จากการประสบความสำเร็จในการใช้ UAV อย่างกว้างขว้างในทุกภูมิภาค แต่ที่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามใน อิรัค อาฟกานิสถาน รวมถึงใน ออสเซเทียใต้
แทนที่กองทัพเรือจะซื้อเครื่องบินอย่าง F/A 18 หรือ AV 8 แต่เปลี่ยนเป็น
UAV ประเภทลาดตระเวณโจมตีเช่น
MQ-1 และ MQ-9 Reaper
เพื่อความประหยัด ยืดหยุ่น ลดความเสี่ยงภัยในตัวบินด้วย และสามารถตอบสนองความต้องการของ นย. ได้ด้วยในการสนับสนุนทางอากาศ
การที่เราติดยึดกับแบบเดิม ทำให้เราต้องสูญเสียคน เงิน ไปเท่าไหร่แล้ว ทั้งที่เทคโนโลยีได้เปลี่ยนไป ยุทธวิธีก็เปลี่ยนไป ดูจาก 3 จังหวัดเป็นตัวอย่าง ถ้าเราใช้ UAV บินตอนกลางคืน เราน่าจะป้องกันความเสียหายได้เยอะกว่านี้
MQ-1 และ MQ-9 Reaper เป็นแค่ตัวอย่างที่ยก UAV ประเภทนี้มีหลายแบบให้เลือกในตลาด
4. วิพากษ์มาอยากฟังแนวคิดกันดู
ผมว่านี่ก็น่าสนสำหรับเรือจักรี
<a href="http://www.uppicweb.com/show.php?id=0dee3b1fb969e3189e62f807aaa94cbf" target="_blank"><img border="0" src="http://www.uppicweb.com/ic/fsn_ops_scenario.jpg" /></a>
กองทัพเรือมีความต้องการในการจัดหาอากาศยานไร้คนบังคับหรือ UAV ครับ ตามข้อมูลคือ
บันทึก 5 รายละเอียดความต้องการอากาศยานไร้นักบิน (1ระบบ)
5.1 ประเภท : อากาศยานไร้นักบิน (UAV)
5.2 โครงการ : 1 ระบบ (3 ระบบควบคุม UAV 9-12 เครื่อง) ระยะเวลาโครงการ 2552-2554
5.3 ขีดความสามารถที่ต้องการ
5.3.1 ลาดตระเวนตรวจการณ์พื้นน้ำ/พื้นดิน
5.3.2 พิสูจน์ทราบและชี้เป้าให้กับเรือผิวน้ำ/หน่วยกำลังทางบก
5.4 คุณลักษณะที่สำคัญ
5.4.1 ปฏิบัติการได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
5.4.2 รัศมีปฏิบัติการไม่ต่ำกว่า 100 ไมล์ทะเล
5.4.3 มีระบบตรวจการณ์ทั้งแบบเรดาร์และoptical
5.4.4 สามารถบันทึกภาพนิ่งและเคลื่อนไหวได้
5.4.5 สามารถแสดงภาพการตรวจการณ์ได้ในลักษณะ Real Time
5.4.6 มีอายุการใช้งานและสายการผลิตที่สามารถสนับสนุนอะไหล่ในการซ่อมบำรุงได้ไม่ต่ำกว่า 15 ปี
ซึ่งจากคุณสมบัติในบันทึกก็น่าจะเป็นระบบที่ปฏิบัติการจากฐานบินบนบกเพื่อใช้แทน T-337 ในภารกิจลาดตระเวน ตรวจการณ์และชี้เป้าครับ ซึ่งในตลาดก็มีให้เลือกหลายแบบที่เข้ากับคุณลักษระดังกล่าว หรือแม้แต่การพัฒนา UAV เองในประเทศครับ
แต่ถ้าถามว่า UAV แบบติดอาวุธได้อย่าง MQ-9 Reaper นั้นเหมาะกว่าการ บ.โจมตีทางทะเลหรือไม่ คำตอบคืออย่างไรเสีย บ.โจมตีที่ใช้นักบินบังคับนั้นยังเป็นระบบที่ใช้งานได้ในสงครามตามแบบครับ เพราะเครื่องมีขนาดใหญ่กว่า บรรจุอาวุธได้มากว่า บ.UAV ซึ่งติดอาวุธได้ในปัจจุบันในจำนวนไม่มากนัก ซึ่ง บ.โจมตีสามารถใช้ในการสนับสนุนกำลังนาวิกโยธินได้อย่างต่อเนื่องนานกว่า และหนักหน่วงกว่าด้วย
อีกทั้งยังไม่มี UAV ระบบได้ในปัจจุบันที่สามารถติดอาวุธปล่อยต่อต้านเรือผิวน้ำซึ่งเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของ บ.โจมตีทะเลที่มีความต้องการจัดหาครับ
