ถ้าเป็นก่อนที่พ่อใหญ่จิ๋วจะไปพบสมเด็จฮุนเซ็นเรื่องมันยังไม่น่าปวดหัวเท่าตอนนี้เลย แต่ตอนนี้นี่สิ มันชักจะไปกันใหญ่แล้วเนี่ย จิตวิทยาขั้นเทพ
เขมรรู้ว่าเรามีปัญหาภายใน ใครๆก็รู้ เขมรเค้าอยากให้เรารบ แต่คนฉลาดจะเลือกที่ไม่เข้าสู่สงคราม (เหมือนกับเด็กสองคนตีกัน แล้วมีคนดูอยากจะรู้ว่าคนดูจะช่วยใคร)
แทนที่จะได้ใช้เวทีอาเซียนให้เป็นประโยชน์ในการเจรจา แต่ดันตึงเครียดมากขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้เขมรเสริมกำลังที่ชายเดินเพิ่มอีกแล้วครับ เห็นว่าเพิ่มรถถังอีก1กองพัน
ดูเหมือนชักศึกเข้าบ้านยังไงไม่รู้
วิจารณ์กันสร้างสรรค์หน่อยนะครับไม่อยากให้กระทู้โดนลบ
สวัสดีครับผู้ที่มีเลิอดรักชาติทั้งหลาย
ผมว่าเราน่าจะโจมตีทางด้านความเชื่อมั่นกับประเทศเค้าจะดีกว่าครับไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจสังคม ยกตัวอย่างการเกิดประทัดยักษ์สักสองสามลูกกลางนครที่มีการรักษาความปลอดภัยสุดห่วยของประเทศ.......ข้างเคียง หรือให้เงินสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่านค้านเค้าในการเดินเกมส์ใต้ดินทุกอย่างเท่าที่มี ทำยังไงก็ได้ให้รัฐบาลบ้านเค้าขาดเสถียรภาพในการบริหารประเทศ ทำให้ประเทศด้านตะวันออกของเราเป็นดินแดนที่น่ากลัวขาดความเชื่อมั่นทางด้านการลงทุน ผมว่าเรารบชนะโดยไม่ต้องเสียทหารแม้แต่คนเดียวเพียงแต่หน่วยงานบางหน่วยงานของเราลงมือโดยเร็วก็เท่านั้นเอง
อยากให้บรรพบุรุษของเรา เห็นการกระทำของลูกหลานท่านว่าเป็นอย่างไร แล้วท่านจะเจ็บปวดแค่ไหน
ปล.เห็นแล้วหดหู่ใจยิ่งนัก
กระทู้นี้จะโดน วมต. ว่าเอาไหมนี้
เคยเห้นว่า ห้ามพูดเรื่อง เขมร นิ
ให้ตายยังไง มันก็ไม่รบกันหรอกครับ ถ้ารบกันจริง ชายแดนไทย-เขมร ก็ต้องปิด แล้วชายแดนไทย-เขมร ใครละที่มีธุระกิจ อยู่แถวนั้น .... คิดเอาเอง .... อย่าพวกนั้นหรอ จะยอมเสียรายได้
ทหารที่เขารับชาติ ที่เขาไม่มี ประโยชน์แอบแฝง เขาอยากจะรบจะตาย แต่มันทำไม่ได้ เพราะผู้ใหญ่เขาห้ามไว้..... เพราะอะไร....ก็อั๋วมีหุ้นส่วนอยู่แถวชายแดนนี่หว่า....เหอ ๆ
ทำใจครับ ปล่อยให้เขมรเขาเล่นการเมืองของเขาไป รัฐบาล เจอทั้งศึก ภายในประเทศ นอกประเทศ และข้างบ้าน เห็นแล้วเหนื่อยแทน แต่ถ้ายังไม่ทันเกมอย่างนี้ ไม่คิดจะโต้ตอบอะไรไปแรง ๆ บ้าง ระวังประชาชน เขาจะทนไม่ได้เอานะครับ พี่น้องครับ.....
