-60Sของท่านลืมปิดประตู เอิ้กๆๆๆ มาชมเรือลำต่อไปกันครับ
ในปี2014ประเทศไทยถูกแช่แข็งแต่มีภัยคุกคามทางทะเลหนักมากขึ้นกว่าเดิมทั้งทางอากาศและทางใต้น้ำ ทำให้จำเป็นต้องจัดหาเรือฟริเกตขนาดใหญ่เข้ามาประจำการโดยด่วน เราต้องการเรือฟริเกตมือ2นำมาปรับปรุงในประเทศเนื่องจากงบประมาณมีน้อยและเรือDMSEก็ยังก่อสร้างไปไม่ถึงไหน เรือOHPถูกวูฒิสภาอเมริกาตีตกไปอีก1ครั้งเพราะปัญหาการเมืองภายในประเทศไทย ส่วนเรือF-122ของเยอรมันและmaestraleของอิตาลีก็ไม่ยอมขายให้กับประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ จึงต้องหันไปซื้อเรือฟริเกตจากเอกชนแทน
กลางปี2013รัฐบาลอังกฤษขายเรือฟริเกตType22 Batch3 จำนวน4ลำสุดท้ายให้กับเอกชนเพื่อนำไปแยกเป็นเศษเหล็กมูลค่า3ล้านปอนด์ แต่พิษเศรษกิจที่ผันผวนทำให้บริษัทที่ซื้อไปต้องปิดตัวลงเนื่องจากไม่มีเงินจ่ายให้กับอู่แยกชิ้นส่วน กองทัพเรือไทยจึงตัดสินใจซื้อต่อเรือจำนวน2ลำพร้อมอะไหล่สำคัญจากเรืออีก2ลำในวงเงิน4ล้านเหรียญ ทำให้เราได้เรือฟริเกตพร้อมเครื่องยนต์และอุปกรณ์ที่อังกฤษไม่ได้ถอดเช่นระบบโซนาร์หัวเรือ แม้Type22จะมีอายุมากตั้งแต่สมัยสงครามฟอคแลนด์แต่ต่อเรือใช้งานมาจำนวนมากในเวลา10ปีกว่าๆ โดยที่เรือ2ลำสุดท้ายที่เราซื้อคือ F86 Campbeltownเข้าประจำการในปี1989และ F87 Chatham เข้าประจำการในปี1990 จึงมีอายุแค่24และ25ปีตามลำดับเท่านั้น แม้จะไม่มีเครื่องยนต์ดีเซลแต่มีเครื่องยนต์แก๊สโซลีนตัวเล็กใช้วิ่งที่ความเร็วเดินทางจึงไม่กินน้ำมันมากเกินไปแต่เรือมีเสียงเบาและวิ่งเร็วเหมาะสมกับการรบ
Type 22 Broadsword
Displacement: | Batch 1: 4,400 tonnes, standard Batch 2: 4,800 tonnes, standard Batch 3: 5,300 tonnes, standard |
Length: | Batch 1: 131.2 m (430 feet) Batch 2: 146.5 m (480 feet) Batch 3: 148.1 m (486 feet) |
Beam: | 14.8 m (48 feet) |
Draft: | Batch 1: 6.1 m (20 feet) Batch 2 & 3: 6.4 m (21 feet) |
Propulsion: |
Batch 1 & 2: 2-shaft COGOG
Batch 3 & Brave: 2-shaft COGAG
|
Speed: | 30 knots (56 km/h (full)) 18 knots (33.3 km/h (cruise)) |
Complement: | Batch 1: 222 Batch 2: 273 Batch 3: 250 |
Electronic warfare & decoys: |
|
Armament: |
Royal Navy Batch 3 were armed with;
|
Aircraft carried: |
1–2× Lynx Mk.8, armed with; |
Aviation facilities: | Flight deck and hang |
ปล.ของจริงน่าจะโดนแยกชิ้นส่วนแล้วนะครับ ผมจะเอาType 42 ที่ยิงเหลืออยู่1ลำมาจิ้นต่อเรือก็อัพเดทอะไรไม่ได้มาก(D97 Edinburgh) อีกอย่างเรือรุ่นนี้ทำให้จรวดเอ็กโซเซ่ตดังเป็นพลุแตกไม่ค่อยน่ายุ่งเกี่ยวด้วยนัก ลำนี้แหละแจ่มสุดแล้วในสงครามฟอคแลนด์ก็รอดมาได้ครบทุกลำ
อาทิตย์นี้อยู่ในช่วงพักเบรก แต่ต้องเติมจินตนาการให้เยอะมากๆจึงต้องดูหนังเยอะๆคิดอะไรมันไปเรื่อยเปื่อยจึงขอยืมกระทู้นี้จิ๊นนอกรอบหน่อยนะครับอัพไปเรื่อยๆจนกว่าจะไม่ว่าง อันที่จริงผมตั้งใจจะทำเรือLHD ขนาด8000ตันเท่าๆเรือหลวงอ่างทองนะเนี่ย แต่Type22แทรกขึ้นมาได้ยังไงไม่รู้
เมื่อกองทัพเรือไทยได้เรือฟริเกต2ลำและอะไหล่จากเรืออีก2ลำในวงเงิน4ล้านเเหรียญ+ค่าขนส่ง2แสนเหรียญมายังประเทศไทยแล้วเราจึงเริ่มทำการปรับปรุงเรือโดยใช้อู่ภายในประเทศ2ราย เพราะตัวเรือยังใหม่มาก(24และ25ปี ใหม่กว่าเรืออเมริกา เยอรมันและอิตาลี)และ2ปีหลังจอดอยู่ที่อยู่อย่างเดียวจึงไม่โทรมเท่าไหร่ การปรับปรุงเรือจึงคาดหวังจะประจำการไปอย่างน้อย25ปีจึงต้องจัดชุดเต็ม
