หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


บราซิลเล็งซื้อ โ€œระบบป้องกันภัยทางอากาศโ€ จากรัสเซีย

โดยคุณ : sekseree เมื่อวันที่ : 17/07/2014 11:19:23

ผู้นำหญิงแดนแซมบ้าเผยแผนเล็งซื้อ โ€œระบบป้องกันภัยทางอากาศโ€ จากรัสเซีย
ประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และประธานาธิบดี ดิลมา รูสเซฟฟ์ แห่งบราซิล
       เอเอฟพี - ประธานาธิบดี ดิลมา รูสเซฟฟ์ แห่งบราซิล กล่าวกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียวานนี้ (14 ก.ค.) ว่า บราซิลเลียมีแผนจะสั่งซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศจากมอสโก และดำเนินความร่วมมือกันด้านพลังงานนิวเคลียร์ร่วมกับแดนหมีขาว
       
       ปูตินได้เดินทางเยือนแดนแซมบ้า ภายหลังที่เขาเสร็จสิ้นภารกิจที่คิวบาและอาร์เจนตินา ระหว่างการตระเวนทัวร์ละตินอเมริกาเพื่อโน้มน้าวให้เหล่าผู้นำในภูมิภาคนี้ร่วมกันสนับสนุนนโยบายของเขา ในช่วงที่รัสเซียกำลังตึงเครียดกับบรรดาชาติตะวันตก หลังแดนหมีขาวตกเป็นจำเลยจากกรณีแทรกแซงกิจการภายในยูเครน
       
       ผู้นำบราซิลและรัสเซียได้ลงนามข้อตกลงทางการทหาร, เศรษฐกิจ, เทคโนโลยี และสาธารณสุขร่วมกัน
       
       ภายหลังการร่วมหารือกันที่ทำเนียบรัฐบาลปลานัลโต รูสเซฟฟ์กล่าวกับบรรดาผู้สื่อข่าวขณะยืนเคียงข้างปูติน ว่า “เราขอเน้นย้ำว่า การร่วมมือกันด้านกลาโหม และการใช้พลังงานนิวเคลียร์เชิงสันติเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ”
       
       ตามข้อตกลงทางทหารที่สองชาติบรรลุร่วมกัน กองทัพรัสเซียและบราซิลจะซ้อมรบร่วมกันในเดือนหน้า เพื่อทดสอบ “แพนต์ซีร์ - เอส 1” ระบบขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศพิสัยใกล้และพิสัยกลาง และระบบปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ซึ่งบราซิลมีแผนจะติดต่อขอซื้อจากรัสเซียในเร็วๆ นี้
       
       รูสเซฟฟ์ชี้ว่า “เนื่องจากชาติของเราจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก เราจึงไม่อาจพอใจที่ยังต้องพึ่งพาผู้อื่นในศตวรรษที่ 21 เช่นนี้”
       
       “เราจำเป็นจะต้องมีศักยภาพมากพอที่จะพึ่งตนเองได้ทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี”
       
       ปูตินได้ยกย่องบราซิลว่าเป็น “หุ้นส่วนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ของรัสเซียในภูมิภาคอเมริกาใต้ พร้อมทั้งกล่าวว่า พวกเขาได้ผนึกกำลังกันจัดการ “ประเด็นปัญหาที่สำคัญระดับนานาชาติ”
 
ผู้นำหญิงแดนแซมบ้าเผยแผนเล็งซื้อ โ€œระบบป้องกันภัยทางอากาศโ€ จากรัสเซีย
ระบบป้องกันภัยทางอากาศ แพนต์ซีร์ เอส 1 ของรัสเซีย

       ผู้นำรัสเซียกล่าวเสริมว่า ทั้งสองต่างตั้งความหวังที่จะ “พัฒนาศักยภาพด้านอุตสาหกรรม โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี” โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนความร่วมมือระหว่างสองชาติ
       
       ปูตินระบุว่า ทั้งสองได้วางแผนจะร่วมกันสร้างสาธารณูปโภคสำหรับโรงไฟฟ้า สถานีรถไฟปลายทาง เครื่องบิน และรถบัส
       
       นอกจากนี้ บราซิลยังตั้งเป้าจะเปิดทางให้รัสเซียเข้ามาลงทุนด้านพลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น เพื่อพัฒนาสายสัมพันธ์ด้านการค้าของสองประเทศ
       
       ข้อตกลงหนึ่งที่มอสโกจรดปากกาลงนามร่วมกับบราซิลเลียคือ การตั้งเป้ายกระดับการค้าจาก 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.8 แสนล้านบาท) เมื่อปีที่แล้ว ขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.21 แสนล้านบาท)
       
       รูสเซฟฟ์กล่าวว่า “การทำเช่นนี้จะช่วยผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายทุ่มเม็ดเงินลงทุนโดยตรงมากขึ้น”
       