เราก็ช่วยเค้ามาตลอดนะ ทั้งให้เงินกู้ สร้างระบบสาธารณูปโภค ทำถนน ด้านการแพทย์ การศึกษา นักศึกษาของเค้าก็มาเรียนที่บ้านเราเยอะแยะ นักลงทุนเราก็ไปลงทุนที่บ้านเค้าอีกอีกมากมาย ของกินของใช้ เค้าก็ต้องพึ่งของของเรา เราก็เต็มใจช่วยมาตลอดนะ
เวลาเค้าเดือดร้อนอะไร ก็จะคอยมาพึ่งพาอาศัยประเทศเราตลอดถ้าเราดูจากประวัติศาสตร์นะ แต่เราไม่ชอบนะที่เค้ามาทำกับเราแบบนี้
งั้นผมมอบเพลงนี้ให้พวกเค้าฟังล่ะกัน เผื่อพวกเค้าจะคิดได้บ้าง http://www.youtube.com/watch?v=hf7LHSeJkvs&feature=related
สงครามมีแต่ความสูญเสีย
ผมมีหนังสือประชุมพงศาวดาร ฉบับกาญจนาภิเษก ที่คณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี จัดพิมพ์เป็นที่ระลึก เนื่องในวันมหามงคลสมัย ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี พ.ศ.2539 อยู่แล้ว 5 เล่ม
ได้เพิ่มจากบู๊ธกรมศิลปากร งานสัปดาห์หนังสือคราวนี้อีก 6 เล่ม (ขาดเล่ม 7)
เปิดอ่านเล่ม 12 เจอพงศาวดารเมืองละแวก จ.ศ.1170
ต้องย้ำกันอีกที...เรื่องราวที่ผมคัดย่อ...ต่อไปนี้ เป็นพงศาวดารเขมร เขียนโดยคนเขมร
"จะกล่าวถึงสมเด็จพระเจ้ากรุงศรีอยุธยา ทรงพระนามชื่อว่าสมเด็จพระพุทธิเจ้าพระนเรศ (สมเด็จพระนเรศวร) พระองค์ทรงพระวิตก คิดจะปรารถนาสมบัติในเมืองแลวก (ละแวก)
ทรงพระดำริดั่งนี้แล้ว จึงเรียกราชบุรุษสองคน ซึ่งรู้ศิลปศาสตร์เวทางคบวรกฤดิยาคม เชี่ยวชาญชำนาญกล้า มาสนทนาเป็นความลับ ให้คิดเป็นกลอุบายแก้ไขเอาเมืองแลวกให้จงได้...."
สรุปความว่า สองราชบุรุษจากอยุธยา ปลอมตัวเป็นพระเข้าไปถึงราชสำนักนักพระสัตถา ทำคาถาอาคมทำเอาพระยาละแวกที่เคยดี กลายเป็นขี้เมา เมาทั้งวันทั้งคืน ไม่เอาใจใส่ดูแลกิจการบ้านเมือง
เสกผัวแล้วก็เสกเมีย ทำให้สมเด็จพระอรรคมเหสี เป็นโรคร้าย "ให้จุกให้เสียดให้เจ็บไข้ให้เมื่อยขบเจ็บทั่วสรรพางค์กาย แพทย์หมอทั้งปวงรักษาไม่หาย"
ราชบุรุษจากอยุธยา กราบทูลให้เผาพระอัฐรัส (พระสูง 18 ศอก 4 องค์ ในวิหารจตุรมุข กลางเมือง เผาพระจนผู้คนร่ำลือว่าบ้าเต็มที่แล้ว ให้บังเอิญอ่างเก็บน้ำประจำเมืองเกิดแห้งขึ้นมาอีก
เมืองละแวกระส่ำระสาย ราชบุรุษก็มีหนังสือลับกราบทูลพระนเรศเป็นเจ้า ให้ยกทัพไปโจมตี
"ครั้นพระนเรศเป็นเจ้า ยกกองทัพไปถึงปลายแดนเมืองบัดบอง (พระตะบอง)...พระเจ้ากำภูชาธิบดีแจ้งเหตุแล้ว ให้มีหนังสือไปถึงหัวเมืองทั้งปวงว่า ถ้าข้าศึกยกมาอย่าให้หัวเมืองใดๆ ป้องกันรบพุ่งขัดขวางไว้ ปล่อยให้ข้าศึกยกมาจนถึงกำแพงเมืองละแวกนี้เถิด...
ทรงพระดำริตรัสว่า... "กองทัพออกมารับสู้รบก็พอจะได้อยู่ เห็นว่าผู้คนจะล้มตายเป็นอันมาก ก็ควรเราจะชนช้างด้วย พระนเรศให้เป็นศึกคชพยุห สำหรับกษัตริย์ ถึงมาดว่าจะแพ้ชนะ
จะให้เป็นเดชะพระเกียรติยศ ปรากฏไปภายหน้า..."