ปืนเรือ76/62 SR รูปทรงธรรมดานี่แหละ ติดเรดาร์ Sea Giraffe AMB CMS 9LV MK4 เรดาร์ควบคุมการยิงเป็น Ceros200 2จุดหน้าหลัง ติดMk29เพื่อใช้ยิงจรวดESSM2จุด จุดหละ8นัดรวมเป็น16นัด สามารถยิงได้2นัดพร้อมกันและยิงได้ถึง4เป้าหมายในเวลาเดียวกัน ติดฮาร์พูนกลางลำเรือพร้อมปืนรอง20มม.กลางลำเรือ ซ่อมแซมโซนาร์หัวเรือและระบบASW Suiteจากของเดิม ติดตอร์ปิโดMU90รุ่นใหม่ เป้าลวงDL-12TและMk.137 เรียกว่าปรับปรุงเหมือนเรือหลวงนเรศวรเลย เพียงแต่เรือไม่ได้ออกแบบสำหรับระบบVLSเราก็ใช้แท่นMk-29นี่แหละเบากว่าถูกกว่า
ในอนาคตจะมีการจัดหารโซนาร์ลากท้ายและCIWS1ระบบหรือปืนกลDS-30M2ระบบตรงที่ว่างใต้เสากระโดงหลักซึ่งอังกฤษเคยติดโกลด์คีปเปอร์ เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำเอาSuper Lynxไปปรับปรุงแล้วค่อยหารุ่นใหม่มาใช้บนเรือลำอื่นต่อไป ยังไม่ใส่Datalink นอกจากRTN Linkเพื่อสื่อสารกับเรือลำอื่น เพราะรอT Link ที่กำลังจะพัฒนาเสร็จ โดยเรือ2ลำนี้เป็นเรือที่ใช้ทดสอบของจริงในอนาคต
เนื่องจากไทยและสวีเดนมีความสำพันธ์ที่ดีมากSAABจึงยอมทำให้แม้จะหาสินค้ายากและเข้าเนื้อบ้างก็ตาม มูลค่ารวมต่อลำรวมจรวดฮาร์พูน, ESSM ,MU90จำนวนหนึ่งน่าจะอยู่ที่100ล้านเหรียญหรือ3,00ล้านบาท 2ลำก็6,000ล้านบาท เราจะได้เรือฟริเกตขนาด5,000ตัน ยิงESSMได้16ลูกพร้อมใช้งานไปอีก20-25ปีเต็ม ปรับปรุงแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2014 พร้อมๆกับเรือหลวงนเรศวรและเรือหลวงจักรี เราจึงมีเรือทันสมัย5ลำพร้อมรับมือภัยคุกคามที่หนักข้อมากขึ้นทุกวัน
วันนี้เว็บบอร์ดเงียบมาก เอาเรือLPDมาฝากไว้ก่อนนะครับ ขนาดเล็กกว่าเรือหลวงอ่างทองนิดหน่อยติดอาวุธสไตล์ยุโรปคือไม่เน้นของ เหนัก เป้าลวงเปลี่ยนมาใช้sagemแทนเพราะมันสะดวกดี
คุ้นๆแฮะ เสากระโดงAvanteของท่านSuperboyใช่ไหมครับน่ะ เหอๆ
ผมกำลังทำเจ้าUPSอีก2เวอร์ชั่นอยู่น่ะครับ
มาอีกรอบหลังกระทู้หายไปจากหน้าแรกแล้ว ทีแรกว่าจะแก้ปืนนิดเดียวไปๆมาหมดไปแล้วครึ่งวัน เลยรีบเอามาลงก่อนเพราะว่าจะหยุดพักบ้างแล้ว มันปวดตา
วันนี้ตั้งชื่อเรือได้แล้วครับ รุ่น Losin-80 (ชื่อรุ่นมาจากเกาะเล็ๆที่มีความสำคัญมหาศาลของประเทศไทย) และชื่อเรือหลวงโลซิ่น ผมนำมาเก็บรายละเอียดติดอาวุธแบบกองทัพเรือไทยเลย เรือถูกสร้างโดยมีเรือหลวงกระบี่เป็นต้นฉบับ ยาว136เมตร กว้าง22เมตร ระวางขับน้ำสุงสุด 7,800ตัน (สั้นกว่า5เมตรระวางขับน้ำน้อยกว่า500ตัน กว้างเท่ากันแต่อาจจะเตี้ยกว่า) เรือต่อเองในประเทศทำทุกอย่างได้เหมือนเรือหลวงอ่างทองทั้งจำนวนบรรทุกเรือเล็กและรถถังรวมทั้งเครื่องยนต์และความเร็ว โดยมีข้อแตกต่างออกไปคือ
1บรรทุกทหารได้มากกว่าประมาณ100นาย คือ 450-600 เพราะมีพื้นที่ห้องโดยสารเยอะมากกว่า
2 ใช้เรดาร์ SEA GIRAFFE AMB ระบบอำนวยการรบ 9LV MK4 และรอการติดตั้ง T Link ในอนาคต ตรงตามความต้องการกองทัพเรือ
3รูปทรงมีความstealthมากกว่าตีปิดด้านข้างทั้งหมด ช่องของเรือระบายพลขนาดเล็ก (LCVP)ยาว13เมตรมีผ้าใบปิดเหมือนเรือฟริเกตรุ่นใหม่ และนอกจากประตูแลมป์ท้ายแล้วยังมีประตูด้านข้างขวามือเพิ่มเติมมาให้ด้วยรถจิ๊บสามรถวิ่งลงได้เลย ไม่มีประตูที่หัวเรือจึงไม่ต้องออกแบบหัวเรือให้สุงมากนักเหมือนเรือเรา เพราะของสิงค์โปรเขาเปิดประตูหัวเรือได้
