ส่วนตัวผมนะครับ

1. สิงคโปร์

2. มาเลเซีย

3.ไทย

รอพี่ๆดีกว่าครับ

ถ้าเป็นก่อนสิบปีที่แล้ว อินโดที่หนึ่งครับ เนื่องจากน่านน้ำเค้ากว้างขวาง จำนวนเรือเค้าเลยมีมาก โดยเฉพาะเรือฟริเกตชั้นลีนเดอร์ที่ปลดมาจากอังกฤษ.................. ในยุคกองทัพไทยก้าวกระโดด ประเทศมีนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า ทุนนอกไหลเข้าประเทศพรึ่บๆ จีดีพีเราโตสิบกว่าเปอร์เซนต์สองปีซ้อน เรากำลังจะก้าวไปเป็นนิค เมื่อเศรษฐกิจโต การป้องกันผลประโยชน์ของชาติ เป็นหัวข้อการลงทุนที่รัฐบาลต้องยอมจ่าย โดยจัดหายุทโธปกรณ์ให้กับกองทัพ..................เรามีการต่อเรอฟรีเกตสมรรถนสูงเพิ่มเติมจากจีนสองลำ หลังจากก่อนหน้านี้แห่เรือจรวดขนาดสองพันตันไปแล้วสี่ลำ มีการจัดหาเครื่องบินไอพ่นโจมตีแบบเอ-เจ็ด ซึ่งเป็นเครื่องบินโจมตีทางทะเลแท้ๆ  ต่อเรือบรรทุกเครื่องบินและจัดหาจั๊มเจ็ทประจำการเป็นครั้งแรก มีแผนจัดหารถถังเบาจำนวนหนึ่งกองพันให้กับหน่วยนาวิกโยธิน และเรือดำน้ำดีเซลไฟฟ้าสองลำจากสวีเดน  (ค็อกคูม ญาติ ค็อกไค และ สไปโรขีด)............................

จะเห็นว่า ลิสตรายการอาวุธที่มี ทำให้ดีกรีขาใหญ่เบ่งได้เกินพิกัด................................. น่าเสียดาย หลังจากลูกโป่งแตก โครงการหลายโครงการพังพาบ............................. ถึงวันนี้มักมีคำถามๆให้ได้ยินเสมอ เกี่ยวกับการจัดหาอาวุธที่ผ่านมา  จัดหาโน่นมาทำมัย ???  จัดหานี่มาทำมัย ????  ทำมัยตอนนั้นถึงไม่เลือกอันนั้น ?????  ทำมัยไปเอาอันนี้ เหงมั๊ยมีไว้ก็จอดเฉยๆ ?????   จิงๆ วันนี้ผมเองก้ไม่ค่อยชอบกองทัพ (ม่ายรู้สิเหมือนไม่ใช่พวกเดียวกัน)   แต่ตรงนี้ขอเข้าข้างและตอบให้...................... คือถ้าผมเปงผู้หลักผู้ใหญ่กองทัพ ผมก็จะบอกว่า..................... ก็ตูจาไปรู้เหรอ ว่ามังจาเปงอย่างงี้..................... เวลาเปลี่ยน เหตุการณ์เปลี่ยน ย่อมทำให้สถานการเปลี่ยนครับ......................

ก็วันนั้นเศรษฐกิจมันดีเอ๊าดีเอา  เงินทองไหลมาเทมา  ไอ้ผมก็อยากจะปลูกตึกห้าชั้นหล่ะวา กะให้มีสักห้าห้องนอน  เมียใหญ่เมียน้อย เมียสุดท้องอยู่คนละชั้นเสร็จสรรพ............. เทปูนวางคานขึ้นโครงทั้งห้าชั้นเรียบร้อย .............. พอดี๊พอดีฟ้าผ่าหัวหมา ค้าขายขาดทุน แบ้งค์รัปท   แม้ไม่มีข้าวสารจะกรอกหม้อ แต่ยังไงก็ต้องมีที่ไว้ซุกหัว................. ว่าแล้วจึงเอาดินเหนียวมาเททำฝา หลังคามุงสังกะสีเอาแค่ชั้นล่าง ซุกหัวอยู่กะเมียทั้งห้าในห้องเล็กๆ  ปล่อยให้แท่งปูน โด่เด่อยู่ข้างบน แสดงอดีตครั้งเคยรุ่งเรือง .............  ถ้ามีใครมาถาม  เมิงปลูกบ้านภาษาอะไร ใช้ดินเหนียวคลุกขี้ หลังคาสังกะสี แต่มีท่อนคอนกรีตมากมายไม่ใช้ประโยชน์  ............................ ใครถามอย่างนี้ มันต้องเจอด่าแม่ง.................