บันทึก 5 รายละเอียดความต้องการอากาศยานไร้นักบิน (1ระบบ)
5.1 ประเภท : อากาศยานไร้นักบิน (UAV)
5.2 โครงการ : 1 ระบบ (3 ระบบควบคุม UAV 9-12 เครื่อง) ระยะเวลาโครงการ 2552-2554
5.3 ขีดความสามารถที่ต้องการ
5.3.1 ลาดตระเวนตรวจการณ์พื้นน้ำ/พื้นดิน
5.3.2 พิสูจน์ทราบและชี้เป้าให้กับเรือผิวน้ำ/หน่วยกำลังทางบก
5.4 คุณลักษณะที่สำคัญ
5.4.1 ปฏิบัติการได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
5.4.2 รัศมีปฏิบัติการไม่ต่ำกว่า 100 ไมล์ทะเล
5.4.3 มีระบบตรวจการณ์ทั้งแบบเรดาร์และoptical
5.4.4 สามารถบันทึกภาพนิ่งและเคลื่อนไหวได้
5.4.5 สามารถแสดงภาพการตรวจการณ์ได้ในลักษณะ Real Time
5.4.6 มีอายุการใช้งานและสายการผลิตที่สามารถสนับสนุนอะไหล่ในการซ่อมบำรุงได้ไม่ต่ำกว่า 15 ปี
MQ-1 12 ลำ พร้อมฐาน บังคับ
ไม่ใช่เงินน้อย ๆ ครับ ถ้าจะจัดเต็ม ฝูงแบบนี้ อย่างน้อยก็ 1000 M $
แพงกว่า F/A -18 F 8 เครื่อง พร้อม อาวุธ ซะอีก
ถ้า 6 ลำ นี่ ไม่แน่ อาจจัดหาได้ครับ
ของ ทอ.เอง ก็มีโครงการเช่นกันครับ spec นั้น พอๆ กับ MQ-1 เลยล่ะครับ
....ในด้านการนำยูเอวีไปใช้ใน การต่อตีเป้าหมายทางทะเล(จมเรือ) ยังไม่มียูเอวีรุ่นใดทำภารกิจนี้ได้ครับ ขนาดโกบัลฮอค ว่าใหญ่ๆยังใช้ชี้เป้าเลย เนื่องจากจะต้องให้ยูเอวีมีขนาดใหญ่ขึ้นและอาจจะเปิดเผยตัวต่อการตรวจด้วยนเรดาห์ข้าศึกได้ ยกเว้นในกรณีใช้ ยูเอวี นำมาลาดตระเวณตรวจการณ์กองเรือส่วนหน้าหรือชี้เป้าก่อนเข้าโจมตีครับ
...ส่วนภาจกิจลาดตระเวณโจมตี เกาะติดเป้าโจมตีเป้าหมาย หากใช้ระเบิดตั้งแต่ขนาด 250 ปอน์ด จนถึง จรวดนำวิถี ถือว่ามันเกินไป(แพง) ผมว่าอย่างเก่งใช้เกาะเปาะปืนกลอากาศ 7.62หรือ 12.7 ม.ม. 2กระเปาะจะดีกว่าครับ ทำหน้าที่เป็นกันชิพไป และยิงได้ยาวนานกว่าระเบิดด้วย อีกทั้งอำนาจการยิงก็รุนแรงพอสำหรับทำความเสียหายให้เป้าหมายได้ดี และบินได้นานประหยัดกว่า ฮ.โจมตี
...ส่วน ยูเอวี ของเยอรมัน(จำชื่อไม่ได้)หรือชาติอื่นๆก็เริ่มใช้ยุทธวิธียิงด้วยเครื่องยนต์เจ็ทจากแท่นยิงติดตั้งบนรถลำเลียงน่ะครับ
โครงการ UAV ของกองทัพอากาศมีรายละเอียดคราวๆดังนี้ครับ
บันทึก 23 โครงการจัดหาอากาศยานไร้นักบิน (UAV)
จัดหาอากาศยานไร้นักบิน (บินได้นานไม่ต่ำกว่า 30 ชม. และน้ำหนักบรรทุกไม่ต่ำกว่า 300 lbs.) จำนวน 6 เครื่อง (เป็นเครื่องที่ไม่ติดตั้ง Sensor จำนวน 2 เครื่อง) พร้อมอุปกรณ์ Sensor อุปกรณ์ควบคุมภาคพื้น อุปกรณ์สนับสนุนภาคพื้น อะไหล่ การฝึกอบรม และเอกสารเทคนิค รวมทั้งการถ่ายทอดเทคโนโลยี
โครงการ UAV ของกองทัพอากาศนั้นก็จะน่าเป็นในระดับ MALE อย่าง Heron หรือ Predator ครับเพราะว่าน่าเข้าประจำการแทน AU-23A ในภารกิจลาดตระเวน และถ่ายภาพทางอากาศ ซึ่งต้องการเครื่องที่บินได้ต่อเนื่องนานๆครับ
แต่ส่วนตัวคิดว่าการจัดหา บ.UAV ของไทยในปัจจุบันนั้นไม่น่าจะจำเป็นต้องติดอาวุธได้ครับ
ที่ผมเล่นกระทู้นี้ แล้วเสนอแบบนี้ ผมดูแล้วในเบื้องต้นนะครับ
