หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


คำถามความต้องการของ ทร. ครับ

โดยคุณ : rrgigman เมื่อวันที่ : 21/02/2009 02:37:23

ข้อ1 ความต้องการ

1.เรือผิวน้ำ

2.เรือดำน้ำ

3.เครื่องบิน

4.สวัสดิการ

5.อาวุธยุทโธปกรณ์ เช่น หมวเหล็ก ปลย.

6.รถเกราะ  ถ.

 ทร.มีความต้องการจำเป็นสิ่งใดมาจัดหาเพิ่ม/ทดเเทน เป็นอันดับต้นๆ หรือเพื่อนๆมีความเห็นอย่างไรครับ

 

ข้อ 2 เนื่องจาก บ.จัมพ์เจ็ท เเละ เอ7 ก็บินไม่ได้เเล้ว เป็นไปได้ไหมครับว่าการจัดหา บ.ทดเเทนจะเป็น ซู-33 ที่สามารถขึ้นลงจากเรือบรรทุกเครื่องบินเเละฐานบินบนบกได้(เเทน f-18 เพราะเเพง หรือ harrier ที่มีความสามารถไม่เป็น multirole fighter) เเล้วดัดเเปลงให้เรือจักรีฯสามารถเป็นฐานขึ้นของ ซู-33 ได้ด้วยเพราะผมเข้าใจว่าสภาพรันเวย์ของ 911 คล้าย admiral kuznetsov ของรัสเซียที่เป็นลักษณะลาดขึ้น ซึ่งถ้าเป็นไปได้ก็จะสามารถทดเเทน เเฮริเออร์เเละ เอ7 รวมถึงทำให้ 911 ของเรามีความสมบูรณ์ทางยุทธการ(เเต่ไม่ได้หมายถึงให้ไปรบกับใครนะครับ)

 

ถ้าไม่มีปัญหาเศรษฐกิจ เเละความขัดเเย้งต่างๆเราของจัดหาได้เเต่ของดีๆใช่มั้ยครับ ทร.จะได้สมบูรณ์

 

ขอบคุณทุกท่านที่ตอบครับผม





ความคิดเห็นที่ 1


ผมว่าเรือดำน้ำคงยังไม่จำเป็นหรอกครับ

ผมว่าเราไปต่อเรือต่อต้านเรือดำน้ำก็ได้ ไม่ก็ฟริเกต

ผมคิดว่าคุณค่ามันสูงกว่านะครับ

หากเกิดภัยธรรมชาติต่าง ๆ ละก็ เราก็สามารถนำมาใช้ในภารกิจช่วยเหลือประชาชนได้ อีกอย่าง เรือสมัยนี้ก็มีความสามารถสูง ลำก็ต่อเรือต่อต้านเรือดำน้ำก็พอแล้วครับ

ส่วนอื่น ๆ ผมก็เห็นด้วยครับ แต่ช่วงนี้ดูเศรษฐกิจขอประเทศก่อนดีกว่า

   ปล.นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมครับ

โดยคุณ ~(Justice)~ เมื่อวันที่ 18/02/2009 10:21:26


ความคิดเห็นที่ 2


เพิ่มความต้องการเพิ่มไปจาก ข้อ1 อีกอัน คือ ฮอลิคอปเตอร์ ครับ

SH-60

MH-60S

ซุปเปอร์ลิงค์

 

ฮอ พวกนี้ยังขาดอีกเยอะ และ ต้องการ มากครับ

โดยคุณ AnuBis เมื่อวันที่ 18/02/2009 12:41:12


ความคิดเห็นที่ 3


ขอโต้แย้งข้อนึงครับ

เจ้าแฮริเออร์  เรายังบินได้อยู่ครับ  อย่างน้อยๆ 2 ลำ  มีรูปยืนยันด้วย (เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานี้เอง) พอดีพี่ที่ทำงานเป็น ทหารเรือเก่า ขับรถกลับไปถิ่นเดิม (สัตหีบ) เห็นบินผ่านอยู่  แกเลยจอดรถ ถ่ายรูปและคลิ๊ปมาให้ดูเพื่อยืนยัน 