4ระบบอาวุธ ตามภาพติดเหมือนกันเลยคือ ปืน76/62ใช้มิราดอร์ควบคุม ปืนรองDS-30Mจำนวน2กระบอกใช้มิราดอร์ควบคุม(เรือเราไม่มี) ปืน12.7มม 4กระบอกจะเพิ่มอีกก็ไม่มีปัญหา แต่ตัวเรือออกแบบให้มีจุดติดตั้งอาวุธเพิ่มเติมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยเลือกติดได้มากมายเช่น
-เลือก CIWSแบบปืน ถุกสุดก็มิลลิเนียมกระบอกหละ10ล้านเหรียญ มีมิราดอร์ใช้ควบคุมปืนติดตั้งอยู่ก่อนแล้วจึงใช้ร่วมกันได้เลย(เหมือนเวเนวูเอล่าและอีกหลายประเทศ) หรือจะติดฟาลังซ์15ล้าน โกลด์คีปเปอร์20ล้านก็ไม่มีปัญหา
-เลือกCIWSแบบจรวด เนื่องจากใช้เรดาร์ SEA GIRAFFE AMB 3มิติที่นี่ระยะทำการ180กม. ตรวจจับเป้าหมายบนทะเลได้400เป้าหมาย และเป้าหมายบนอากาศ200เป้าหมาย จึงสามารถใช้ค้นหาและกำหนดเป้าหมายให้กับจรวดต่อสู้อากาศยานได้หลากหลายชนิด สามารถติดจรวดRAMและใช้งานได้อย่างดี โดยมีมิราดอร์ช่วยควบคุมแท่นยิงเหมือนเยอรมันใช้งาน หรือจะเป็นจรวดมิสตรัลในหลายๆแท่นยิงก็ไม่มีปัญหา เพียงแต่จรวดเป็นแบบล็อคเป้าก่อนยิงไม่ทันสมัยเท่า(ตามราคาแหละครับ)
-อยากได้จรวดระยะยิงไกลกว่านี้ก็ไม่มีปัญหา มีพื้นที่ว่างสามารถติดตั้ง MK-41ได้1หน่วย MK-57จำนวน2หน่วย ติดจรวดSea Captor ได้เลย หรือจะยิงESSM32นัดก็ได้โดยสามารถติดตั้งCeros200ได้ทั้งด้านหน้าและหลัง( แต่จะมีใครทำไหมเนี่ย 555) ราคาเรือน่าจะพอๆกันแม้จะต่อในแระเทศแต่ออปชั่นเยอะกว่า อ้วนๆกลมๆแบบนี้เป็นเรือที่กำลังขายดีมากในท้องตลาด
เรือหลวงโลซิ่นหมายเลข793
มาถึงลำนี่2ที่ทำให้เสียเวลาทั้งวันคือเรือLosin-90H โดยเอาเรือลำเดิมมาปรับปรงเป็นรุ่นดาดฟ้าเรียบใช้เป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์แทนที่ยังเป็นเรือLPDไม่ใช่LHDเพราะเรือเล็กเตี้ยเกินไปจึงไม่มีHangar(โรงเก็บเฮลิคอปเตอร์)ด้านใต้ก่อน โดยมีแต่Deck(อู่ลอยและที่เก็บรถถังยานเกราะอาวุธต่างๆ) เรือjuan carlos ของสเปนที่มีขนาด27,000ตันและออกแบบให้มีพื้นที่ด้านล่างถึง2ชั้นสำหรับอากาศยานและรถถังยานเกราะแยกกันไป เรือจึงสุงมากและเป็นเรือLHDของจริง รวมทั้งเรือมิสตรัลของฝรั่งเศสด้วย
ผมตั้งชื่อว่าเรือหลวงนางยวน ตัวเรือยาวประมาณ138เมตร กว้าง27.5เมตรเมื่อนับรวมปีกทั้ง2ข้าง ระวางขับน้ำประมาณ8600ตัน ให้ทุกคนนึกถึงเรือ san giorgio ของอิตาลีไว้เลยครับเพราะผมเอามาเป็นต้นฉบับขนาดใกล้เคียงกันมาก ดาดฟ้าเรือจอดเฮลิคอปเตอร์ได้4ลำมีเครนใหญ่อยู่ด้านหน้าหอบังคับการและมีลิฟท์อยู่ข้างๆสำหรับขนรถเกราะรถจิ๊บโดยรับน้ำหนักได้30ตัน (เฮลิคอปเตอร์ขนาดเล็กพับหางอาจจะได้) ด้านซ้ายของเรือตีปีกขนาดใหญ่เพื่อใส่เรือระบายพลขนาดเล็ก (LCVP) ยาว 13 เมตรจำนวน2ลำ และปืนกลDS-30M ด้านบนจึงเพิ่มพื้นที่ลานจอดเป็นผลพลอยได้ไปด้วย เรือLPDใช้เครื่องยนต์ดีเซล2ตัวแต่เรือLHDเพิ่มเครื่องยนต์แก๊สโซลีนเข้าไปด้วย1ตัวเพราะต้องการความคล่องตัวและลากเรือที่บรรทุกของเยอะกว่า
ด้านขวาของเรือตีโป่งเล็กน้อยสำหรับเรือเล็กขนาด7เมตร1ลำและเพื่อช่วยถ่วงน้ำหนัก มีประตูด้านข้าง1บานเหมือนเดิมและบันไดขึ้นเรืออีก1ชุด ในด้านอาวุธนอกจาก DS-30M 2กระบอกและ12.7มม4กระบอกแล้วยังติดจรวดRAM 1แท่น21นัดด้วย โดยทำงานร่วมกับมิราดอร์และเรดาร์SEA GIRAFFE AMBที่ทันสมัยพอประมาณ ด้วยระยะยิงไกลถึง11กม.เป็นจรวดแบบล๊อคเป้าหลังยิงและจุดติดตั้งสุงจึงครอบคลุมเรือได้ทุกทิศทาง แต่อาจจะต้องติดฟาลังซ์ด้านหัวเรืออีก1กระบอกเพื่อช่วยเสริมในระยะประชิดและกำจัดมุมอับเหมือนเรือของเกาหลีและญี่ปุ่น