อินโดนิเซียน่าจะมาเป็นอันดับแรก ในด้านจำนวนเรือและทักษะ (เพราะประเทศมีเกาะเยอะจัง) และมีการเสรริมสร้างทร.อย่างต่อเนื่อง  พี่ไทยผมให้อยู่ที่สองโดยภาพรวม (ขนาด,การฝึก,...และหัวใจ)

...คห.ส่วนตัวครับ...

เอ๊า............ลืมตอบคำถาม   ...................... ใครเจ๋งไม่เจ๋งดูที่ขีดความสามารถครับ....................

๑.ชาติใดมีเรือรรบใหญ่ๆมากที่สุด(รวมถึงเรือสนับสนุนการรบด้วย) ตอบ อินโด ไทย สิงคโปร์ มาเลย์

๒.เรือรบเหล่านั้น มีขีดความสามารถสูงป้องกันภัยคุกคามได้ทั้งสามมิติ ตอบ สิงคโปร์ มาเลย์ ไทย อินโด

๓.ขีดความสามารถโจมตีด้วยอากาศยาน ตอบ มาเลย์ อินโด ไทย สิงค์

๔.ขีดความสามารถโจมตีด้วยเรือดำน้ำ อินโด สิงโปร์ มาเลย์

๕.กำลังนาวิกโยธิน ตอบ อินโด ไทย มาเลย์ สิงคโปร์

ถ้าพูดถึงการปิดล้อม ให้น้ำหนักข้อ ๑. สี่สิบเปอร์เซนต์ ข้อ๒. สี่สิบ ข้อ๔.ยี่สิบ

ถ้าพูดถึงการป้องปราม ข้อ๑.ยี่สิบ ข้อ๒.สามสิบ  ข้อ ๓/๔ อย่างละยีบห้า

ถ้าพูดถึงสงครามสเทินน้ำ/บก ข้อ ๑/๒สีสิบ ข้อ๕ สี่สิบ  ข้อสามยี่สิบ..........

ทั้งนี้ทุกสนามรบใครครองอากาศได้ผู้นั้นได้เปรียบ

ดังนั้นถ้าพูดถึงการปิดล้อม อินโดที่หนึ่ง ป้องปราม มาเลย์ที่หนึ่ง สเทินน้ำบก อินโดที่หนึ่ง.......................... ประเภทคะแนนรวม อินโด มาเลย์ ไทย สิงค์......................

เออ

คุณกบตอบดีจัง ครับ

ผมชอบอ่าน ความเห็นคุณว่ะ

แหะๆ ถ้าไม่เป็นการรบกวนมากเกินไป

ขอรายละเอียดด้วยจะได้ไหมครับ

เช่น กำลังของแต่ละส่วน จำนวนเรือกี่ลำ

เครื่องบิน รถถังสะเทินน้ำ และกำลังพล

จะได้ความรู้มากๆขึ้นไปอีก

ปล.ยิ่งมีรูปประกอบด้วยนี่ต้องขอบพระคุณล่วงหน้าจริงๆ

เป็นแผ่นภาพ ทำไว้นานแล้วนะครับ...ยังไม่ได้ อัพเดท ข้อมูล ของ ทร.อินโดฯ กับ สิงค์ฯ ที่มีปลดประจำการเรือบางส่วน และน่าจะมีปลดเพิ่มอีกในส่วนของ อินโดฯ ครับ...

