แหะๆเจอมาครับ แต่นำมาลงไม่เป็น ขอฝากเป็นลิ้งนะครับ
http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=22521
ไป upload ใส่ youtube มาให้ครับ ....... ไม่มีตอนปะทะเหมือนกัน แย่จริง ๆ ...... รอ VDO อย่างเป็นทางการจากกองทัพเรืออีกทีนึงครับ ^ ^
ขอบคุณจขกท. ที่หามาฝากครับ ^ ^
ขั้นตอนไป....ผมว่า ทร. น่าจะพัฒนาทำเป้าเคลื่อนที่บ้าง..นะครับ
เพราะ ในการรบจริง คงไม่มีเรือลำไหน จอดนิ่ง ๆ ให้ยิง...
กองทัพเรือได้มีการพัฒนาเป้าเคลื่อนที่ได้ใช้มานานแล้วครับ เช่นเป้าเรือที่ขับเคลื่อนด้วย ย.Water Jet ขนาดเล็กความเร็ว 14น็อต แต่เป้าแบบนี้จะใช้สำหรับการฝึกยิงภาคสนามของปืนใหญ่ป้องกันชายฝั่ง สอ./รฝ. ครับ
มาวิเคราะห์กันเล่น ๆ ว่าตารางเวลาในการฝึกซ้อมรบของกองทัพเรือกับกองทัพสิงคโปร์ อยู่ในห้วงของเวลาการเจรจาด้านปราสาทเขาพระวิหาร
มันช่างบังเอิญนี่เสียกะไร เท่าที่ผมสังเกตจากเนื้อหาในเวปต่างๆ อยู่ช่วงอ่าวไทยตอนบน ถ้าจะให้ดีถือเคล็ด หันหัวจรวจยิงไปทางประเทศเพื่อนบ้านที่พิพาทกันอยู่
เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการแสดงแสนยานุภาพทางทหารแบบน้ำพริกจิ้มแจ่ว
ให้รู้ว่าอย่าได้กร้าวกับประเทศเราเป็นอันขาดนะจ๊ะ ...คิดว่ามีความเห็นเช่นไรฮะ อาจจะบังเอิญจริงๆก็ได้
ผมว่าตอนอาวุธปล่อยชนเป้าไม่น่าจะมีอะไรน่าดูเท่าไรนัก เพราะเป็นหัวฝึกทั้งสองลูก แค่ทะลุเป้าไปเฉยๆ ไม่มีระเบิดแบบที่ยิงเอกโซเวต กับ ซี-801เมื่อปีก่อนๆ ดูเป้าหลังยิงไม่เสียหายเท่าไร ดีเหมือนกัน เอากลับมาใช้ได้อีก ไม่ต้องทำใหม่
เรื่องความเร็วเป้าไม่ค่อยมีเอฟเฟคอะไรมากครับ เพราะเรือวิ่งอย่างไรก็ไม่ออกมานอกพื้นที่ค้นหาของหัวอาวุธปล่อยฯ นอกจากนั้นอาวุธปล่อยบิน 0.8 มัคหนีไม่รอดอยู่แล้ว การฝึกส่วนใหญ่ไม่ว่าที่ใหนในโลกเป้าก็ไม่ค่อยเคลื่อนที่ เพราะควบคุมความปลอดภัยในการยิงยาก แค่ไล่เรือให้พ้นพื้นที่ยิง+พื้นที่ปลอดภัยก็ใช้เรือ20+ลำ+ ฮ.+บ.อีก 3-4 ลำ ถ้าปล่อยให้เป้าวิ่งไปเรื่อยๆ พื้นที่ยิงจะหมุนตามไป หรือถ้ากำลังจะยิงแล้วเกิดมีเรือเข้ามาในพื้นที่ ต้องเลื่อนเวลายิงออกไป ยิ่งควบคุมพื้นที่ยิงยากเข้าไปใหญ่ครับ มีรูปจากเรือนเรศวรมาด้วย (ก๊อปเขามา)
พอดีผมดูในคลิป จะมีการใช้ศูนย์เล็งที่ใช้คนประกอบด้วย...ถ้าเป้าหมาย อยู่นิ่ง...ประสบการณ์การฝึก...ก็เป็นการใช้ศูนย์เล็งแบบ เป้าไม่เคลื่อนไหว โดยเรือฝ่ายเราเคลื่อนไหวฝ่ายเดียว...ผมว่า ประสบการณ์ มันจะอีกแบบหนึ่ง...