san giorgio เคยอยู่ในลิสต์ตอนที่กองทัพเรือหาเรือLPDลำแรกด้วยนะครับ เป็น1ในตัวเต็งที่ทุกคนชอบมาก แม้เรือจะไม่มีโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์แต่สามารถบรรทุกได้4-5ลำ จึงช่วยระบายพลทางด้านอากาศเสริมอีกทางได้ดีกว่าเรือLPD บรรดาอาวุธต่างๆก็สามารถเอาขึ้นมาใส่บนดาดฟ้าเรือที่เสริมความแข็งแกร่งไว้แล้วได้ จากนั้นจึงทยอยลงลิฟท์ไปขึ้นเรือระบายพลขนาดกลาง (LCM) ยาว 23 เมตร 2ลำด้านล่างที่อู่ลอย และเมื่อเข้าเทียบท่าสามารถใช้เครนยกของบนดาดฟ้าลงไปยังด้านล่างได้อีกทางด้วย
ทีแรกไม่ได้เห็นความสำคัญของเรือแบบนี้เลยนะพอวันนี้ได้มาวาดรูปจึงเข้าใจได้ดี ผมว่าใช้แทนเรือหลวงจักรีได้เลยเพราะอเนกประสงค์กว่าเยอะ ราคาน่าจะแพงกว่าLPDประมาณหนึ่งผมออกแบบให้ขนคนได้เยอะๆด้วยตัวเรือส่วนบนจึงยาวมาก เรามีซักลำก็ดีนะว่าไหม
ตอนนี้มีเรือวาดเองแล้ว7ลำ ถ้านับเรือหลวงจักรีด้วยก็8ลำ ยังขนาดเรือฟริเกตป้องกันภัยทางอากาศ เรือดำน้ำ เรือเร็วโจมตีปืนและจรวด จะได้ไปสร้างSiam AUกับเขาบ้างแบบกระทู้นี้
http://www.shipbucket.com/forums/viewtopic.php?f=14&t=4108
เรือหลวงนางยวนหมายเลข797 ยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ต้องมีการปรับปรุงอีกพอสมควร
ของผมบ้าง ภาพบนเป็นเรือฟริเกตชั้นตาปี2 เพื่อทดแทนเรือฟริเกตที่ปลดประจำการได้แก่เรือหลวงตาปี คีรีรัตน์ ปิ่นเกล้า มกุฏราชกุมาร
อาวุธประจำเรือได้แก่
1. จรวดต่อตีเรือผิวน้ำฮาร์พูน
2. ปืนใหญ่ขนาด 76 มม.
3. แท่นยิง MK48 VLS
4. ปืนกล ขนาด 30 มม. DM30M
5. ปินกลขนาด 12.7 มม.
6. ตอร์ปิโด
7. ระบบป้องกันตนเองระยะประชิด RAM
8. แท่นยิงจรวด พื้น สู่ พื้น แบบ DTI 1G 8 ท่อยิง
ส่วนลำล่างเป็นเรือ OPV ระบบอาวุธได้แก่
1. จรวดต่อตีเรือผิวน้ำฮาร์พูน
2. ปืนใหญ่ขนาด 76 มม.
3. ปืนกล ขนาด 30 มม. DM30M
4. ปินกลขนาด 12.7 มม.
5. ระบบป้องกันตนเองระยะประชิด มิสทรัล
อันที่จริงเรดาร์ที่อยู่ในป้อมปืนมันเป็นชุดคิทSTRALESสำหรับนำวิถีกระปืนDartหนะครับ(DART ammunition)ไม่แน่ใจว่าเรือฟริเกตเราถ้าจะใช้กระสุนDARTหรือVOCANOจะต้องติดแบบนี้เพิ่มด้วยไหม ทีนี้ปืนถ้าจะเอามาใช้เป็นCIWSแบบเรืออิตาลี ผมเห็นเขาตั้งเสาติดเรดาร์อีกตัวอยู่ติดด้านหลังปืนเลยกับเรือทุกลำเลยนะแม้จะเป็นรุ่นนี้ก็ตาม ใกล้ชนิดถ้าเอาไปใส่เหนือป้อมได้คงทำไปนานแล้ว ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าCIWSที่ดีต้องมีตัวช่วยเยอะ76/62ที่อยากจะเป็นเหมือนเขาก็ไม่มีข้อยกเว้นในเรื่องนี้
แต่ โดยปรกติปืนมันมีอุปกรณ์ช่วยเล็งติดตัวแยกเป็นอิสระอยู่แล้ว เพียงแต่ความแม่นยำสู้ใช้เรดาร์ควบคุมไม้ได้ เรดาร์ยิ่งตัวใหญ่ยิ่งยิงได้แม่นเหมิอนเรือหลวงนเรศวรเราใช้ปืน5นิ้วยิงเส้นลวดโดยใช้STIR 1.8ควบคุม อเมริกาตกใจมากเพราะเขาไม่ได้เน้นแม่นยำอะไรขนาดนั้น ส่วนเรือผมใช้เป็นปืนอเนกประสงค์และต้องการลดต้นทุนเลยไม่ติดCeros200ช่วย(ติดแล้วมันไม่สวยด้วย) แต่ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าถ้าจะใช้ยิงESSMต้องติดแล้วหละ(เอาไว้ก่อน) อ้อ ผมมีต้นแบบมาจากเรือLCS1และ2 ซึ่งใช้ปืน57มม.ไม่มีFCSเหมือนกัน เหอๆๆๆ