* ในความเห็นของผมและพี่ที่ทำงาน  ลงความเห็นว่าข่าวที่เครื่องแฮร์ริเออร์  บินไม่ได้แล้วนั้น   น่าจะเป็นข่าวปล่อยจาก ทร.มากกว่า  เพื่อลดความขัดแย้งในเรื่องสมดุลย์ทางการทหาร  โดยเห็นได้ว่า พยายามทำให้  เรือจักรีเป็นเรือช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล  เท่านั้นครับ   

โดยคุณ bluebangmod เมื่อวันที่ 18/02/2009 20:56:56


ความคิดเห็นที่ 4


ยืนยันด้วยคนครับ

ตอนนี้ บินได้อยู่ 2 ลำ ครับผม...
โดยคุณ highskygate เมื่อวันที่ 18/02/2009 21:48:16


ความคิดเห็นที่ 5


ดีใจจังครับที่ทราบว่าเครื่องเเฮริเออร์ ของเรายังบินได้แม้จะไม่ครบก็เถอะ

ถ้าเราสามารถซ่อม A-7 ของเราให้ใช้งานได้เองก็ดีนะครับอย่างน้อยบินลาดตระเวณก็ยังดี นักบินเราจะได้มีความชำนาญ ขอบคุณทุกข้อมูลในที่นี้ครับ(แม้จะโดนอำบ้างในบางกระทู้ 555 ไม่เครียดครับ)

โดยคุณ BC_1980 เมื่อวันที่ 18/02/2009 22:00:39


ความคิดเห็นที่ 6


ผมคิดว่า เรือดำน้ำ เป็นความต้องการอันดับหนึ่ง

เพราะ เรือดำน้ำ บทบาทเป็นอาวุธในการป้องปราม เพราะ การระบุตำแหน่งที่แน่ชัด ค่อนข้างยาก  ประเทศที่เป็นคู่ขัดแย้งของไทยต้องคิดหนักเพราะหากใช้กำลังทหารกับไทย โดยไม่รู้ตำแหน่งเรือดำน้ำของเรา ก็อาจจะถูกเรือดำน้ำของเราโจมตีทันทีที่ใช้กำลังกับไทย  เรือดำน้ำ อาจจะอยู่ในอ่าวไทย  อันดามัน ในทะเลหลวง ปากทางเข้าฐานทัพข้าศึก ก็ได้  ตอนนี้มาเลย์  อินโด  สิงคโปร์  อินเดีย  รอบประเทศเรามันเต็มไปด้วยเรือดำน้ำครับ 

เรือฟริเกต  ผมว่าถ้ากองทัพเรือใส่อาวุธเรือที่มีอยู่ให้เต็มตามแผนงานเดิม หรือปรับปรุงให้รบได้ทั้งสามมิติ ก็เพียงพอแล้วคับ

ส่วนตัวคิดว่า Su-33 น่าจะขึ้นจาก 911 ได้  แต่คงลงไม่ได้ เพราะเครื่องบินลำใหญ่ ลงบนเรือลำเล็ก ทางวิ่งสั้น  โอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงคับ  ใช้SU-30 แทน A-7 จากฐานบินบนบกก็สุดยอดแล้ว  ส่วน 911 มี AV8B สัก 10 ลำ ก็เยี่ยมแล้วคับ

โดยคุณ panzerlied เมื่อวันที่ 18/02/2009 23:40:26


ความคิดเห็นที่ 7


ร.ล.จักรีนฤเบศรเป็นเรือที่ออกแบบสำหรับการรองรับปฏิบัติการขึ้นลงทางดิ่งเช่น ฮ. และ บ.STOVL เท่านั้นครับ ซึ่ง Su-33 นั้นเป็น บ.ขึ้นลงปกติที่ต้องปฏิบัติการจากเรือที่ออกแบบมาให้รองรับเท่านั้น

เช่นในส่วนการวิ่งขึ้น-ลงแบบ STOBAR เฉพาะส่วนการวิ่งขึ้นเรือมีแผ่นกัน Jet Blast เพื่อป้องกันไอพ่นทำอันตรายเจ้าหน้าที่และทางวิ่งบนเรือครับ และก็ต้องมีลวดสำหรับเกี่ยวเพื่อลงจอดด้วย เรือบรรทุกเครื่องบินที่เป็น STOBAR รองรับเครื่องขนาดSu-33นี้ได้ต้องมีความยาวตัวเรือไม่ต่ำกว่า 250เมตร ขณะที่ ร.ล.จักรีนฤเบศรมีความยาวเพียง 180เมตร ซึ่งการดัดแปลงพื้นที่ดาดฟ้านั้นเป็นไปไม่ได้ด้วยครับ