ในแง่การเคลื่อนที่ ลักษณะเป้า น่าจะเป็นการเคลื่อนที่แบบ ซิกแซก วิ่งเข้าหาเรือยิง...หรือ วิ่งขนานกับเรือยิง...น่าจะไม่ใช้พื้นที่มากนัก และพื้นที่ใช้ฝึก จะเป็นบริเวณเท่าเดิม...เพราะขนาดของเรือ ก็ไม่น่าจะใหญ่กว่าขนาดเป้าเดิม....และในการรบจริง เรือก็แล่น โค้ง และซิกแซก ไม่วิ่งเป็นเส้นตรง...เพราะลักษณะการ จับเป้าหมาย ก็น่าจะจับเป้าหมายกันได้ทั้ง 2 ฝ่าย...
เพื่อจะได้เป็นการพัฒนาการฝึกจากแบบเดิม...และแตกต่างจากปกติ...เพราะเป้าชนิดนี้ ก็เท่ากับได้รับการพัฒนา และผ่านกระบวนการวิเคราะห์ ของ บุคคลากร ทร. ด้วย...
เพราะผม ก็มีความเห็นรู้สึกว่า การทดลองยิง เป้าเรือที่อยู่กับที่ จะเหมือนการทดสอบอาวุธอย่างเดียว ว่า ระบบอาวุธนำวิถี ยังสมบูรณ์ครบถ้วน...และวิ่งเข้าหาเป้าหมายได้ถูกต้อง กับ ทดลองวิธีการออกคำสั่ง และกดปุ่ม ในการยิงอาวุธนำวิถี...เพราะ เป้า อยู่กับที่....ยังไม่ถึงขั้นการซ้อมดำเนินยุทธวิธี ที่ฝ่ายตรงข้าม ที่เตรียมจะตอบโต้ด้วยอาวุธนำวิถี เช่นกัน...
เช่น กำหนด เป้าเคลื่อนที่ ในระยะเวลาที่คำนวนว่า ฝ่ายตรงข้าม จับเป้าหมายฝ่ายเราได้ และดำเนินการเตรียมยิงอาวุธนำวิถีตอบโต้...
ฝ่ายเรา ก็ควรจะดำเนินการในการจับเป้าหมาย และกดปุ่มยิงทำลาย ภายในระยะเวลานั้นให้ได้...จะเท่ากับ ประสบความสำเร็จสมบูรณ์...ถ้าแต่ ฝ่ายเรา ไม่สามารถดำเนินการจับเป้าหมาย และกดปุ่มยิงทำลายได้ ภายในระยะเวลานั้นได้...ก็จะเท่ากับ ไม่ประสบความสำเร็จ...ผบ.เรือ ก็ต้องฝึกการระงับการยิงแบบปัจจุบันทันด่วน....(เป็นการฝึกว่า เป้าหมายผิดพลาดไปในตัว) ก็ค่อยให้ เป้าหยุดนิ่ง และทดสอบการยิงอาวุธนำวิถี ต่อไป....
อันนี้ ในจินตนาการของผมนะครับ...
เห็นด้วยกับคุณ Juldas ครับ ที่จริงการฝึกประเภทนี้ น่าจะใช้เป้าที่สมจริงกว่านี้ เช่น
1. ไม่ควรมีการเพิ่มแผ่นสะท้อนเรดาร์ ( เรือฆ่าศึก คงไม่ติดให้เราตรวจพบง่ายขึ้น )
2. ควรเป็นเป้าเคลื่อนที่ ( น่าจะดัดแปลง เรือรบเก่า / เรือประมงเก่า หรือเรือโดยสารเก่าๆ ให้เดินเครื่องยนต์ได้ แล่นไป 5 - 10 นอต ก็ยังดี )
3. เวลาจะซ้อมยิงอวป. ควรให้ ผู้ควบคุมการซ้อมยิง ควรให้ข้อมูลเรือยิงไว้ 2 - 3 เป้าหมาย แล้วแจ้งใน 5 นาที สุดท้ายว่าจะให้ยิงเป้าไหน
4. ระหว่างมีการซ้อมยิง ควร จะสถานะการจำรอง เช่น มีหมู่เรือยิง ฝ่ายเรา 4 ลำ ระหว่างจำลองยุทธ เรือฝ่ายเราโดนยิง 1 ลำ ดังนั้น ต้องมีการกู้ภัยจากเรืออีก 1 ลำ ( ฝึกไปพร้อมๆ กัน ) ดังนั้นเหลือเรือ 2 ลำ ที่ จะเข้าสู่การรบได้. *** แต่จะไม่บอกว่าเรือลำไหนโดนยิง จนกว่าจะเข้าสู่เวลายิง 5 - 10 นาที สุดท้าย. เป็นต้น