เมื่อพระนเรศยกพลมาถึงเมืองของพระองค์ (นักพระสัตถา) ก็รีบทรงช้างพระที่นั่งออกไปชิงชัย ชนด้วยพระนเรศเป็นเจ้า (ผลปรากฏว่า) เสียฤกษ์
ช้างพระที่นั่งของพระองค์ แลเห็นช้างพระนเรศก็ให้ปัติเหตุตกใจกลัว ทะลวงขอแตกตื่นเสียกระบวน ไล่แทงช้างม้าไพร่พลของพระองค์เอง แตกกระจัดกระจายหนีพ่าย"
พงศาวดารเมืองละแวกตอนนี้ จบลงตรง...พระยาละแวกลงเรือหนีไปอาศัยอยู่ ณ เมืองศรีสุนธร (ปัจจุบันอยู่กำพงจาม)แล้วเลยไปเมืองลาวลานช้าง (เมืองเชียงแตง)
สาระหลักที่ควรชำระกับบางฉบับของไทย ก็น่าจะอยู่ตรงประเด็นบาดใจเขมร ไม่มีเรื่องพระยาละแวกถูกจับประหาร เหมือนที่มีการเขียนภาพไว้ที่วัดแถวๆอยุธยา
ความจริงจากพงศาวดารเขมร พระยาละแวกน่าจะตายอยู่ในลาว
อ่านพงศาวดารเมืองละแวกแล้ว ได้ความคิด...ความจริงนั้น ถ้ามองจากเมืองไทยก็เป็นความจริงแบบไทย มองจากเขมรก็เป็นความจริงแบบเขมร
ก็ถ้าความจริงมีว่า นายกฯฮุน เซน ของเขมร เขารักอดีตนายกฯทักษิณ มากกว่าใคร รู้ใจจริงเขาแล้ว ก็จะได้รู้เสียทีว่า เรื่องร้ายๆที่ชายแดน มันเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยอะไรแน่.
กิเลน ประลองเชิง
ผมชอบอ่านคอลัมน์นี้ครับ
ปัญหาเขมรแก้ง่ายนิดเดียวครับ ห้ามคนไทยข้ามไปเล่นการพนันที่บ่อนปอยเปต เกาะกงทุกบ่อน ตัดกำลังน้ำเลี้ยงเพราะเงินส่วนใหญ่ที่นำมาพัฒนากองทัพกัมพูชามาจากเงินพวกนี้ ส่วนสินค้าของพ่อค้าแม่ค้าตามแนวชายแดนขายเขมรไม่ได้ ก็มาขายคนไทยสิครับ โดยรัฐรับซื้อมาทั้งหมด หรือจะช่วยพ่อค้าแม่ค้านำสินค้าใส่รถบรรทุกทหารนำมาขายที่กรุงเทพฯ หรือไม่ก็ไปขายที่ลาว เพื่อให้ชาวบ้านไม่ขาดรายได้ก็จะได้หันมาสนับสนุนรัฐในการจัดการเขมร ส่วนคนไทยในเขมรให้อพยพไปอยู่เกาะกง เพราะคนส่วนใหญ่ในเกาะกงก็คนไทยทั้งนั้น แม้แต่ รมต.ต่างประเทศ กลาโหม ก็คนไทย นำกองกำลังเรือรบที่เรามีเหนือกว่าปิดท่าเรือกัมพูชา ยึดเกาะกงไว้ แต่ต้องระวังเวียดนามจะเข้ามาจุ้น เมื่อทหารทำงานสะดวกไม่มีการต่อต้านจากคนในพื้นที่เรื่องการค้าขายปากท้องของเค้า การรบกับกัมพูชาจึงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพียงแต่เราต้องระวังมือที่สาม จะเข้ามายุ่งผมคิดว่ามาแน่ ๆ การรบครั้งนี้จึงต้องจบโดยเร็ว ทำเพียงสั่งสอนให้บทเรียนแก่กัมพูชาก็พอ ว่าอย่ามาแหยมกับกรูคนไทย พื้นที่ทับซ้อนถ้าเราว่ามันเป็นของ ๆ เรา มันก็ต้องถือว่าเป็นพื้นที่ของเรา เหมือนกับที่เค้าถือว่าเป็นพื้นที่ของเค้ามาโดยตลอดไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน พื้นที่นั้นมันจะต้องปลอดจากทหารเขมรและคนเขมรโดยสิ้นเชิงไม่ใช่ให้เค้าบุกรุกที่ของเรามาสร้างที่อยู่อาศัย สถานที่ราชการ วัด โดยที่เราคนไทยทำอะไรไม่ได้ การเจรจาใช้กับเขมรไม่ได้มาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษของเรา ยกเว้นผลประโยชน์ ถ้าคุณต้องการคนไทยไปเสียเงินเล่นการพนันในประเทศของคุณต่อไป คุณต้องถอยทหาร และคนของคุณออกจากพื้นที่ของเราทั้งหมด คนไทยรักสงบ แต่ถึงรบผมว่าไม่ขลาด แต่แกล้งเขลาตลอด
คิดถึงเขมรทีไรก็คิดถึง พันเอก ประจักษ์ สว่างจิตร ทุกที วีรบุรุษตาพระยาในใจใครหลายๆคนและก็ผู้ที่ทำให้เขมรต้องตะลึงกับปฏิบัติการทางทหารของไทย ถ้าย้อนไปในเหตุการณ์ปีที่แล้วที่มีการปะทะกันตามแนวชายแดน ถ้าท่านยังอยู่และได้เป็นแม่ทัพภาคและก็คงไม่ต้องพูดมากหรือใช้การเจรจา เพราะท่านเป็นทหารที่รบโดยไม่มีการเจรจาเสียแต่ว่าเราได้เปรียบทุกกรณี
คิดถึงสมัยนี้แล้วก็ .......... เฮ้อไม่อยากพูด