หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ฮิตเลอร์ สเตลธ์ อาวุธลับ กองทัพนาซี!

โดยคุณ : tan02 เมื่อวันที่ : 12/02/2010 23:12:53

คิดว่าเป็นประโยชน์เลยขอนำมาลงให้อ่านกันครับ

ที่มา http://hilight.kapook.com/view/43843

ฮิตเลอร์ สเตลธ์ อาวุธลับ กองทัพนาซี!

"ฮิตเลอร์ สเตลธ์" อาวุธลับกองทัพนาซี! (ข่าวสด)

          ปีหน้า...หน้าประวัติศาสตร์ "สงครามโลกครั้งที่ 2" จะหมุนผ่านครบ 65 ปีเต็ม

          ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นักวิชาการทั่วโลกต่างพยายามเสาะหาข้อมูลใหม่ๆ ออกมาตีแผ่เปิดเผยแก่ชาวโลก ทั้งเพื่อให้รู้เท่าทันพิษภัยสงครามและบันทึกแง่มุมสำคัญเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมความสูญเสียครั้งนี้เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา

          ล่าสุด สถานีโทรทัศน์ "เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก" จัดทำสารคดีชุดพิเศษเรื่อง "ฮิตเลอร์ สเตลธ์ ไฟเตอร์" ฉายภาพความฝันกองทัพนาซีเยอรมัน ภายใต้การนำของเผด็จการ "อดอล์ฟ ฮิตเลอร์" ซึ่งมุ่งมั่นพัฒนาอาวุธและจักรกลสังหารทรงพลานุภาพหลายชนิด รวมถึง "เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน" หรือ "สเตลธ์" หวังปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ 2 ในฐานะ "ผู้ชนะ"

          แต่เคราะห์ดีของชาวโลกที่ความฝันฮิตเลอร์ไม่มีโอกาสกลายเป็นความจริง!

          ช่วงท้ายสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรบุกตะลุยเล่นงานกองทัพนาซีเยอรมันจนอ่อนล้าลงมาก  ทำให้ฮิตเลอร์ตั้งความหวังว่า บรรดาโครงการอาวุธลับต่าง ๆ ที่ซุ่มคิดค้นจะช่วยพลิกสถานการณ์

          หนึ่งในโครงการอาวุธลับของทัพนาซี คือ เครื่องบินรบทิ้งระเบิด ซึ่งสามารถหลบหลีกการตรวจจับจากเรดาร์ของศัตรู!

          ขณะนั้นแนวคิดเรื่องเครื่องบินล่องหน หรือเครื่องสเตลธ์ ยังไม่เคยมีชาติใดคิดพัฒนาอย่างจริงจังมาก่อน เพราะความยากและซับซ้อน แม้แต่ชาติมหาอำนาจอย่าง "สหรัฐอเมริกา" ภายหลังชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 เรียบร้อยแล้ว  ยังต้องใช้เวลาอีกประมาณ 30 ปีกว่าจะสร้าง "สเตลธ์" ได้สำเร็จ!

          ปี ค.ศ.1943 (พ.ศ.2486) ฝูงบินทิ้งระเบิดเยอรมันพ่ายแพ้ความเร็วฝูงบินรบสัมพันธมิตรชนิดราบคาบ ประกอบกับฮิตเลอร์ต้องการให้สร้างเครื่องบินทิ้งระเบิดที่บินไปไกลถึงสหรัฐอเมริกา

          ด้วยเหตุนี้ จอมพลเฮอร์มันน์ เกอริง ผู้บัญชาการทัพฟ้า (ลุฟต์วาฟฟ์) จึงมีบัญชาให้ลูกน้องเค้นสมองคิดเครื่องบินทิ้งระเบิด หรือ "บอมเบอร์" ที่มีคุณสมบัติ 3 ข้อนี้ออกมาให้ได้ นั่นคือ

          1. บรรทุกระเบิด 1,000 ก.ก.