MQ-9 ติดตั้ง GBU-12 ได้สองลูก และยังติดตั้ง Hellfire ได้อีก 4 ลูก ต่อ 1 ลำ
ดังนั้นถ้า กองทัพเรือซึ่งจะติดตั้งจรวดมาเวอร์ริค รุ่นนำวิถีด้วยทีวี ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่า GBU-12
หรือถ้าจะใช้ C-701 ของจีนแดงที่นำวิถีด้วยทีวี ก็น่าจะไปได้สวย ใช้ในการยิงเรือชาวบ้านเค้าน่าจะดีไม่น้อย
หรือจะติดจรวดขนาด 2.75 นิ้ว แบบ 7 หรือ 19 นัดในการสนับสนุน นย. หรือจะเล่น Mark 82 bomb ก็ไหว
ส่วนเรื่องราคาที่ว่าแพงกว่า F/A 18 ขอแหล่งอ้างอิงด้วยครับคุณ : AnuBis เพื่อจะได้เป็นข้อมูลที่อ้างได้จริง
หรือจะติดกระเปาะปืนที่ ทอ.เคยใช้ติด OV-10 มาปรับปรุงนิดหน่อยก็แจ่มนะครับ
MQ-9
http://en.wikipedia.org/wiki/MQ-9_Reaper
GBU-12
http://en.wikipedia.org/wiki/GBU-12_Paveway_II
Maverick
http://en.wikipedia.org/wiki/AGM-65_Maverick
C-701
http://en.wikipedia.org/wiki/C-701
การใช้ยุทธวิธีแบบเดิมๆ นอกจากจะเป็นการสิ้นเปลืองเงินอย่างมากแล้ว ยังเอาชีวิตคนไปเสี่ยงอีกด้วย
นักบินต้องใช้เงินฝึกเท่าไหร่ ถึงจะบินได้
นักบินต้องใช้เงินฝึกเท่าไหร่ ถึงจะอยู่ในสภาพพร้อมบินได้ (รักษาชั่วโมงบิน)
แต่ UAV อุดช่องว่าตรงนี้ได้มากทีเดียว ฝึกบิน ฝึกโจมตี กับคอมฯที่บ้านยังได้เลย แทนเครื่องบินโจมตีขนาดเบาได้เยอะเลยทีเดียว
AGM-65 Maverick ไม่ใช่อาวุธปล่อยที่เหมาะสมกับการโจมตีเรือรบผิวน้ำทั่วไปนักครับเนื่องจากหัวรบมีขนาดเล็กเกินไปคือเพียง 125lbs(57kg) อีกทั้งมีระยะยิงหวังผลที่ 15nm(27km) เท่านั้น
Maverick สามารถจัดการเป้าหมายเรือผิวน้ำขนาดเล็กเช่นเรือตรวจการณ์ชายฝั่งที่มีระวางขับน้ำและติดอาวุธไม่มากนัดได้ก็จริง แต่เรือผิวน้ำขนาดใหญ่ที่ติดอาวุธป้องกันตัวได้จากระยะไกลเป็นจำนวนมาก จะสามารถจัดการทำลาย บ.ที่ยิง Marverick ได้ตั้งแต่ระยะไกลครับ
ส่วน C-701 สำหรับ Reaper นั้นตามที่หลายๆท่านทราบว่าอาวุธหรืออุปกรณ์ใดที่จะนำมาติดตั้งกับอากาศยานที่จัดหาจากสหรัฐฯนั้นจำเป็นต้องมีการขออนุญาตในการดำเนินการจากรัฐบาลสหรัฐฯก่อน ซึ่งส่วนตัวคิดว่าแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะสามารถติดอาวุธจีนกับ บ.รบสหรัฐฯได้ครับ
MQ-9 Reaper นั้นมีราคาเครื่องเปล่าที่ราวลำละ $7-8 Million ซึ่งถือว่าไม่แพงถ้าเทียบกับ บ.โจมตี ย.Jet แต่ถ้ารวมกับการจัดหาระบบควบคุมและระบบสนับสนุนอื่นๆแล้ว จำนวนเครื่อง9-12ลำ จะต้องใช้งบประมาณราว $80-100 Million ซึ่งค่อนข้างสูงครับ แต่จากความต้องการทั่วไปที่นำเสนอมาข้างต้นเชื่อว่ากองทัพเรือต้องการ UAV ทางยุทธวิธีขนาดพิสัยทำการใกล้อย่าง Hunter หรือ Searcher II ครับ โดยใช้ในภารกิจลาดตระเวน ตรวจการณ์และชี้เป้า ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำการติดอาวุธครับ
ผมไม่เห็นด้วยกับคุณ AAG_th1 โดยสิ้นเชิง
ก่อนอื่นผมขอถามว่าคุณรู้จัก ซีสกัว ไม๊ครับ
คำถามที่ 2 ในกลุ่มประเทศอาเซียน มีเรือสักที่ลำที่รับมือ ซีสกัว ได้
มาเวอร์ริค น่ากลัวกว่าเยอะ.....