โดยคุณ AAG_th1 เมื่อวันที่ 19/02/2009 02:28:04


ความคิดเห็นที่ 8


ข้อ1. พวกค่าสวัสดิการไม่ขอเอามารวมนะครับ เพราะมันมีอยู่แล้วในระบบค่าใช้จ่ายของกองทัพ ขอพูดแต่เรื่องอาวุธตามนี้ครับ

อันดับแรกนะครับ คือเรือผิวน้ำครับ และจำเป็นหลายลำเสียด้วย

อันดับสองก็คือพวก ยานเกราะและรถถังสำหรับนาวิกโยธิน

อันดับสามคือ อาวุธประจำกายและเครื่องป้องกันส่วนบุคคลสำหรับกำลังพลทดแทนที่กำลังล้าสมัยหรือสภาพไม่พร้อมที่จะใช้งาน

 อันดับสี่คือ เครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเลและเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งอาจจะรวมถึงเครื่องบินจำพวกไอพ่นที่ต้องใช้ปฏิบัติการสนับสนุนกองเรือ

อันดับห้าคือ เรือดำน้ำครับ

ข้อ2. เครื่องบินที่จะใช้ใน ร.ล.จักรีนฤเบศร์ ยังไงก็ต้องเป็นแบบ STOVL ครับ เพราะออกแบบให้มาใช้แบบนี้ตั้งแต่ต้น หรือไม่ก็ใช้ เฮลิคอปเตอร์ ปฏิบัติการไปเลย และหากจะหาเครื่องบินแบบ STOVL มาทดแทน AV-8S ที่มีอยู่เดิม ก็คงต้องเป็นพวก AV-8B หรือ แฮริเออร์F/A-2 ครับ ซึ่งถ้าต้องการก็คงต้องเป็นมือสองเหมือนเคยเพราะเลิกผลิตแล้ว แต่จะได้หรือไม่ต้องดูว่ามีใครที่พอจะขายให้ได้บ้าง ส่วนถ้าต้องการมือหนึ่งก็คงต้องรอ F-35B ซึ่งคงต้องรออีกประมาณสิบกว่าปีเห็นจะได้ครับ เพราะการพัฒนายังค่อนข้างล่าช้า

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 19/02/2009 10:15:02


ความคิดเห็นที่ 9


1.เรือดำน้ำ

2.เครื่องบิน/เฮลิคอปเตอร์

3.ระบบตรวจจับ และระบบสงครามอิเลคทรอนิคส์รุ่นใหม่ๆและระบบอำนวยการรบที่ทันสมัยให้แก่เรือผิวน้ำ

ข้อดีของการมีทั้ง3อย่างนี้ จะทำให้ขีดความสามารถของทร.ไทยเพิ่มขึ้นมาก

1.เรือดำน้ำ

เพราะว่าเรือรบ1ลำแทบไม่สามารถหาเรือดำน้ำได้เจอ และ ทำให้เรือดำน้ำเสียภารกิจได้ แต่เรือดำน้ำเพียงลำเดียวอาจทำให้ทั้งกองเรือเสียภารกิจได้นะครับพี่น้อง  ทร.เราจึงอยากได้หนักหนา

ใครคิดว่าอ่าวไทยน้ำตื้น เรือดำน้ำอยู่ไม่ได้ ก้อรู้ไว้ว่าคิดผิดนะครับ  น้ำตื้นยิ่งตรวจจับ ด.ได้ยากขึ้นเสียอีก เพราะความแตกต่างของเวลาที่คลื่นเสียงสะท้อน ด. กับ สะท้อนพื้นท้องทะเลมันจะไม่ต่างกันมาก ไม่เหมือนกับในเขตน้ำลึก  แล้วถ้าจะมองด้วยสายตาจากอากาศยานก้อไม่ได้ง่ายนักหรอก ตอนกลางคืนลืมไปได้เลยที่จะมอง ส่วนตอนกลางวันมองไปก็จะเห็นแต่เงาดวงอาทิตย์กับท้องฟ้าเท่านั้นแหละครับ  ฝึกกับ ด. ต่างประเทศกี่ครั้ง กว่าจะหาเจอได้แทบตาย ขนาดเค้ามาอยู่ใต้ท้องเรือแล้วยังไม่รู้ตัวเลย    ...รู้ความร้ายกาจของเรือดำน้ำหรือยัง  

แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องเรือฝึกเพราะเรากำลังต่อเรือดำน้ำสำหรับฝึกกันอยู่ครับ  แต่เรือดำน้ำจริงๆนี่ต้องว่ากันอีกยาวว

2.บ./ฮ.