          2. บินไกล 1,000 ก.ม.

          3. บินด้วยความเร็ว 1,000 ก.ม./ช.ม.

          บุคคลผู้เสนอตัวอาสาออกแบบสุดยอดบอมเบอร์ดังกล่าว ได้แก่ สองพี่น้องลูกทัพฟ้า "ไรมาร์และวอลเตอร์ ฮอร์เทน" ซึ่งยื่นแบบพิมพ์เขียวเครื่องบินล้ำยุคหน้าตาแปลกประหลาดให้ผู้นำกองทัพดู หลังจากช่วยกันออกแบบนานหลายปี เพราะไฟสุมอกที่อยากสร้างเจ้าเวหาขึ้นมาล้างแค้นให้เพื่อนร่วมกองทัพที่เสียชีวิตใน "ยุทธการบริเตน"

          "ฮอร์เทนไม่เคยลืมการสูญเสียเพื่อนนักบินร่วมรบ และคิดว่าเยอรมันต้องมีเครื่องบินที่หลบหลีกเครือข่ายเรดาร์ของอังกฤษให้ได้" เดวิด ไมห์รา นักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกัน ผู้ติดตามสัมภาษณ์และเขียนหนังสือเกี่ยวกับผู้น้องตระกูลฮอร์เทนตราบจนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตในคริสต์ทศววรษ ที่ 1990 กล่าว

          ในที่สุดช่วงต้นปี ค.ศ.1944 (พ.ศ.2487) ทีมวิศวกรของฮอร์เทนก็ออกแบบ "ต้นแบบ" เครื่องบินดังกล่าว ถึง 3 รุ่น แต่ละรุ่นล้วนมีรูปโฉมแตกต่างจากเครื่องบินรบในอดีตอย่างสิ้นเชิง มองดูแล้วเหมือนยานจากอนาคต เพราะโครงสร้างหลักมีแต่ "ปีก" กับ ห้องนักบิน

          สำหรับต้นแบบเครื่องบินรบรุ่นที่โดดเด่นและใกล้ความจริงมากที่สุด คือ "Horten HO 2-29" ติดตั้งเครื่องยนต์ "บีเอ็มดับเบิลยู 003" พร้อมปืนใหญ่ 30 มิลลิเมตร 4 กระบอก และบรรทุกระเบิดขนาด 500 กิโลกรัม 2 ลูก

          พี่น้องฮอร์เทนมั่นใจว่า เมื่อนำ "ขี้เลื่อย-ถ่านไม้-คาร์บอน-ยางไม้" ทาเคลือบลงไปบนพื้นผิวด้านนอกของตัวเครื่อง จะทำให้ HO 2-29 กลายเป็นเครื่องบินล่องหน เพราะมีคุณสมบัติดูดซับคลื่นแม่เหล็กของเรดาร์ นอกจากนั้น ด้วยโครงสร้างการออกแบบตามหลักกลศาสตร์ ยังช่วยให้มันบินในระดับต่ำมาก และรอดพ้นจากเรดาร์สัมพันธมิตรง่ายขึ้นอีกหลายเท่า



          ผลการทดสอบเครื่อง HO 2-29 ประสบความสำเร็จด้วยดีก่อนเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาส ปลายปี 1944 เล็กน้อย

          อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นพลานุภาพของกองทัพนาซีถือว่าอ่อนยวบไม่มีชิ้นดี ใกล้พบจุดจบเข้าไปทุกที ขาดแคลนทั้งขวัญกำลังใจ กำลังเงิน นักบิน และเชื้อเพลิง

          โครงการ HO 2-29 จึงต้องหยุดชะงักลงอย่างสิ้นเชิง เหลือไว้แต่ซากเครื่องต้นแบบ กับ พิมพ์เขียวให้กองทัพสหรัฐยึดกลับไปตรวจสอบ ท่ามกลางความตกตะลึงถึงความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมเครื่องจักรสังหารของเยอรมันชิ้นนี้ ซึ่งทำให้ต้องขบคิดกันว่า ถ้าบังเอิญฝ่ายนาซีเกิดผลิตเป็นจำนวนมากได้จริง ๆ โฉมหน้าสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่