ผมเขียนมาครั้งหนึ่งแล้วไม่ทราบเป็นอย่างไร ส่งออกไปแล้วหายไปเลย ไปโผล่ที่กระทู้ใหนก็ไม่ทราบ ขออนุญาตเขียนใหม่ครับ
เรื่องแผ่นสะท้อนเรดาร์นั้น ติดเพื่อให้เป้ามีขนาดสะท้อนเรดาร์เท่ากับเรือฟริเกตครับ ไม่ใช่ติดเพื่อให้จับเป้าและยิงได้ง่ายขึ้น ด้วยตัวเป้าเองมีขนาดเล็กมาก และโปร่ง อาจสะท้อนเรดาร์ได้เท่าเรือจับปลาลำเล็กๆเท่านั้น ถ้าไม่ติดจะยิ่งไม่สมจริงเพราะเป้าเรือขนาดนี้ในการรบจริงไม่คุ้มค่าในการใช้อาวุธปล่อยฯ ตอนที่ยิงเอ็กโซเซทลูกแรกเกือบ 30 ปีมาแล้ว เราใช้เรือตอร์ปิโดใหญ่(ปัตตานีลำเก่า)เป็นเป้ายังต้องติดลูกกลมสะท้อนเรดาร์เพิ่มอีกเล็กน้อย ให้เป้าใหญ่เท่าเรือฟริเกต ลูกนั้นยิงแล้วเรือปัตตานีขาดกลางลำเป็น 2 ท่อนเลย
เรื่องภาพคนเล็งด้วยกล้อง คงไม่ เกี่ยวกับการยิงครับ เพราะการยิงทั้งหมดทำจากห้องศูนย์ยุทธการ คนที่ดาดฟ้า และสะพานมีหน้าที่นำเรือตามคำสั่ง และดูแลความปลอดภัย เป้าขนาดเล็ก ห่าง 20 ไมล์ไม่สามารถเห็นด้วยตาเปล่าหรือกล้อง แต่ ดูเป้า เรือยิง เรือไล่เป้า ได้จากเรดาร์เท่านั้น และดูการเคลื่อนที่ของอาวุธปล่อยได้จากเรดาร์ในช่วงแรก (ก่อนหายไปจากเรดาร์เพราะบินเรี่ยน้ำ)และติดตามลูกอาวุธปล่อยในระยะต่อไปด้วย
IFF ฮ.ที่ขึ้นไปถ่ายรูปบิน ห่างจากเป้าไม่มากยังไม่เห็นเป้า เพราะมีหมอกแดดเรื่องเป้าเคลื่อนที่คงเป็นไปได้ยาก ครับ อ่าวไทยแคบมากๆ มีเส้นทางเดินเรือสินค้า มีฐานขุดเจาะกว่า 200 แท่น ถ้าลูกอาวุธปล่อยหลุดไปนอกพื้นที่ยิง ไปโดนเรือสินค้า เช่นที่สหรัฐเคยยิงไปโดนเรืออินเดีย ผบ.ทร.อาจหลุดจากตำแหน่ง การยิงครั้งนี้เป็นการยิงอาวุธที่มีระยะยิงจริงกว่า100 กม.ในอ่าวไทยเป็นครั้งแรก แม้จะยิงที่ระยะต่ำกว่านั้นก็ต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยเคร่งครัด มี
F - 16 บินตามลูกจรวด(ขอเรียกสั้นๆ)ตั้งแต่ออกจากท่อ ถ้าออกนอกเขตปลอดภัย จะแจ้งให้บ.ฟอกเกอร์กดรีโมททำลายลูกจรวดทันที ถ้านักบินไม่เห็นลูกจรวดติดต่อกันนานเกิน... วินาทีหรือเรดาร์จับไม่ได้เกิน...วินาที ก็ต้องทำลายทิ้ง มีกฎแบบนี้นับสิบข้อ ดังนั้นจะให้เป้าเคลื่อนที่ไปเร็วๆด้วยคงยาก ถ้าจะลากใครจะกล้าลาก ไม่เหมือนยิงปืน ถ้าจะมีเครื่องยนต์เองก็คงใช้จ่ายอีกมหาศาล สรุปแล้วทำยากครับ ขนาดเราเอาฮาร์พูน ติดฟอกเกอร์ไปยิงที่เกาะกวมเมื่อ 5 ปีก่อน เป้าก็คล้ายๆกัน ขนาดยิงในมหาสมุทรก็เป็นเป้าปล่อยลอยน้ำ แต่จรวดแม่นอยู่แล้ว ขนาดเป้าถูกน้ำตีหันข้างให้ จรวดยังถูกสันเป้าอย่างจังก็เลยมาเล่าสู่กันฟังแค่นี้ละครับ
ฉบับทร.ออกแล้วครับท่าน...แต่ไม่มีตอนกระทบเป้าเหมือนกัน