จะทำให้การปฏิบัติการทางทะเลสำเร็จได้เราต้อง..

-ครองอากาศ

-ครองทะเล

ถ้าครองอากาศไม่ได้ เราก็ไม่สามารถครองทะเลได้ ซึ่งนี่ก็เป็นหลักนิยมของการรบสมัยนี้   ตราบใดที่ ทร.ยังไม่มีฝูงบินขับไล่/โจมตี เป็นของตนเองก็คงยังไม่น่าเกรงขามเท่าไร  ที่ทำได้ก็แค่ป้องกันตัวเอง(ระยะประชิด!!) ไม่สามารถไปกดดันข้าศึกได้  ปัจจุบันขั้นตอนการบังคับบัญชาของทร.ต่อ บ.จากทอ.ที่จะมาสนับสนุนนั้น ยุ่งยากมาก เพราะ ทร.ไม่สามารถควบคุม บ.จากทอ.ได้  ต้องร้องขอเป็นเที่ยวๆไป  นี่ถ้านับเฉพาะในทร.แล้วนะครับ ถ้าเรือออกไปเป็นกองเรือเฉพาะกิจ จะไปยกพลขึ้นบกที่ไหนซักที่ แล้วบังเอิญมี บ.ข้าศึกมาแค่ 2 ลำ อาวุธที่เราจะใช้ป้องกันตนเองได้นั้น มีแค่ Aspide เท่านั้นเองนะครับ เป็นเพียงการป้องกันในระยะใกล้เท่านั้น แต่ถ้าข้าศึกติด Harpoon มากับ บ.ด้วย เขาก็โจมตีเราได้ตั้งแต่ระยะไกล โดยที่เรายังไม่สามารถยิงอะไรออกมาจากเรือด้วยซ้ำเพราะยังไม่ได้ระยะยิงของอาวุธ   สิ่งเดียวที่จะป้องกันได้ก็คือ บ.ขับไล่เท่านั้น (ซึ่งคุณคิดว่านักบินทร.กับนักบิน ทอ. ใครจะร่วมรบกับ กองเรือได้ดีกว่ากัน แล้วทำไมประเทศอื่น ทร.จึงต้องมี บ.ขับไล่เป็นของตนเอง ..ก็เพราะว่ายุทธวิธีมันไม่เหมือนกันไง)  ซึ่งนอกจากใช้ต่อตีเวลาข้าศึกบุกแล้ว ยังใช้ในการบินลาดตระเวน เพิ่มพื้นที่ตรวจการณ์ให้กับกองเรือด้วย   ขอกันเลยครับ เครื่องบินน่ะ

แท้จริงแล้ว การปฏิบัติการในทะเลเป็นหน้าที่ของ ทร.อยู่แล้ว การป้องกันภัยทางอากาศ และการโจมตีทางอากาศต่อเรือของข้าศึกก็ควรจะเป็นหน้าที่ของ ทร.มากกว่า  ตอนนี้ข้างบ้านเราก็เต็มไปด้วยอากาศยานที่สามารถเป็นภัยคุกคามต่อกองเรือเราได้ ผมจึงคิดว่าหากเรามีแล้วล่ะก้อ การป้องกันภัยทางอากาศของเรานี่ก้อหมดห่วงไปได้เลยครับ