          เพื่อพิสูจน์ว่า HO 2-29 จะมีศักยภาพร้ายกาจขนาดไหน บริษัท นอร์ธทรอป กรัมแมน ผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่ของสหรัฐและผู้คิดค้นเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน "สเตลธ์ บี-2" จึงสร้าง HO 2-29 รุ่นจำลองขึ้นมาทดสอบประสิทธิภาพในการหลบเลี่ยงเรดาร์

          การทดลองครั้งนี้ใช้งบฯ ราว 9 ล้านบาท ผลลัพธ์พบว่า HO 2-29 หลบเรดาร์สัมพันธมิตรยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้จริง ๆ!

          โดยถ้าเทียบจากเรดาร์ระวังภัยบริเวณช่องแคบอังกฤษในยุคนั้นจะตรวจจับเครื่องบินรบศัตรูได้เมื่อเข้าสู่ระยะ 160 กิโลเมตร แต่สำหรับ HO 2-29 จะจับได้เมื่อบินเข้าระยะ 129 กิโลเมตร และเพราะมันบินเร็วมาก จึงสามารถพุ่งถล่มเป้าหมายใจกลางอังกฤษภายใน 8 นาที ขณะที่เครื่องบินรบทิ้งระเบิดรุ่นก่อนหน้าต้องใช้เวลา 19 นาที ส่งผลให้ทัพอังกฤษและสัมพันธมิตรมีเวลาเตรียมรับมือน้อยลง

          "มีความเป็นไปได้ว่า ถ้าฝ่ายนาซีผลิต HO 2-29 ออกปฏิบัติการ เกมการรบอาจพลิกผันและได้เปรียบในห้วงเวลาหนึ่ง จนกว่าฝ่ายสัมพันธมิตรจะคิดค้นอาวุธตอบโต้สำเร็จ" ทอม โดเบรนซ์ ผู้เชี่ยวชาญสเตลธ์ของนอร์ธทรอปฯ กล่าว

          แต่ประวัติศาสตร์ไม่ได้เขียนเอาไว้เช่นนั้น เพราะ HO 2-29 ไม่เคยออกรบ

          ส่วนฮิตเลอร์ฆ่าตัวตายอยู่ในบังเกอร์หลบภัย กรุงเบอร์ลิน เมื่อเดือนเมษายน 2488




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก





ความคิดเห็นที่ 1


ถ้านาซีชนะสงครามนะ

เราได้ไปอวกาศเร็วกว่านี้เเน่นอน

ดูดิขนาดสเตลธ์ ก็คิดขึ้นก่อนเมกา ตั้ง30 40ปี

เครื่องบินเจ๊ตก็ก่อน v1 v2 ก็ก่อน

ไอ้ยูเอฟโอเนี่ยก็เคยเห็นนะที่ว่าเป็นงานวิจัยของนาซีที่จะ ทำเครื่องบินโดยใช้สนามเเม่เหล็กเป็นตัวขับเคลื่อนอะแล้วหุ่นยนต์ศึกของกองทัพแพนเซอร์ก็เคยเห็นนะ รู้สึกจะอยู่ในหนังสือ

เฮาร์โอเฟอร์ เบื้องหลังท่านผู้นำเนี่ยแหละรึป่าวจำไม่ได้

ตกลงเนี่ยทุกวันนี้เรายังมีชีวิตอยู่กับภูมิปัญญาของนาซีหรอก

ที่แท้ บี2 เนี่ยไอ้กันก็ก๊อปเขามานี่เอง

โถ่อเมิกาอเมริโกง อันธพาลจริงๆ

โดยคุณ pinkmaster เมื่อวันที่ 25/11/2009 02:27:21


ความคิดเห็นที่ 2


ผลิตได้ก็คงเหมือนเดิมมั้งจะเอาทรัพยากรที่ไหนมาใช้ละ
โดยคุณ seekmen เมื่อวันที่ 25/11/2009 09:31:05