ทีนี้กลับมาที่ปืนจริงๆ เขาโฆษณาไว้ตามนี้ครับข้างล่างสุด ผมก็เป็นคนเชื่อคนง่ายเลยไม่ติดมันดื้อๆ ท่านภูมีเงินเหลือก็ติดมันเถอะเพื่อความชัวร์ ถ้าดูจากภาพน่าจะยิงแม่นกว่าใช้มิราดอร์ตัวเล็กๆควบคุมอีกนะแต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าของจริงจะยังไง คือปินมันใหม่หนะมีแต่เรืออิตาลีใช้เลยไม่มีข้อมูลมากนัก และเรื่องของเรื่องอิตาลีขายFCSด้วยครับเขาไม่น่าตัดช่องน้อยพอแมวรอด อยากรู้จริงๆไปหาเรื่องนี้มาอ่านครับ DART(Driven Ammunition Reduced Time of flight)
The Strales 76/62 turret is equipped with dual-feed loading system and fire control and illumination radar supporting the DART sub-caliber anti-air and anti-missile ammunition. It will also be able to support the new Vulcano 76 sub-caliber guided and unguided munitions
ว่าแต่ท่านSuperboyครับ
เจ้า76 Stralesนี่มันต้องใช้FCSไหมครับ หรือใช้เรดาร์ในตัวป้อมยิงได้เลย เพราะเจ้าMGSท่าSuperboyมันไม่มีFCSของ76ฯี่นา
UPS3000F Frigateเวอร์ชั่นสุดท้าย พอจะโอเคไหมครับท่านSuperboy ผมคำนวณพื้นที่ด้านในไม่เป็นซะด้วย
ส่วนนี่UPS1200C Corvetteผมพยายามหาวิธีทำให้ค่าปฏิบัติการมันถูกๆไว้เพื่อลดค่าใช้จ่ายของฟริเกตขนาดใหญ่ เท่านี้ค่าตัวกับค่าปฏิบัติการน่าจะสักเท่าไหร่ครับ แพงไปไหมสำหรับเรือที่เน้นตรวจการณ์ปราบเรือดำน้ำ
เรือฟริเกตผมว่าใช้ได้นะแม้จะไม่ค่อยเหลือที่ให้คนในเรือ แต่เรือคอร์เวตเล็กเกินไปสำหรับติดอาวุธขนาดนี้นะ
สมัยก่อนเรือดำน้ำต้องเข้ามาใกล้ๆเพื่อยิงตอร์ปิโดการใช้เรือคอร์เวตปราบเรือดำน้ำจึงมีมานานแล้ว โดย40ปีก่อนจะติดโซนาร์ตอร์ปิโดเบาและแท่นปล่อยระเบิดน้ำลึก 20ปีต่อมาเอาแแท่นออกพัฒนามาเป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์และดรงเก็บแทน แต่ปัจจุบันเรือดำน้ำใหญ่ขึ้นมีระบบดาต้าลิงค์และโซนาร์ที่ทันสมัย ติดได้ทั้งตอร์ปิโดจรวดน้ำสู่พื้นและน้ำสู่อากาศจึงไม่จำเป็นต้องวิ่งเข้าใกล้ชายฝั่งอีก การใช้เรือคอร์เวตปราบเรือดำน้ำจึงเป็นอะไรที่ไม่ได้ผลเพราะเรือเล็กวิ่งในทะเลลึกไม่ดีระยะทำการใกล้ไปออกฝั่งนานไม่ได้และติดตั้งอาวุธป้องกันตัวได้น้อยกว่าเรือใหญ่ ถึงเอาไปใช้จริงๆค่าใช้จ่ายไม่ถูกไปกว่าเรือฟริเกตแน่นอกจากใช้งานทั่วไปเท่านั้นเอง อีกอย่างเป็นเครื่องยนต์ดีเซลด้วยเสียงดังมากกลายเป็นเป้าล่อไปเสียมากกว่า นอกจากประเทศเล็กๆที่เขาซื้อเรือหลายแบบไม่ได้เท่านั้นเอง(ซึ่งเสร็จจีนและยุโรปไปหมดแล้ว)
แต่เรือคอร์เวต(หรือเรือOPVติดอาวุธและอุปกรณ์พร้อมรบ)ก็ยังมีตลาดอยู่นะครับ เพียงแต่ขนาดจะใหญ่ประมาณ2000ตันขึ้นไปและติดอาวุธแค่2มิติเท่านั้นเองอย่างของเยอรมันและโอมาน ถ้าติดอาวุะครบ3มิติจะขนาด2,500ตันขึ้นไปแล้ว มีแค่เรือtype-056 ของจีนที่ขนาดแค่1,400ตันและติดตอร์ปิโดด้วย เป็นเพราะเขาใช้ลาดตระเวณป้องกันชายฝั่งเสียมากกว่าไม่มีโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ด้วยซ้ำ คงต้องรอในbatch2ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน
