คุณคิดว่า...เครื่องบินรบใดมีแนวโน้มที่กองทัพอากาศจะจัดหามาแทนที่เครื่องบินขับไล่ F-16
ที่จะปลดประจำการในอนาคต
....................................................................................................................................................................
ส่วนตัวผมคิดว่า..ยังมองออกยากครับ ว่ากองทัพอากาศจะจัดหาเครื่องบินรบใดมาแทนที่ F-16 เพราะต้องคำนึงถึง
เรื่องงบประมาณ การเมือง (รัฐบาล) สมรรถนะเครื่องบินรบของประเทศเพื่อนบ้าน และภัยคุกคามในอนาคต ซึ่งสิ่ง
เหล่านี้ไม่คงที่และมักจะผันแปรอยู่ตลอดเวลา คงต้องรอให้เครื่องบินขับไล่ F-16 ใกล้จะปลดประจำการจริงๆ ถึงจะ
รู้ว่ากองทัพอากาศมีแนวโน้มจะจัดหาครื่องบินรบใดมาแทนที่ F-16 กันแน่ครับ
สำหรับฝูงที่เป็นป้องกันภัยทางอากาศอย่าง102 ผมคิดว่าควรมองไปที่บ.Gen 5นะครับ ตัวเต็งก็F-35A (แต่ผมชอบFS2020กับK-FXนะ)
สำหรับฝูงโจมตีอย่าง103 ผมคิดว่าน่าจะอัพเล็กน้อยแล้วโยกไปแทนL-39หรือA Jetในภารกิจโจมตี แล้วค่อยจัดหาบ.2เครื่องยนต์Gen 4+อย่างF-15หรือSu-30
ส่วนตัวมองว่าสำหรับGripenเหมาะกับการแทนF-5ในด้านภารกิจมากกว่าครับ เพราะ103ก็เป็นฝูงโจมตีแท้ๆที่น่าจะต้องบรรทุกให้เยอะ ส่วน102ผมว่าควรจะใข้Gen 5เพราะรอบบ้านเราคงจะเริ่มมีกันแล้ว
ถึงวันนั้นจริงๆf35อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีแล้วครับ เพราะจุดแข็งของf35คือการที่เรด้าตรวจจับยาก แต่จุดแข็งนี้ก็มาจากการออกแบบโครงสร้าง หากในอนาคตมีการผลิตเรด้าที่ตรวจจับได้ขึ้นมา คุณค่ายุทธการจะฮวบเพราะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างให้ตรวจจับยากกว่าเดิมได้ ในขนะนี่เทคโนโลยีเรด้ามันพัฒนาไปตลอดเวลาเราไม่รู้ว่ากว่าจะถึงคิวเรา เทคโนของเรด้าจะไปขนาดไหนแล้ว
F-35 โอกาสสูงที่สุด ณ ตอนนี้ครับ เพราะต่อให้มีเรดาร์ตรวจจับสเตลท์ได้ (ซึ่งผมเชื่อว่าตอนนี้มีแล้วแน่นอน แต่อีกกี่ปีประเทศอื่นจะมีโอกาสได้ใช้ นอกจากประเทศมหาอำนาจ เรดาร์ไม่ใช่เทคโลยีที่จะพัฒนาต่อยอดกันง่ายๆ) ก็เชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะใช้ได้ไปอีกหลายๆ สิบปี อย่างแน่นอน ไม่อย่างงั้นหลายประเทศเขาไม่ลงทุนลงแรง สร้างเจ้า F-35 มาจนถึงวันนี้
อีกประเด็นประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่จะสามารถก้าวข้ามเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ ประเทศเราไม่ใช่ประเทศที่เขามีอะไรออกมาใหม่ๆ เราจะได้เป็นเจ้าของ อย่างตอนนี้เขามี Gen 5 ใช้ แต่เรายังต้องอัพเกรดเครื่องเมื่อ 20 ปีที่แล้วเพื่อใช้อีก 20 ปีเลย