Harrior กับ A7 นี่มันเก่าแล้วครับ เอาไว้โชว์เฉยๆน่ะได้

 ที่ผมให้ความเห็นเรื่องเครื่องบินนี่ เพราะมันจำเป็นจริงๆครับ  แต่แน่นอนว่าเลิกคิดไปได้เลยว่าจะได้ซื้อ เพราะมันไม่สามารถจะหาเหตุผลดีๆมาให้ประชาชนเข้าใจได้ นอกจากเหตุผลเรื่องยุทธวิธี ซึ่ง ประชาชนไม่สนใจฟังอยู่แล้ว จะเอาไปทำฝนหลวง เราก็มี บ.อยู่แล้ว   และที่สำคัญ จะซื้อ บ.ขับไล่ หรือแค่ บ.โจมตี มาเป็นของ ทร.น่ะ ทอ.เขาก็คงไม่ยอมหรอกครับ  ทร.รู้ว่าซื้อไม่ได้แน่ ก็เลยตั้งความหวังไว้แค่ อาวุธปล่อยนำวิถีพื้น-สู่-อากาศ ก็เพียงพอแล้ว (แค่นี้ก็ขอให้ได้ก่อนเหอะ)

 

3.ระบบตรวจจับ และระบบสงครามอิเลคทรอนิคส์รุ่นใหม่ๆ และระบบอำนวยการรบที่ทันสมัยให้แก่เรือผิวน้ำ (เช่น Radar/sonar/ESM/ECM/เป้าลวงแบบต่างๆ)

จาบอกว่ายังไม่ต้องไปซื้อเรือใหม่หรอกครับ ด. กับ บ. สำคัญกว่า  เรามาอัพลำที่มีอยู่ให้เจ๋งกันดีกว่า  จะว่าไปถ้าไม่นับเรือสเตลท์แล้ว เรือทุกลำแล่นได้ ก็ถือว่าเป็นเรือเหมือนกัน ถ้าเป็นเรือรบ ก็จะมาวัดกันที่ระบบตรวจจับแล้วก็อาวุธเนี่ยแหละ เรื่องอาวุธเราไม่มีปัญหาเพราะเจ๋งอยู่แล้ว ปัญหาของเราก็คือ ระบบตรวจจับที่มันเก่าแล้วครับ ระยะตรวจจับก็ไม่ค่อยจะเป็นตามสเปกเท่าไรแล้ว ตรวจจับได้บ้างไม่ได้บ้าง เคยฝึกกับเรืออินโด ซึ่งมันอยู่ท้ายเรือเราแท้ๆแต่เรดาร์ดันจับมันไม่ค่อยได้  ( ถ้าได้เรดาร์อย่างเรือจักรี ทุกลำจะดีมากเลยครับ )ระบบอำนวยการรบก็พอกันครับ  มันเก่าแล้ว ใช้ยาก ไม่ทันเกม  ขอที่ทันสมัยหน่อยน่าจะดีกว่า จะได้รบได้ทันเวลามีข้าศึกเข้ามาหลายทิศทาง อีกอย่างที่สำคัญก็คือ dipping sonar สำหรับ ฮ.ทุกลำด้วยครับ เพราะเราจะได้ใช้ ฮ.ในการปราบเรือดำน้ำได้จริงๆทุกลำซะที  จะให้ดีก็ติดอาวุธให้กับฮ.ด้วยครับ  จะได้ไม่ต้องใช้พิสูจน์ทราบอย่างเดียว สามารถใช้ยิงได้เลย (ได้อย่างนี้แล้ว เรือที่มี ฮ.จะดูน่าเกรงขามขึ้นมาอีกมากเลย)

แต่ก้ออย่างที่บอกในตอนต้นแหละครับ  แต่ละอย่างนั้น ใช้ งป.อย่างมากกก ซึ่งต้องกลายมาเป็นข้อถกเถียงทางการเมือง และตามสื่อต่างๆแน่นอน เพราะ ทร.ไม่รู้จะอ้างว่าอย่างไรนอกจากจะเอามารบ  ไม่เหมือนกับ เรือจักรี หรือ LPD ที่บอกว่าจะใช้ช่วยเหลือผู้ประสพภัยพิบัติได้  แต่เรือดำน้ำกับเครื่องบินนี่ ไม่รู้ว่าจะอ้างยังไงเหมือนกันครับ    ผบ.ทร.ท่านก่อนเคยบอกไว้ว่า ครัยไม่ให้ซื้อเรือดำน้ำ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะมาโทษว่าเปนความผิด ทร.ไม่ได้นะ  ..เราเตือนคุณแล้ว

ที่บอกมานี่คือสิ่งที่เป็นจุดอ่อนของเรานะครับ จึงถือว่าเป็นความจำเป็นเร่งด่วน  ครับผม!

โดยคุณ navinoff เมื่อวันที่ 20/02/2009 15:37:25