ย้อนมาเรือMGSผมนิดหนึ่งอย่างที่บอกว่าใช้เรือLCSเป็นจินตนาการตอนแรกจึงติดปืน57mmทุกลำนะครับ จากภาพจะเห็นว่าเรือเขาไม่มีFCSใช้เรดาร์และกล้องที่ติดกับปืนในการยิงเท่านั้น (แต่จะเป็นCIWSของเรือ DDG1000เลยต่างหาก) เพียงแต่ผมไปเห็นปืนStralesมันสวยดีและโชว์เรดาร์ภายในด้วยเลยเอามาติดทีหลังทุกลำ เรือจำนวน5ลำสมบรูณ์จริงๆแค่OPVกับLCSโดยจะต้องเปลี่ยนเป็นปืน57มม.ก่อนและจะสร้างเข้าประจำการจำนวน4และ2ลำ ส่วนคอร์เวตเป็นเวอร์ชั่นส่งออกอาจจะสร้างเข้าประจำการจริงแค่2ลำโดยตัดตอร์ปิโดและโซนาร์ออกไปขอคิดก่อน เรือฟริเกตGPและASWจะต้องลดลานจอดให้เหลือแแค่สำหรับเฮลิคอปเตอร์10ตันเพื่อเพิ่มพื้นที่ติดตั้งFCSรองรับESSMจำนวน4-6ลำ จะขยายเรือยาวขึ้นอีก20เมตรเพื่อทำเรือฟริเกตป้องกันภัยทางอากาศAAWที่มีเรดาร์ระยะไกลด้วยซัก2ลำ และเอาเรือลำหลังมาเพิ่มความสุงใส่Deckเข้าไปด้านล่างทำเป็น Nano LPD ซัก2ลำ
ผมมีแผนที่ประเทศและธงชาติแล้วด้วยนะ เอาของประเทศไทยในสมัยก่อนนี่แหละมาใช้ โปรเจคใหญ่ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ
ผมแนะนำเมื่อวาดเรือเสร็จแล้วให้วัดความสุงของเรือด้วยว่าเพียงพอในแต่ละชั้นหรือไม่(ถ้ามีเวลานะ)และพอติดตั้งอาวุธหรือเรือหรือเปล่า เพราะเรือจะได้เหมือนจริงมากยิ่งขึ้นไปอีกและเราจะรู้จักเรือมากขึ้นตาม ปรกติเรือฟริเกตความสุงแต่ละชั้นมากกว่าเรือคอร์เวตนะครับเช่น2.4เมตรกับ2.6เมตร เรือบางลำความสุงแต่ละชั้นก็ไม่เท่ากันอีกงงดีแท้ ถ้าผมจะเอาให้เหมือนจริงคงต้องนั่งวาดนานเลยหละ แนะนำท่านภูเสียเยอะเพราะอยากได้เพื่อนๆมาช่วยกันจะได้สนุกๆ :)
ตอนนี้ผมกำลังมีปัญหาเรื่องจรวดต่อสู้อากาศยาน เพราะถ้าเลือกESSMกับRAMก็คงต้องตัดSea Captor กับ Mistral ออก (แต่จรวดระยะไกลเลือกSM-2ไว้แล้ว) เรือOPVผมก็จะไม่มีจรวดติดคงต้องเอาmanpadสติงเจอร์มาใช้งาน ไม่อยากให้มีจรวดเยอะเกินไปมันจะวุ่นวาย
OPV ผมมีที่ว่างติดFCSสบายๆนะแต่ฟริเกตต้องแก้ไขเยอะหน่อย เห็นเท่านี้ก็1,800ตันแล้วนะเนี่ย เหอๆๆๆ
เรือคอร์เวตผมคิดว่าจะคล้ายๆเรือชุดรัตนโกสินทร์เราน่ะครับ ถ้าลาดตระเวนในพื้นที่อ่าวไทยเฉยๆน่าจะไหวนะครับ
ว่าแต่เรือท่านวางsimbadผิดข้างไม่ใช่เหรอครับ ด้านที่ยิงมันต้องสั้นกว่าด้านท้ายสิ (ว่าแต่นั่นSimbadหรือSimbad RCหว่า)
ผิดหรือเปล่าก็ไม่รู้เพราะผมติดแบบเรือนอร์เวย์เขาอีกที 3ประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวียมีเรือเล็กๆติดอาวุธดีๆเพียบเพราะภูมิประเทศต้องรบติดฝั่งเสียเยอะ กำลังเล็งเรือฟินแลนด์อยู่ลำสวยดี
เรือหลวงรัตนโกสินทร์เกิดในสมัยที่เราต้องการเรือที่รบได้3มิติพร้อมCIWSเรือที่ได้เลยเล็กหน่อย ถ้าผมเป็นทหารเรือในยุคนั้นจะขยายให้เรือยาวขึ้นย้ายฮาร์พูนไปกลางเรือเพื่อทำเป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์แทนและเลิกฝันถึงฟาลังซ์ที่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีติด แต่ก็อย่างว่าเรือคอร์เวตสมัยนั้นจะขนาดประมาณนี้และติดปืนหน้า-หลังหมด(แต่เราเอาอัลบาทรอสมาติดเพื่อยิงอัสปิเด้ เพราะอเมริกาไม่ขายซี สแปโรว์) ส่วนตัวคิดว่าเราจะไม่มีเรือคอร์เวตอีกต่อไปแล้ว เพราะตั้งชื่อginvยากมากเหลือแค่รามคำแหงชื่อเดียว :(
ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะครับ เอาไปขายไนจีเรียที่มีฟริเกตหลักแค่สองลำกับคอร์เวตอีกหก แต่ใช้ระบบอาวุธตะวันตกอยู่แล้วโดยเฉพาะอิตาลี ผมขยายเรือยาวขึ้นถอดNSMออกใส่Otomatวางเป็นรูปตัวV 4ท่อแทน เปลี่ยนปืนเป็น76SRธรรมดา ตอร์ปิโดแฝดสามแต่ยิงลูกตอร์ปิโดรุ่นไหนไม่แน่ใจ ฮ.เขาใช้Lynxอยู่แล้วไม่มีปัญหา ถ้าควบคุมค่าต่อเรือให้ได้ใกล้ๆกับจีนเขาน่าจะซื้อนะครับ
ส่วนอันนี้ไปเจอมา คุ้นๆOPVจีนลำนี้ไหมครับท่านSuperboy
ส่วนลำน้ผมจินตนาการเอาเอง เรือสงครามทุ่นระเบิดที่มีภารกิจป้องกันเรือดำน้ำในแนวรอบนอกอ่าวไทยเป็นหลัก