ส่วนถ้าเป็นประเด็นว่าให้มองไปที่เครื่องบินไร้คนขับ ซึ่งแน่นอนมันเป็นเทคโนโลีที่เราต้องมีอย่างแน่นอนในอนาคต และทุกประเทศจะต้องมีไว้ใช้แน่ แต่เครื่องบินขับไล่แบบมีคนขับยังมีความจำเป็นอย่างมากต่อไปอีกหลายๆๆๆ ปี
ดังนั้นเชื่อว่า F-35 เป็นทางเลือกทางหนึ่งและมีโอกาสมีความเป็นไปได้สูง ส่วนอันอื่นไม่ว่าจะเป็น FS2020 (ที่ตอนนี้ยังเป็นแค่ขั้นตอนโครงการอยู่เลย ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ และราคามันจะเท่าไหร่ยังไม่รู้เลย)
แต่แอบหวังเล็กๆ ว่า สำหรับฝูงที่เป็นป้องกันภัยทางอากาศจะมี Boeing F/A-18 Advanced Super Hornet มาไว้สักฝูง
หวังAdvance Hornetแล้วSilent Eagleล่ะครับ
เออและ f-5 อีกฝูงจะต้องปลดชวงปีไหนอ่ะครับ
อีกอย่างครับ ในกรุงเทพเนี่ยเรามีฝูงบินขับไล่หน่วยใดประจำการไหมครับ
กรุงเทพไม่มีเครื่องขับไล่นะครับ นอกจากจะย้อนไปสมัยโบราณ
ฝูงขับไล่อยู่ กองบิน 1 โคราช (102, 103)
กองบิน 4 ตาคลี (นครสวรรค์) ฝูง 403
กองบิน 21 อุบล (211)
กองบิน 7 (กริพเพนหล่อเฟี้ยวที่สุราษฎร์)
น่าจะมีแค่นีแหละ
อ๋อ ดอนเมืองคิดว่ามีหน่วยบินเดโชชัย 3 - ฝูงบิน 904 ในสมเด็จพระบรมฯ มีเครื่อง f-5 กี่ลำจำไม่ได้แปดหรือสี่เนี่ยแหละ และมี f-16 อยู่อีกหนึ่งลำหมายเลข 904-91 รู้สึกฝูงนี้จะเป็นฝูง aggressor นะครับ
f-5 ฝูงอุบลฯ รู้สึกปีหรือสองปีที่แล้วเพิ่งจะอนุมัติปรับปรุงอัพเกรดเครื่องใหม่ยืดอายุโครงสร้างไปได้อีกสิบหรือสิบห้าปีเนียแหละ
กรุงเทพมีแต่บ.ลำเลียงครับ กองบิน6
ฝูงรบหลักก็ตามข้างบนเลย 102(F-16A/B/ADF) 103(F-16A/B) 403(F-16A/B) 211(F-5T) 701(JAS-39C/D+F-5E/F) เพียงแต่103ทำภารกิจโจมตีเป็นหลัก แบ่งกับ102ที่มีADFเป็นฝูงป้องกันภัยทางอากาศ
ฝูงรองก็231กับ411 ที่ใช้Alpha JetกับL-39
รวม AEC แล้วขอนำ PAK FA เข้าประกวดสักฝูง ดูจากข้อเปรียบเทียบหลายๆอย่างจากเว็บออสซี่แล้ว
น่าสนใจในอันดับต้นๆในแบบ 2เครื่องยนต์ ของ Gen 5 ในสักยภาพที่พอจะเอื้อมถึงสักฝูง
ในความเห็นของผม ผมอยากให้เครื่องที่จะมาแทน F-16 คือ ATD-X ของญี่ปุ่นครับสองเครื่องยนต์ ลำไม่ใหญ่มาก และน่าจะเชื่อใจในคุณภาพของพี่ยุ่นเขาได้ อีกอย่างญี่ปุ่นนี่ค่อนข้างจริงใจกับเรานะครับเป็นมิตรมาก ยิ่งในอนาคตเห็นว่าจะมีการแก้รัฐธรรมนูญส่งออกอาวุธอีก อาจจะติดเรื่องราคาเพราะอาวุธญี่ปุ่นน่าจะแพงมากแต่เครื่องgen5 ก็คงราคาแพงไม่หนีกันเท่าไรครับ กริพเพนถึงแม้จะคุณภาพดีแต่ผมว่าเหมาะแค่จะทดแทน F-5 ครับ :)
ราคาแพงขี้แตกอยู่แล้วครับของญี่ปุ่น ผมว่าซื้อเอฟสามสิบห้าไปง่ายกว่าเยอะครับ คนใช้เยอะอุปกรณ์โดย third party ก็น่าจะเยอะกว่า (อิสราเอล ตุรกี ยุโรป ฯลฯ) ราคายังไงก็ถูกกว่าอยู่แล้ว
ว่าแต่ aec มันเกี่ยวอะไรกับ pak fa ล่ะครับ?