ความคิดเห็นที่ 3


ปีกบินไม่ใช่ของใหม่ แต่กว่าจะทำให้ปีกบินมัน Stable ได้ ต้องมีคอมพิวเตอร์ช่วยเยอะมาก อย่างที่บอกไป มันไม่ยากที่จะสร้างแต่มันยากที่จะทำให้มันบินได้ต่างหาก ฉะนั้น กว่า ปีกบินของนาซีจะบินได้ คงอีกนาน ^^
โดยคุณ u3616234 เมื่อวันที่ 25/11/2009 10:22:46


ความคิดเห็นที่ 4


pinkmaster เออ ท่านในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 2 เยอรมัน เค้าเป็น อันธพาล ก่อนอ่ะครับท่าน ไปโจมตี ประเทศนู้นที นี้ที

   จุดจบของอันธพาล ก็เป็นแบบนั้น
  
    แล้วที่ อเมริกา เอาแบบมา มันก็เป็น วิถี ของผู้ชนะ ที่สมควรได้

   วุฒิภาวะ ถึงรึยังครับท่าน ที่จะพูดอะไร กลับไปศึกษา ประวัติศาสตร์ ก่อนน่ะครับ
โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 26/11/2009 05:12:56


ความคิดเห็นที่ 5


^  ^  ^

แต่เขาก็ไม่ได้พูดผิดอะไรนี่ สเตลท์ คิดขึ้นก่อน ก็ถูกแล้ว แค่ไม่ได้ประสพความสำเร็จก่อน V1 V2 อาจจะไม่ใช่เครื่องบินเจ็ต แต่ก็คิดขึ้นก่อน แถมคนคิดยังถูกอเมริกาดึงไปนาซ่า ภูมิปัญญานาซี ชัดๆก็ AK-47 นั่นปะไร ถ้าพูดถึงเรื่องอันธพาล ดูสงครามอิรัคภาครีเทิร์นสิ สหประชาชาติทำอะไรได้ วีโต้มีไว้ทำไม ถ้าจะบุกเพื่อสิทธิมนุษย์ชน แอฟริกาน่าห่วงกว่าเยอะ นิวเคลียส์เหรอ? เจอมั้ยล่ะ ผมว่าการกระทำครั้งนั้นก็เรียกว่าอันธพาลได้
Ok ไปอวกาศก่อนก็ยังชี้ชัดไม่ได้ วิถีของผู้ชนะ ก็ยอมรับได้ นาซีทำผิด ก็ใช่อีก แต่ใช่ว่าอเมริกาจะเป็นคนดีเหมือนพระเอกหนังไทยซะที่ไหน ผู้ชนะย่อมเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์อยู่แล้ว แล้วท่านอ่ะไปว่าเขาไม่มีวุฒิภาวะทำไม?
โดยคุณ Puriku เมื่อวันที่ 26/11/2009 14:09:17


ความคิดเห็นที่ 6


ขอให้เป็นการโพสเกี่ยวกับเทคโนโลยีการทหารด้วยครับ

อย่าทะเลาะกันเลยผมขอนะครับ

โดยคุณ tan02 เมื่อวันที่ 27/11/2009 06:47:59


ความคิดเห็นที่ 7


เรื่องอันทพาล สาไป สาวมาไม่จบหรอกครับ ชาติสัมพันธมิตรก็เล่นเค้ากอ่นแท้ๆ

เช่น ฝรั่งเศษเล่นงายเยอรมันช่างที่แพ้สงครามโลกครั้งที่1
อเมริกาเล่น ญี่ปุ่น สมัยนู้น เอาเรือไปบังคับให้เค้าเปิดประเทศ

โดยคุณ shareluk เมื่อวันที่ 12/02/2010 12:12:55