สมมติว่ารอบนอกน่านน้ำไทยจะมีแนวทุ่นระเบิดที่ไม่ตอบสนองต่อเรือผิวน้ำอยู่ แต่เมื่อมีเรือดำน้ำเข้าในระยะจะจุดระเบิด เรือลำนี้มีหน้าที่วาง-ควบคุม-ตรวจสอบ-เก็บกู้ทุ่นระเบิดปราบเรือดำน้ำแบบMi15และMi19ที่พํฒนามาจากMi9และMi11ที่ทร.เคยเอามาโชว์ อันนั้นเขาว่าลูกละ70000บาทพัฒนามาลูกละ100000กว่าบาทคงไม่แพงไปนะครับ วางสัก200ลูก20ล้านบาทตามแนวขอบน่านน้ำเรือดำน้ำเพื่อนบ้านคงไม่กล้ามาซ่าเท่าไหร่ ถ้าเรือตัวเองต้องออกไปหรือให้เรือคนอื่นเข้ามาฝึกก็สั่งปิดได้(เครื่องควบคุมอยู่บนเรือดำน้ำกับเรือทุ่นระเบิด เรือฟริเกตไม่ต้องเพราะไม่ตอบสนองอยู่แล้ว) การตรวจสอบซ่อมบำรุงและเก็บกู้อันที่หมดอายุใช้UUVชาละวัน(ก็ลำเดิมชื่อไกรทอง)ทำแทนจะได้ไม่ต้องเอาเรือไปใกล้ๆหรือจะระเบิดทิ้งไปเลยก็ได้ Mi15ระเบิด120กิโล Mi19ระเบิด250กิโลกะจมเรือดำน้ำที่ลำเข้ามาทิ้งเลยครับ
เรือไนจีเรียผมว่าจะตั้งกระทู้ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแต่คนไม่ค่อยมีเลยไม่ได้ตั้ง เรือยาว90เมตรระวางขับน้ำ1,800ตัน ราคา2ลำราคา42ล้านเหรียญ โดยลำแรกต่อในจีน50เปอร์เซนต์แล้วส่งมาไนจีเรียส่วนลำที่2ต่อในไนจีเรีย (ไม่แน่ใจว่าราคานี้แค่เรือเปล่าหรือไม่แต่ถูกมาก) ผมจะตั้งกระทู้ว่าเราทำอะไรกับเรือหลวงกระบี่อยู่ทำไมไม่สานต่อเรือหลวงปัตานีในรูปแบบนี้แทนมีโรงเก็บด้วย แต่ตอนแรกเรือไม่ได้หน้าตาแบบนี้นะครับตามแบบรูปของผมนี่แหละ สงสัยราคาถูกเกินไปเลยไม่ได้ตามภาพ
อันนี้ลองเอาเรือฟริเกตขยายความยาวลดลานจอด ขี้เหร่ไปเยอะเลยเหอๆๆๆไม่รู้จะให้ผ่านเข้ารอบดีไหม พอติดceros200 เข้าไปเลยเอาwell deckด้านล่างออกเหลือแค่ช่องปล่อยโซนาร์ลากท้ายพอ แล้วมาสร้างห้องตอร์ปิโดด้านบนแทน แพงขึ้นนิดหน่อยแต่ยิงessmได้แล้วพอไหวน่า
มาอีกลำครับ เจ้านี่เรือคอร์เวตอิตาลีเต็มๆ จรวดยิงเรือใช้Otomatยิงอากาศใช้Aspide 2000 ควบคุมด้วยRTN-30Xเหมือนเรือรัตนโกสินทร์ ลานจอดและโรงเก็บรองรับAW109ซึ่งเป็นฮ.หลักของเขาใช้ในภารกิจASWเหมือนปินส์เพราะอ่านเจอมาว่าLynxใช้ไม่ได้แล้ว ผมจัดแบบนี้เพราะว่าไนจีเรียเขาใช้อาวุธอิตาลีซะมาก เล็กกว่าKhareefนิดหน่อยแต่ขอให้ถูกกว่าพอสมควรละกันเหอๆ
ของผมขอส่งเรือสนับสนุนการยกพลขึ้นบก ความยาว 200 เมตร เข้าประกวด
สามารถ บรรทุก ฮ.ตระกูล Seahawk หรือ Cobra ไปกับเรือได้ 20 ลำ
เรือระบายพลขนาดเล็ก 4 ลำ
เรือระบายพลขนาดกลาง 2 ลำ
ดาดฟ้ายานพาหนะ ภายในตัวเรือ สามารถรองรับยานพาหนะได้ ดังนี้
- รถถังขนาดกลาง 15 คัน
- หรือ รถสะเทินน้ำสะเทินบก AAV 20 คัน
- หรือ รถยนต์บรรทุกพร้อมรถพ่วง 15 คัน
- หรือ รถยนต์บรรทุก 30 คัน
ข้างหอบังคับการไม่มีห้องair bossเหรอครับ(ไปอยู่ด้านหลังแทน) แล้วก็วางMistral Tetralผิดข้างนะครับ
ผมไปทำเจ้านี่มา ไม่ใช่อนาคตแต่เป็นอดีตเมื่อราว70กว่าปีก่อน
ปืนเรือBofors 6" L/55 3แท่นคู่ รวม6กระบอก
ปืนทวิประสงค์ Bofors 75mm L/51 6แท่นเดี่ยว รวม6กระบอก
ปืนต่อสู้อากาศยาน 40mm L/40จากญี่ปุ่น 4แท่นคู่ รวม8กระบอก
แท่นยิงตอร์ปิโด45cm 2แท่นแฝดสาม รวม6ท่อ
Catapult 2เรื่องพร้อมเครื่องบินทะเล(ผมใส่เป็นE8N เพราะรุ่นใหม่กว่าเราซื้อหลังจากเรือโดนยึดไปแล้ว)
ไม่ค่อยพอใจกับหอบังคับการแล้วก็ปล่องควันเท่าไหร่
อันนี้ผมแก้AH-1ZกับTetralให้นะครับ