       “ดิฉันได้อธิบายให้ประธานาธิบดีปูติน เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงโอกาสด้านพลังงาน และโครงสร้างด้านพื้นฐานที่มีมากมาย (ในบราซิล) ซึ่งเป็นภาคส่วนที่บรรดาบริษัทรัสเซียสามารถเข้ามาแสดงบทบาทที่สำคัญได้มากขึ้น โดยเฉพาะการออกอนุญาตลงทุนด้านน้ำมัน ท่าเรือ และทางรถไฟ
       
       วันนี้ (15) ปูตินจะเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่รายใหญ่หรือ “บริกส์” ณ เมืองฟอร์ตาเลซา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล
       
       นอกจากนี้ ผู้นำแดนหมีขาวยังเดินทางไปชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศในนครริโอเดจาเนโร แมตช์ที่เยอรมนีเฉือนเอาชนะอาร์เจนตินาไป 1-0
       
       รัสเซียซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2018 ได้ให้คำมั่นว่า จะทุ่มงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์สร้างสนามกีฬาและโครงสร้างขั้นพื้นฐานที่ใช้ในการแข่งขัน

credit:http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000079748





ความคิดเห็นที่ 1


อยากให้พี่ไทยซื้อบ้างครับ ของตะวันตกคงไม่มีทางเกิดในไทยแน่นอน T_T

โดยคุณ Nakarin เมื่อวันที่ 15/07/2014 15:44:51


ความคิดเห็นที่ 2


ผมเดาว่า ปูติน อาศัยช่องว่างความสัมพันธ์ที่ระหองระแหง ระหว่างอเมริกาใต้ กับ วอชิงตัน รุกคืบทั้งทางทหารและเศรษฐกิจ

เข้าไปในอเมริกาใต้ .. อีกทางหนึ่ง ก็เป็นการหาพันธมิตร ที่วอชิงตันขู่ฟ่อๆว่าจะคว่ำบาตรรัสเซีย

ตอนนี้ ประเทศรอบข้างที่เป็นอดีตสหภาพโซเวียตก็เลือกข้างอยู่ฝ่ายรัสเซียหมดแล้ว ( ก็ แหงล่ะ เศรษฐกิจต้องอิงรัสเซีย )

ยุโรปเอง แรกๆก็ทำท่าจะเอาด้วยกับคำขู่ของอเมริกา .. ไปๆมาๆ ปูตินขู่กลับ ว่าจะตัดน้ำตัดไฟที่จะจ่ายไปยุโรป

เสียงที่จะเอาด้วยกับเมกาตอนแรก เริ่มอ่อยลง ( ไกล้หน้าหนาวแล้ว ไม่มีแก๊สใช้ อเมริกาใช่ว่าจะส่งไม้ฟืนมาให้ซะหน่อย )

... ผมว่า อเมริกา ต้องทบทวนใหม่ ก่อนที่จะสายเกินไป ถ้ารีบจับมือเป็นมิตรกับรัสเซียยังทัน ก่อนที่อเมริกาจะเป็นฝ่าย

โดดเดี่ยวเสียเอง ยิ่งตอนนี้ จีน รัสเซีย จับมือกันแล้ว นี่ไปจับมือกับอเมริกาใต้อีก .. ถ้ามัวแต่แอ๊คท่าเล่นตัว จะไม่มีใครคบเอาน่ะ

โดยคุณ soda77 เมื่อวันที่ 17/07/2014 04:49:31


ความคิดเห็นที่ 3


ว่ากันตามตรงถ้าประเทศมหาอำนาจจับมือกันหมด โลกสงบขึ้นเยอะ (หรือจะโดนจับมือรีดเนื้อเถือหนังไม่รู้)

อเมริกาไม่โดดเดี่ยวหรอกครับ บราซิลก็ไม่ได้จู๋จี๋กับอเมริกาอยู่แล้ว เพราะถือว่าตัวเองเป็นประเทศใหญ่เหมือนกัน แนวๆอินเดีย คือคบได้หมดแต่ไม่พึ่งพิงใคร

มีนาโต้ ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน สิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศพัฒนาแล้วซะส่วนใหญ่ ทั้งยังมีประเทศเศรษฐีน้ำมันเป็นพวกในเขตตะวันออกกลางอีก เช่นซาอุฯ การ์ต้า หรือยูเออีก็เป็นมิตรกับฝรังเศสถึงขั้นมีฐานทัพในประเทศ

 

โดยคุณ toeytei เมื่อวันที่ 17/07/2014 10:39:52


ความคิดเห็นที่ 4


เศรษฐกิจสหรัฐฯตอนนี้ก็เริ่มล่อแลแล้ว เพราะอะไรคงรู้ดีครับ

BRICS ตอนนี้มาแรง แต่อาจจะไม่แรงเท่าไรนัก

โดยคุณ Nakarin เมื่อวันที่ 17/07/2014 11:19:23