หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ความเหมาะสมของการจัดหาเครื่องบินโจมติและคุ้มกันกองเรือ

โดยคุณ : ddd2521 เมื่อวันที่ : 28/11/2009 06:21:07

ถ้าหากว่ากองทัพเรือ จะจัดหาเครื่องบินโจมตีและคุ้มกันกองเรือ ประเภท SU 32 FN หรือ SU 34 ท่านคิดว่ามีความเหมาะสมกับยุทธศาสตร์บ้านเราไหมถ้าการจัดหาวางกำลังแค่ 6 เครื่อง ณ สนามบินอู่ตะเภา และอีก 4 เครืองที่สนามบินบ้านทอน นราธิวาส





ความคิดเห็นที่ 1


ผมก็สนับสนุนนะครับ แต่คิดว่าระบบคงไม่เข้ากับกองทัพเราเป็นแน่ โดยเฉพาะการติดต่อสื่อสารกับเรือรบ และยามฝั่งเพราะใช้ระบบคนละระบบ และการยืมอาวุธระหว่างทร.ทอ.ก็คงจะทำไม่ได้เพราะใช้ระบบคนละระบบกัน ทร.ใช้ของรัสเซีย แต่ท.อ.ใช้ของเมกา การสนับสนุนกันมันคงทำได้ยากครับ แต่ถ้าเป็นF/A18 หรือเครื่องบินจากยุโรป ก็จะสามารถุสนับสนุนกันได้ครับ ถ้าเป็นแบบนี้ผมคิดว่าดี โดยเฉพาะ ซุปเปอร์ ฮอร์เน็ต จะสามารถใช้อาวุธที่มีอยู่ในกองทัพอากาศและกองทัพเรือได้ครับทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องอาวุธหลากหลายแบบ แต่ผมว่าตอนนี้เรือฟริเกตุป้องกันภัยทางอากาศเป้นความจำเป็นเร่งด่วนมากกว่าครับในการใช้คุ้มกันกองเรือ มากกว่าเครื่องบินขับไล่ เรืองบ.ข.ผมให้เป็นโครงการที่สองจะดีกว่านะครับ

ส่วนการวางกำลัง คิดว่าวางกำลังที่อู่ตะเภาเป็นหลักและสับเปลี่ยนกำลังไปฐานบินอื่นก้น่าจะดีนะครับ ดีกว่าวางไว้หลายๆที่ โดยภาคใต้เรามีGripen ดูแลอยู่แล้ว F/A18 ก็ดูแลด้านอ่าวไทยฝั่งตะวันออกไปอย่างงี้น่าจะดีกว่านะครับ

โดยคุณ champ thai army เมื่อวันที่ 26/11/2009 00:57:22


ความคิดเห็นที่ 2


สิ่งที่ผมอยากให้ไทยเราจัดหาจากค่ายรัสเซียเพราะติดใจอาวุธบางอย่างของเค้าที่สามารถบรรทุกไปจมเรือได้ภายในนัดเดียวและสามารถต่อต้านสงครามอิเล็คทรอนิคได้ในตัว นี่คือข้อเด่นที่ผมเชียร์เจ้าเครื่องตัวนี้มากเลย

โดยคุณ ddd2521 เมื่อวันที่ 26/11/2009 02:51:29


ความคิดเห็นที่ 3


  ท่าน ddd2521   กำลังพูดถึง Brahmos อยู่ใช่ไหมครับ

แหมๆ ใช่ว่า อัตราการยิงโดน จะ 100 % ซ่ะหน่อย

 Harpoon , Exocet , RBS-15  ก็พอแล้วมั๊งครับ ยิง 1-2 ลูก เรือฟริเกต ระวางขับน้ำ 4000 ตัน ก็ไปไม่เป็นแล้วครับ ดีไม่ดี อาจจม สู่ก้นทะเล ก็ได้
โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 26/11/2009 04:50:17