แผ่นที่ 1

เรือฟริเกต ติดอาวุธนำวิถี

แผ่นที่ 2

เรือฟริเกต

แผ่นที่ 3

เรือคอร์เวต์

แผ่นที่ 4

เรือ OPV

แผ่นที่ 5

เรือดำน้ำ และสงครามใต้น้ำ

เนื่องจาก ทร.ไทย ไม่มีเรือดำน้ำ ผมจึงจัดชั้น ร.ล.พุทธฯ อยู่ในหมวดนี้

เพราะคุณลักษณะของเรือ ก็จะเน้นหนักไปทาง ปราบเรือดำน้ำ เช่น ระบบโซนาร์ และ แท่นยิง ASROC จำนวน 8 ท่อ นั้น...จะใช้ยิง ASROC (ปราบเรือดำน้ำ) จำนวน 6 ท่อ โดยอีก 2 ท่อ ใช้ยิงฮาร์พูน...และยังมี ท่อยิงตอร์ปิโดธรรมดาอีก รวม 4 ท่อ...ในเรือ 1 ลำ มีหน่วยยิง ตอร์ปิโด ถึง 10 หน่วยยิง...

แผ่นที่ 6

เรือเร็วโจมตีติดอาวุธนำวิถี

thank you mr. juldas very much

so good and clear to analysis

จัดทำใหม่

กองเรือรบ และกองเรือช่วยรบ (บางกองเรือ)

สังกัด กองเรือยุทธการ

ยังขาดรูปดำ บางรูปครับ...แล้วจะค่อย ๆ เติมให้ครบต่อไป

กองเรือตรวจอ่าว

ข้อมูลปัจจุบัน ยังไม่ทราบว่าจะแบ่งหมวดเรือ เป็นอย่างไรอีกครับ..

เพราะ ได้โอนย้าย หมวดเรือที่ 3 ไปเป็น กองเรือยามฝั่ง ทั้งหมด...

เลยลองเดา อีกสักหน ในส่วนของ กองเรือตรวจอ่าว

หมวดเรือที่ 1

ชั้น ร.ล.ปัตตานี จำนวน 2 ลำ

เรือ โอ พี วี (ต่อใหม่) จำนวน 1 ลำ

ชั้น ร.ล.ชลบุรี จำนวน 3 ลำ

ชั้น ร.ล. ราชฤทธิ์ จำนวน 3 ลำ

รวม หมวดเรือที่ 1 จำนวน 9 ลำ

หมวดเรือที่ 2

ชั้น ร.ล.หัวหิน จำนวน 3 ลำ

ชั้น ร.ล.สัตหีบ จำนวน 6 ลำ

รวม หมวดเรือที 2 จำนวน 9 ลำ

หมวดเรือที่ 3

ชั้น ร.ล.ปราบปรปักษ์ จำนวน 3 ลำ (ปรับเรือเป็น รจป.)

ซึ่งผมว่าไม่แน่ ชั้น ร.ล.ปราบปรปักษ์ อาจจะโอนไปเป็น กองเรือยามฝั่ง ในอนาคตก็ได้  ถ้าเป็นอย่างนั้น กองเรือตรวจอ่าว จะคงมีเพียง หมวดเรือ 2 หมวด...

และข้อมูลผิดพลาดในส่วนของ เรือกวาดทุ่นระเบิดน้ำตื้น นะครับ...

จะต้องเป็นเรือ ท.1 - 12 นะครับ...ผมพิมพ์ผิด เป็น ท.1 - 10

หมายเลขเรือ

เป็นข้อมูล สมัยเป็นหมายเลขเรือ ตัวเดียว ของกองทัพเรือ

ซึ่ง ร.ล.ปิ่นเกล้า ในช่วงแรกของการประจำการ จะเป็นเครื่องหมายเลข 1

โดยขณะนั้น ร.ล.ท่าจีน ก็เป็นหมายเลข 1 ด้วยเหมือนกัน...

ผมจึงคิดว่า ในช่วงนั้น ทร. น่าจะจัด ร.ล.ปิ่นเกล้า เป็น เรือพิฆาต ไม่น่าจะจัดเป็นเรือฟริเกต และการตั้งชื่อเรือ ก็ตั้งชื่อเรือ ตามหลักการตั้งชื่อ เรือพิฆาต...

แต่ต่อมา เมื่อมีการปลดประจำการ ร.ล.บางปะกง (ลำที่ 1) ก็มีการจัดเครื่องหมายเลขใหม่ ร.ล.ปิ่นเกล้า เป็นหมายเลข 3 และ ร.ล.แม่กลอง จากหมายเลข 3 เป็น หมายเลข 4...