แทน ADF น่าจะเป็นกริพเพ่น ล๊อตเดียวกะ F5
แต่ถ้าแทน F-16 ฝูงที่เหลือ็ไม่รู้ อีกสามสิบปีข้างหน้า
หลังจากกราฟีนออกจากห้องทดลองมาลงตลาด
บางที อาจได้ไช้เครื่องบิน สัญชาติไทยเชื้อชาติจีนก็ได้
ถ้ามอง ณ วันนี้ ฝูง 102 F16 ADF ครองอากาศ จะปลดก่อนเพื่อน ซึ่งอีกแค่ 10 ปี
ส่วนตัวผมเชีย โครงการ บ. Gen 5 ที่เกาหลีใต้ร่มมือกับ SAAB ถ้าเป็นจริง จะเป็นอะไรที่น่าสนใจสำหรับ ทอ.ไทยมาก
1. ระบบเครือข่ายพื้นฐาน SAAB
2. ราคาน่าจะสมเหตุสมผลกว่า F-35A
3. เป็น Stealth
4. ใช้อาวุธร่วมกับ Gripen ได้ ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้หลายอย่าง ( ต่อไป ฝูง 211 F-5 ที่จะปลดเป็นฝูงต่อไป ก็ฟันธงได้เลยว่าเป็น Jass39 C/D+ แน่นอน )
5. ฝูงเครื่องฝึกก็เพิ่มโอกาสที่จะเป็น T-50 อีกด้วย
10 ปีซาบกับเกาหลีพัฒนาไม่เสร็จหรอกครับนอกจากซื้อเทคโนโลยีจากชาติที่ทำประสพความสำเร็จแล้วมาโปะแบบโดดข้ามขั้น เพราะตอนนี้ระดมทุนยังเหนื่อยเลย
ถ้าประหยัดก็ หา f16 มือสอง (หรือ สาม) หรือ ขุด มาจาก ทะเลทราย อริโซน่า ก็ได้
แต่ใจจริง อยากหา JAS มือสอง ของ สวีเดน
เราจะมีปัญญาซื้อ F-35 หรือครับ ถึงตอนนั้นราคาคงพุ่งทะลุเพดางบประมาณ การจัดซื้ออาวุธเป็นแน่
f-35 ราคาสูงก็จริง แต่ อย่าลืมนะครับ งบของกองทัพก็เพิ่มขึ้นทุกปี แต่(กรรม ปีนี้ก็ทัพอากาศลดลง ) แต่ผมว่า f-35 a น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีครับ แต่ผมว่ากองทัพน่าหันไปมอง 2เครื่องยนต์บ้างก็ดีนะครับ เพราะ f-35 ความคล่องตัวน้อยได้แต่ ซุ้มยิง dogfightก็ไม่ดี รับแรง G ก็ได้น้อย กว่า F-16 ผมว่า ไปเอา f-15 se ไปเลยดีกว่าครับ กองทัพน่าจะไปเล่นทางด้านนั้นแต่ก็ว่าน่ะครับ ไทยเน้นรับไม่เน้นรุก จะมีคนมาบอกว่าเอา บ. 2เครื่องยนต์ไปทำไป แต่คุณคิดดูนะครับ 2 เครื่องยนต์มีดีหลายอย่างครับ อย่าคิดว่าเสียค่าบำรุงเยอะอย่างเดียวแต่มันก็คุ้มสำหรับคุ้มกันประเทศนะครับ แถมยังเอาไป บอม เขมรได้เยอะกว่า f-16 ด้วย อิอิ สามารถใช้ความเร็วหนี sam ได้ด้วยความเร็วสูงสุด สันดาบท้ายที่ 2.5 มัค ใครๆก็ตามไม่ทันครับ ยกเว้น sam รุ่นหลังๆ มันเล่นไป 3 มัค 5 มัค เลย แต่เอาไว้หนีก็พอได้ครับ แต่ dogfight นี่ มีประโยชน์ครับ เครื่องเร็วกว่า ได้เปรียบมากครับ ตัวเลือกในอีก 10 ปีข้างหน้า ผมว่า ทอ. ยืดอายุการใช้งานของ f-16 adf ครับ จากการคาดคะเน และเตง 1คือ f-35a เตง 2 คือ ไม่ f-18 sh ก็ f-15se ครับ ส่วน ทางรัสเซีย ผมว่า กองทัพอากาศไม่น่าเล่นอยู่แล้วครับ ถ้าเล่นต้องวางระบบอาวุธใหม่หมดครับ