ความคิดเห็นที่ 4


เอา RAFALE M เลย Cheers
 
 พูดเล่นครับ เงินใช่ว่าหาง่ายๆ มีแล้วก็ต้อง จัดสรร ปันส่วน ให้ดี เรือฟริเกต สมรรถน่ะสูง มาก่อนเลย

  ขอเป็น La Fayette Class น่ะ จะปลื้มมากๆเลย
โดยคุณ TOP SECRET เมื่อวันที่ 26/11/2009 04:52:36


ความคิดเห็นที่ 5


Brahmos  เป็นจรวดโจมตีเรือที่มีความเร็วสูงถึง 4 มัค มีระบบต่อต้านการรบกวนอิเล็กทรอกนิกส์ ตั้งแต่จรวดรุ่นนี้ออกมาวงการทหารเรือตะวันตกสั่นสะเทือน ทั้งยุโรป สหรัฐ เวลายิงป้องกันตัวในระยะประชิดนั้นมีเวลาน้อยลง ทางแก้ก็คือระบบ antimissile ในระยะประชิด จะต้องมีระยะยิงที่เพิ่มขึ้นและไวขึ้น ส่วนของสหรัฐนั้นคงมีการพัฒนาใช้เรกันในการยิงสกัด(มั่ง) ส่วนของยุโรปต้องเพิ่มระยะยิงของจรวดป้องกันตัวเองเท่านั้น
และถ้ามาเลเซียมี Brahmos ใ้ช้ประจำการกองเรือภูมิภาคแถบนี้ก็คงเสียวๆกันเป็นแถบ
โดยคุณ sam เมื่อวันที่ 26/11/2009 07:25:54


ความคิดเห็นที่ 6


ดีเลย แต่ว่าผมเชียร์ตัว Super Hornet มากกว่า แล้วก็วางกำลังที่อู่ตะเภาที่เดียว วางหลายที่มันดูยุ่งๆ ยิ่งไปวางที่นราธิวาสนี่ ไม่เวิร์ค ถ้ามีความต้องการเร่งด่วนสุดๆ ก็ยังมีกริพเพนขัดตาทัพอยู่ อาวุธใช้แค่ฮาร์พูน+อัมรามก็หรูแล้วล่ะครับ
โดยคุณ Puriku เมื่อวันที่ 26/11/2009 13:31:10


ความคิดเห็นที่ 7


เครื่องบินโจมตีทางทะเลและใช้ฐานบินบนบกนั้น ผมว่าหลักการจัดหาน่าจะมี

1.บินได้ไกล สามารถไปกลับได้โดยอาจไม่ต้องอาศัยเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ

2.ความน่าเชื่อถือสูง เครื่องยนต์จะเดี่ยวหรือสองเครื่องก็ตาม ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ก็จัดว่าความน่าเชื่อถือสูง แต่ส่วนใหญ่นิยมสองเครื่องยนต์เพื่อลดความเสี่ยงกรณีเครื่องยนต์ใดเครื่องยนต์หนึ่งดับเพราะกลางทะเลหาสนามบินสำรองไม่ได้

3.สามารถใช้อาวุธโจมตีเรือได้อย่างแม่นยำ(นั่นสิข้อนี้ใครก็รู้) เช่นจรวดนำวิถีโจมตีเรือ

4.มีจรวดอากาศสู่อากาศแบบ BVR ที่สามารถป้องกันภัยทางอากาศได้ในระยะไกลกรณีมีเครื่องบินฝ่ายตรงข้ามบินเข้ามา

5.บำรุงรักษาง่ายและรวดเร็วประหยัด

6.สามารถติดต่อส่งข้อมุลระหว่างกองเรือ ศูนย์บัญชาการ และเครื่องบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนจะเลือกเครื่องบินอะไรนั้น อยู่ที่ข้อเสนอ ความเหมาะสมและงบประมาณครับ

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 26/11/2009 20:46:56


ความคิดเห็นที่ 8


ผมเห็นด้วยทุกความคิดเห็นครับ

แต่ผมคาใจนิดนึงว่า

จะหาเงินจากไหนเอ่ย...