พอดูการจัดหมายเลขเดิม เป็นเลขตัวเดียว....

การจะรู้ว่าเป็นเรืออะไร ผู้ที่อ่านเลขหมาย ก็ต้องรู้จักชนิดของเรือด้วย...

เช่น มีเรือ แล่นอยู่ 3 ลำ มี หมายเลข 1 ทั้ง 3 ลำ...ถ้าผู้อ่านหมายเลข ไม่รู้จักชนิดของเรือ จะต้องเก็บข้อมูล และบอกลักษณะเรือ ได้...ถึงจะรู้ว่าเป็นเรืออะไร แล่นอยู่ทั้ง 3 ลำ

แต่สำหรับการจัดหมายเลขใหม่ เป็น 3 ตัว เรือทั้ง 3 ลำ ที่แล่นอยู่ จะบอกชื่อและชนิดเรืออย่างชัดเจน เช่น 411, 441, 611 โดยผู้อ่านหมายเลข ไม่ต้องรู้จักชนิดเรือ ก็สามารถส่งข้อมูลแค่ตัวเลข ก็จะรู้ว่าคือ ร.ล.ท่าจีน ร.ล.รัตนโกสินทร์ และ ร.ล.โพสามต้น เป็นเรือ 3 ลำ ที่แล่นอยู่...

เรือฟริเกต สมรรถะสูง ไม่ใช่ เรือชั้น นเรศวร ครับ...

ยังไม่ทราบว่าเป็นเรืออะไรครับ...อาจจะเป็นเรือมือสอง...หรือ อาจจะเป็นเรือมือหนึ่ง...ซึ่งคงเป็นการออกแบบใหม่ หรือ เรือที่ออกแบบจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด เช่น ชั้น ลาฟาแยตส์ หรือ Meko...

เรือชั้น แอนดูแรนซ์ ตามโครงการเบื้องต้น มีความต้องการ จำนวน 2 ลำ...แต่ตอนนี้ มีงบประมาณ สามารถจัดหามาได้จำนวน 1 ลำ...

ให้ลองไปดูที่กระทู้นี้ ครับ..

โดยเรือ แอนดูแรนซ์ ที่กำลังก่อสร้างนี้ ถ้ายังจัดอยู่ในหมวด เรือยกพลขึ้นบก น่าจะใช้หมายเลข 791

หรือถ้าจัดเป็น เรือบัญชาการและสนับสนุนยกพลขึ้นบก น่าจะใช้หมายเลข 111

หรือถ้าจัดอยู่ในหมวด กองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ น่าจะใช้หมายเลข 921  ครับ...

ขอบคุณครับ ท่าน rinsc seaver

ฉบับปรับปรุงใหม่

ท่าน AAG_th1 ผมลองสังเกตุ การจัดหมวดเรือปัจจุบัน ของ ทร.

จะจัดหมวดโดยใช้เรือที่มีลักษณะเดียวกัน หรือคุณสมบัติเดียวกัน เป็นหมวดเรือ...

ซึ่งเมื่อดูในหมวดเรือที่ 1 ของ กองเรือฟริเกตที่ 1 ผมว่า ทร. น่าจะกลับมาใช้ 433 ในภาระกิจเดิม...อืมส์...แผ่นภาพหมายเลขเรือ ผมขาด ร.ล.มกุฎฯ ไป....แล้วจะปรับปรุงใหม่อีกครั้งครับ...

โดยในช่วงที่มีการปรับปรุงระบบอำนวยการรบ คือ 4C

ทร.ได้ปรับปรุงเรือจำนวน 5 ลำ คือ ร.ล.ตาปี ร.ล.คีรีรัฐ ร.ล.มกุฎฯ ร.ล.รัตนโกสินทร์ ร.ล.สุโขทัย  

และเรือทั้ง 5 ลำ ก็ใช้ระบบโซนาร์ DSQS-21C แบบเดียวกัน...ทั้งหมด

ผมจึงคิดว่า หมวดเรือที่ 1 ของ กองเรือฟริเกตที่ 1  เป็นกองเรือปราบเรือดำน้ำ ที่สำคัญของ ทร. สำหรับเตรียมรับภัยคุกคามใต้น้ำ ที่ประเทศเพื่อนบ้าน เริ่มมีเรือดำน้ำประจำการ...