ถ้ามองว่าต้องหาเครื่องบินรบแทน F5 , F16 ผมคิดว่าคงจะต้องเกิดใน 10-20 ปี ต่อจากนี้ไป ถ้าดูจำนวนฏ 4 ฝูงบิน (ไม่นับ Jas39C/D ที่เพิ่งได้รับมาใหม๋) ก่อนอื่นต้องมาพิจารณาปัจจัยก่อนคือ
1.งบประมาณที่ได้รับในการจัดซื้อ ปฏิบัติการ ซ่อมบำรุง
2.เป้าหมายในการใช้งาน แบบรุก แบบเชิงรุก แบบเน้นป้องกัน
3.นโยบายของประเทศ แบบเป็นกลาง หรือแบบอิงประเทศใหญ่ๆ สหรัฐ จีน รัสเซีย ยุโรป
จากทั้ง 3 ข้อ ผมคิดว่า ทอ. น่าจะจัดหาเครื่องบินใหม่เลย 1 ฝูง เป็น Gen. 5 เช่น F35 และ เครื่องมือสองอีก 3 ฝูง โดยเน้นที่ต้องประหยัดและทำได้หลายบทบาท เช่น JAS39C/D plus , F16C/D plus , F18E/F , Typhoon โดย 2 ตัวแรกมีความเป็นไปได้สูงสุด
ถ้าเศรษฐกิจไม่ฉิบหายก่อน เราก็น่าจะมีปัญญาซื้อ f-35 ได้ในอนาคตรครับ ราคาเครื่อง f-35 จะตกลงเรื่อย (ปรับค่าเงินเฟ้อ)
@ คุณ inwinny ประเด็นเรื่องข้อเสียของสองเครื่องยนต์ ถ้าค่าบำรุงแพง จะส่งผลให้ความพร้อมรบต่ำ ทีนี้ถ้ามีเครื่องบินหนึ่งเครื่องยนต์ บินได้ กับสองเครื่องแต่บินไม่ได้ ไม่มีเงินเปลียนเครื่องยนต์ ไอ้ลำสองเครื่องก็ไม่มีประโยชน์แล้วนอกจากเป็นเป้าซ้อมบอมบ์ ฮา ดังนั้นเราต้องประเมิณตัวเองดัวยว่าจะบำรุงไหวไหม จะส่งผลกระทบต่อความพร้อมรบหรือไม่
ทีนี่เรื่องประเด็นไทยเน้นรับไม่เน้นรุก อันนั้นคือ เราไม่มีงบฯ มโหฬาร ดังนั้นเป้าหมายแรกกองทัพจะต้องป้องกันการรุกรานได้เป็นอันดับแรก ดังนั้นเราทำให้สามารถรับได้อย่างมั่นใจก่อนก็ไม่ต้องกลัวใครแล้ว ถ้าเงินเยอะการซื้ออาวุธโหดๆ ก็เป็นเรื่องธรรมดาอยุ่แล้วครับ ดังนั้นจะเห็นได้ว่านโยบายต้องตามสถานภาพความเป็นจริง ไม่ใช่เรื่องของอุดมการณ์หรือแนวคิดอะไรทั้งนั้น
ทีนี้ว่าด้วยเครื่อง f-18 sh กับ f-15 se ทั้งสองลำมันยังไม่ได้ผลิตจริงๆ ไม่มีคนซื้อด้วย ตัว f-15se มีข่าวว่าอิสราเอลอยากได้ก็ขอเมกา เมกาก็ไม่ได้ตอบอะไร (ไม่ให้ ว่างั้นเหอะ) อย่างเกาหลีแข่งประมูลไปประมูลมา ซื้อ f-15 ธรรมดาแทน
หากเมืองไทยจะซื้อสิบแปดเครื่อง (ย้าสยังได้แค่สิบสอง) บริษัทโบอิ้งเขาก็ขาดทุนสิครับ เขาไม่ผลิตแค่นั้นหรอกครับ
f-18sh ผมว่าไม่มีใครซื้อหรอกครับ ไปซื้อ f-35 กันหมด
ถ้าจะซื้อ f-15 จริงๆ ผมว่าซื้อ ไต้ฝุ่นเหอะ ค่าบำรุงถูกกว่า weight/thrust แรงกว่า ใหม่กว่าอยุ่ไปอีกนาน อะไหล่มีอีกนาน คนใช้เยอะกว่า หรือ f-18 เหมือนกัน ซื้อไต้ฝุ่นดีกว่า ซักฝูงนึงมาเก๋าข่มปรามเพื่อนบ้าน
อีกสิบปีข้างหน้าผมไม่แน่ใจว่า f-16 ยังจะขายอยู่หรือเปล่านะครับ เพราะถ้าจำไม่ผิดเขาจะปิดสายการผลิตเร็วๆ นี้และไปผลักดัน f-35 อย่างเดียว