โดยคุณ น่าคิด เมื่อวันที่ 26/11/2009 21:11:04


ความคิดเห็นที่ 9


ผมว่าจริงๆปีหน้าประเทศเราอ้าปากได้แล้วเพราะราคาพืชผลทางการเกษตรในตลาดโลกสูงขึ้นสูงขึ้น ข้าวก็จะทำราคา News hight  ในรอบหลายปีรวมทั้งสิ้นค้าราคาเกษตรอื่นๆด้วย รัฐบาลเราก็น่าจะเล่นบทพ่อค้าหน้าเลือดดูบ้างแลกกะยุทธปกรณ์ต่างๆเหมือนสมัยคุณทักษิณ ก็เหมือนมาเลย์นะครับเอายางไปแลก SU 30  แถมด้วยทุนอวกาศจ่ายสดจริงเพียงครึ่งเดียว ขออย่าเพียงเราทำโอกาสให้เป็นวิกฤตก็แค่นั้นเอง
โดยคุณ ddd2521 เมื่อวันที่ 26/11/2009 21:54:06


ความคิดเห็นที่ 10


ผมว่าระบบที่สำคัญที่สุด คือ DATA LINK ที่สามารถใช้กับเรือของเราที่มีอยู่ได้ ผมไม่แน่ใจว่าเรือของเรามี DATA LINK หรือไม่  เพราะ เราต้องการ ระบุแจ้งฝ่ายอย่างชัดเจนอย่าง(Identify) เครื่องบินต้องการตำแหน่ง ที่แน่นอนของเรือที่ต้องการจะยิง(SA) อันนี้ยังไม่นับรวมเครื่องบินที่นักบินจะต้องรู้ในการป้องกันตัวเองอีก(AIR Threat) ผมว่าแทนที่จะเอาเงินไปซื้ออาวุธ หรือเครื่องสู้เอาเงินมาทำระบบ ป้องกันทั้งระบบดีกว่าไหม RADAR ทอ LINK ด้วยกัน กับ RADAR กองเรือ และ RADAR MOBILE กองทัพบก คนที่อยู่ในพื้นที่การรบได้รับข้อมูลเพียงพอ ดีกว่ามีอาวุธยิงไกลๆ แต่ไปยิงโดนเรือที่ไม่สำคัญเพราะระบุไม่ได้ หรือมีเครื่องบินสุดยอด มีอาวุธยิงได้ไกลๆ แต่ไม่มี SA กลับภัยอะไรเลย (บินไปตัวเดียวเปล่าไม่มี GCI ช่วย) ต่อให้มี AIM-120 ไปด้วย 4นัด ก็สู้เครื่อง 2 เครื่องที่มี DATA LINK ติด AIM-9 ไม่ได้

ออกนอกเรื่องไปเยอะแต่ขอยืนยันครับว่าระบบ สำคัญ กว่าแบบเครื่อง

แต่ถ้าระบบสมบูรณ์เท่ากัน แบบเครื่อง อาวุธ นักบิน เป็นตัวตัดสิน

โดยคุณ O.B. เมื่อวันที่ 26/11/2009 22:44:03


ความคิดเห็นที่ 11


จริง ครับ ระบบดี มีชัยไปกว่าครึ่ง เป็นการวางที่ Infra 
ดูอย่าง กองบิน1 ซิครับ infra ดีมาก ขนาดใคร ๆ ก็มาขอใช้ฝึก 

ส่วนเรื่องเครื่องบิน Fleet Defender หายากหน่อยนะครับที่เป็น เครื่อง2เครื่องยนต์ ราคาไม่แพง และ มาตราฐาน นาโต้  (ดู ๆ แล้ว ถูกสุด มือ1 น่าจะเป็น F18 )

โดยคุณ u3616234 เมื่อวันที่ 27/11/2009 19:21:06