สหรัฐอเมริกาเริ่มผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรทางทหารกับเวียดนามซึ่งมีขี้นตั้งแต่ยุคสงครามเวียดนาม โดยหลักคือเป้าหมายต้องการเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางทะเลของเวียดนามและสร้างพันธมิตรร่วมกันกับฟิลิปปินส์ไว้ช่วยกันยันจีน

ซึ่งการแก้กฎหมายครั้งนี้เป็นการผลักดันของสภาสูงจะเน้นไปที่การขายอาวุธเชิงรับเช่นเครื่องบินลาดตระเวณทางทะเลประมาณพวก p-3 หรือเรดาร์ต่างๆ และอาจจะรวมไปถึงเรือรบด้วย 

ซึ่งที่ผ่านมาเนื่องจากเวียดนามมีเครดิตด้านสิทธิมนุษยชนไม่ดีทำให้สหรัฐฯ ไม่สามารถขายอาวุธได้ แต่หลังจากมีการปล่อยและอภัยโทษนักโทษการเมือง ผมมองว่าก็พอดีนำมาเป็นข้ออ้างในการผ่อนคลายกฎนี้ด้วย ซึ่งก็ชัดเจนแหละครับว่าเรื่องสิทธิมนุษยชนหรือประชาธิปไตยสำหรับประเทศที่อ้างๆ กันมันสำคัญไม่เท่ากับผลประโยชน์ที่ได้ร่วมกันหรอกครับ ไม่งั้นไทยของไม่ซื้อฮ. รัวๆ ตอนนี้หรอกครับ ฮา

ผมมองว่าอนาคตความสัมพันฑ์ทางทหารระหว่างเมกากับเวียดนามจะสำคัญรองลงมาจากญี่ปุ่นกับเกาหลีเท่านั้นในเอเชียแปซิฟิก เพราะความบาดหมางกันจากสงครามเวียดนามนั้นมันเริ่มซาลงไปตามอายุและกาลเวลา รวมถึงความจำเป็นในการร่วมมือต้านภัยคุกคามที่สำคัญกว่าสำหรับทั้งสองเช่นการผงาดขี้นมาของจีนครับ นอกจากนี้เวียดนามกับจีนยังเป็นศัตรูที่สู้กันมาตั้งแต่จำความได้หลายพันปี

http://bangkokpost.com/news/asean/435591/us-eases-arms-embargo-against-vietnam