ที่ดูน่าจะเป็นไปได้คือกริฟเป้นครับพิจารณาจากประสพการณ์ที่กองทัพเคยเจอมากับการระงับการขายจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นบ่อยและมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นแบบนี้ต่อไปทำให้มีความเสี่ยงที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองจะถูกระงับความช่วยเหลือในเรื่องอะไหล่ซึ่งแต่ล่ะกองทัพเคยเจอแต่ถ้าเป็นกริปเป้นข้อจำกัดด้านนั้นจะหมดไปทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีรวมถึงค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานที่ต่ำกว่าเครื่องบินแบบอื่นๆซึ่งทำให้กองทัพสามารถดำรงไว้ซึ่งนักบินที่มีความชำนาญในการปฏิบัติงานจากชั่วโมงบินที่ได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและเพียงพอครับ
การซื้อเครื่องบินรบในอนาคตผมว่าเราควรซื้อเครื่องเป็นเครื่อง Multi-role แบบใดแบบหนึ่งไปเลยเช่นใช้ Jas-39 ก็ใช้ทั้งประเทศไปเลย มันสะดวกหลาย อย่าง
ส่วนที่ว่าเครื่อง Jas-39 มีจุดด้อยเช่นเครื่องยนต์เดียว เสียเปรียบเรื่องครองอากาศ บลาๆ
เราค่อยหาเครื่องแบบอื่นในปริมาณน้อยๆ มาอุดช่องโหว่ที่ Jas-39 ทำได้ไม่ดีนัก จัดเป็นกองบินเฉพาะกิจอะไรก็ว่าไปแบบนี้ผมว่าดีกว่า
เห็นด้วยกับทั้งสองท่านเลยครับ โดยส่วนตัวก็เชื่อและสนับสนุนให้ทอ.จัดหา Jas-39 C/D+ และ E/F เพื่อทดแทน F-5 E/F และ F-16 ADF (ต้องจัดหา Erieye มาเพิ่มด้วยนะครับ) เพราะในเมื่อทอ.ดำเนินการวางระบบโครงข่าย NCW มาจนเกือบครบสมบูรณ์แล้ว ก็ควรดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง เหตุผลสำคัญมากก็คือเรื่องค่าใช้จ่ายในการปฎิบัติการ และความพร้อมปฎิบัติการทั้งเครื่องบินและนักบิน ระยะเวลาประมาณ 10 ปีข้างหน้านี้ Jas-39 E/F ซึ่งได้รับการพัฒนาปรับปรุงให้มีสมรรถนะเหนือกว่ารุ่นเดิม C/D ในทุกด้านที่หลายคนค่อนขอดว่าเป็นจุดอ่อน เช่น กำลังขับสถิตย์สูงขึ้น สามารถบินด้วยความเร็วเหนือเสียงโดยไม่ต้องใช้สันดาบท้าย (SuperCruise) น้ำหนักบรรทุกมากขึ้น จุดติดตั้งอาวุธมากขึ้น มีเชื้อเพลิงภายในลำตัวเพิ่มขึ้น ระบบเรดาร์ AESA เมื่อรวมกับระบบต่างๆ เช่น โครงข่ายเรดาร์ สถานีควบคุมภาคพื้น เครื่อง AEW และอาวุธปล่อยที่มีสมรรถนะสูงเช่น Meteor , AMRAAM , Iris T (หรือ AIM-9X block II) กับหมวกนักบิน Cobra HMD ผมว่ามันก็มีสมรรถนะสูงพอที่จะครองอากาศเหนือน่านฟ้าของเราได้นะครับ ถ้าหากเรามีเครื่องบิน นักบิน และอาวุธในจำนวนที่พร้อมปฏิบัติการได้อย่างเพียงพอ