เอาเรือฟริเกตป้องกันภัยทางอากาศมาอวดบ้าง ยังไม่สมบรูณ์และชื่อรุ่นยังไม่มีด้วยซ้ำ แต่จะให้ชั้นเรือหลวงศรีสวัสดิ์(หรือแม่น้ำแควใหญ่)ซะงั้น เรือยาว116.5เมตร กว้าง16.5เมตร ระวางขับน้ำ3,650ตัน(เทียบเท่าเรือDSME) ติดเรดาร์SPY-1F และระบบเอจิสแบบเรือนอร์เวย์ ด้านหน้ามีmk-41 32 ท่อสำหรับ 24 SM2 , 24 ESSM, 8 Nulka ด้านท้ายมีแท่นติดเรดาร์ระยะไกลได้แต่งบหมดเลยเหลือแค่นี้ ติด SABRE EW Suite ด้านข้าง2ฝั่ง เสาESMมี2ต้นเลยเพื่อความฮาโดยต้นหลังสำหรับT-LINK ขั้นAdvance จรวดSSMเป็นNaval Strikeหันหน้าออก ระบบCIWSใช้มิลิเนียมกันเป็นปืนรองไปในตัว ใช้EOS500ควบคุมทั้งปืนหน้าและหลังFCSจะได้ใช้กับจรวดอย่างเต็มที่ ไม่มีโซนาร์ลากท้ายและไม่รองรับMilasเพราะไม่ได้เน้นปราบเรือดำน้ำ เรือฟริเกตผมทุกลำไม่มีปินรองติดรีโมทเลยรวมทั้งลำถัดไปด้วย ใช้CIWSรุ่นที่ทำงานทดแทนกันได้ก็พอแล้ว อย่างดีก็ติดปืน12.7มม.เพิ่มเอา
ในอนาคตจะหาโซนาร์ลากท้ายรุ่นกลางๆมาติดและเพิ่มExLSซัก2-4ท่อที่มุมว่างด้านข้างMK-41เพื่อแยกระบบNulkaไปใส่ต่างหาก ESSMจะได้ใส่ถึง32นัด ที่ไม่ใช่ท่อเฉพาะของNulkaเพราะExLSสามารถยิงจรวดหรือระบบอื่นได้เช่นกันจึงมีอนาคตกว่า ส่วนเรือฟริเกตMGSของผมก็ติดSABREแล้วเช่นกันแต่หันไปทางหน้าและหลังรูปเลยแตกต่างกันนิดหน่อย เสาESMใช้รุ่นเดียวกันเเป็นมาตราฐานดี แต่เรือราคาแพงขึ้นเรื่อยๆตามอุปกรณ์ที่ติดเพิ่มเติม เอารูปมาใส่ไว้่ก่อนสมบรูณ์แล้วจะลงอีกรอบ
มีAAWแล้วก็ต้องมีASWบ้างสิ ผมทำลำนี้มาแข่งกับเรือฟริเกตสมรรถนะสุงของเราโดยเฉพาะ โดยทำเป็นเวอร์ชั่นส่งออกตัวเรือขนาดเท่าเดิมแต่ระวางขับน้ำลดลงมาบ้างเหลือ3,500ตันเพราะถอดออกไปหลายอย่าง เรดาร์ในราโดมสามารถติดได้ทั้งSmart-S หรือ Sea Giraff AMB เรดาร์ควบคุมการยิงและระบบอำนวยการรบก็เช่นกันได้ทั้ง2ค่ายแต่ผมเลือกของSAABมาโชว์ ด้านหน้าลดระบบVLSเหลือ16ท่อโดยเป็นMK-41 8ท่อสำหรับ16ESSMและ8Nulka ส่วนอีก8ท่อเป็นK-VLS สำหรับ K-ASROC ระบบEW suiteใช้LIG Nex1 SLQ-200K แบบเดียวกับเรือเกาหลีใต้ทุกลำ(ถูกลงมาหน่อย) SSMเปลี่ยนมาใช้ฮาร์พูนแทน เปลี่ยนCIWSเป็นฟาลังซ์ Decoyเป็นSagem แทนโซนาร์ลากท้ายขั้นเทพโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์1ลำ ไม่ได้ติดเรดาร์ระยะไกลเช่นเคยเพราะเน้นปราบเรือดำน้ำนี่นา
รวมๆสมรรถนะดีกว่าเรือ MGS ของผมพอสมควร เพราะแบบเรือใหม่กว่าใหญ่กว่าและแพงกว่าด้วย ทีแรกจะวาดเรือขนาด5,000ตันขึ้นแต่พอเรือยาวแล้วตีปิดตลอดทั้งลำมันไม่สวยเลย เช่นเดิมเรือยังไม่มีชื่อรุ่นแต่จะตั้งชื่อว่าเรือหลวงสงคราม(เพราะเป็นแม่น้ำที่ยาวถึง420กม.) แต่ผมคงไม่ใส่ในกองเรือประเทศสมมูติของตัวเองเพราะมันใหญ่และแพงไปนิด(เอาMGSนี่แหละถูกดี)
ลำนี้เป็นเรือเวอร์ชั่นแรกๆที่ผมว่ากลางเรือไปจนถึงSatcomไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เคยตัดเสาหลังออกแล้วยิ่งขี้เหร่ใหญ่เลย เรดาร์ SPY-1F น่าจะมีระยะทำการประมาณ250-280กมเท่านั้นเอง แต่ระบบเอจิสควบคุมการยิงจรวดเป็นชุดได้ดีมากเลยอยากได้มาติดเรือAAW จะเอาCEAFARมาติดก็ไม่ชัวร์เลยไม่เอาดีกว่า แต่หน้าเรือและเสากระโดงพอใจแล้ว จะยกให้สุงกว่านี้ก็กลัวเรือพลิกคว่ำเอาง่ายๆเพราะมันหนัก
ของผมจะเป็นอีกแบบ ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ 555+
จะเป็นลำอื่นหรือจักรีนฤเบศรก็ด้ายย
ขอกาวบ้างนะ
,
เรือประจัญบานมือสองจากจักรวรรดิ์ญี่ปุ่นที่ซื่้อมาด้วยราคามิตรภาพที่ยังคงประจำการจนถึงตอนนี้
เรือประจัญบานแห่งราชนาวีไทย