ในกรณีทหารอากาศ (ทหารบก ทหารเรือ มีกฏเกณฑ์มากกว่านั้น)

ถ้าคำถามหมายถึงระยะเวลาการครองยศ...การเลื่อนยศ...ตอบได้เลยครับว่าแต่ละคนหากมาจากแหล่งกำเนิดต่างกันก็จะต่างระยะเวลาครับ

จ่าอากาศตรี ที่มาจากหูกะทะ  และพลทหาร (ไม่ได้มาจาก รร.เหล่า) อาจจะครองยศจ่าอากาศตรี ๘ เดือน - ๑ ปี จากนั้นจึงเลื่อนเป็น จ่าอากาศโท และเป็นจ่าอากาศเอกในปีที่ ๔ ที่รับราชการ  จากนั้นถ้าเป็นทหารอากาศ จะต้อง โอเจที หรือฝึกงานในหน้าที่ เพื่อปรับเลขความชำนาญทหาร จากระดับ ๕ เป็นระดับ ๗ ถ้าน้องมีระดับความชำนาญต่ำกว่า ๕ คือ ๓ ก็ต้องสอบเลื่อนเลขความชำนาญสองครั้งคือ ๓ เป็น ๕ และ ๕ เป็น ๗ ถึงจะมีสิทธิ์ เลื่อนยศเป็น "พันจ่าอากาศตรี" แต่มีข้อแม้ว่า...หน่วยที่เรารับราชการ ต้องมีอัตราชั้นยศนี้ว่าง...ถ้าไม่มีไม่ว่างและไม่กระตือรือร้นไปหาตำแหน่งที่อื่น...ก็อาจจะติดยศ.."จ่าอากาศเอกนิรันดร์" ครับ...ถ้าเป็นทหารบก และทหารเรือ อาจจะต้องครองยศ สิบเอก จ่าเอก ไปนานไม่มีโอกาสเลื่อนเพราะต้องเลื่อนตามคิวรุ่นพี่รุ่นน้อง...ถ้ารุ่นพี่(ในสายทหารเดียวกัน เช่น สายขนส่ง สายทหารราบ สายสื่อสาร)ยังไม่เลื่อนก็ต้องรอจนกว่าพี่จะเลื่อนยศ..และมีตำแหน่งว่าง (รอมีคนเกษียณหรือลาออก)ถึงจะเสียบแทน...

ปล.นอกจากสอบ OJT และ ยังต้องสอบภาษาอังกฤษ ให้ได้คะแนนเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด เช่น ๕๐, ๖๐, ๗๐, หรือ ๘๐ คะแนน (ถ้าไปต่างประเทศต้อง ๗๐ ขึ้น)

ส่วนเมื่อเป็นพันจ่าอากาศเอก จ่าสิบเอก พันจ่าเอก ในแต่ละเหล่าทัพ มีอายุราชการไม่ต่ำกว่า 8 ปี จึงจะมีสิทธิ์สอบนายทหารสัญญาบัตร  แต่ถ้าเป็นกองทัพอากาศ จะต้อง

๑.มีอายุไม่เกิน ๓๕ ปี จบปริญญาตรีตามวุฒิที่กำหนด ชั้นยศขณะนั้นอะไรก็ได้...สอบร่วมกับบุคคลภายนอกทั่วไป เป็นเรืออากาศตรี

๒.มีอายุระหว่าง ๓๖ - ๓๙ ปี จบปริญญาตรีอะไรก็ได้ ชั้นยศพันจ่าอากาศเอก สอบเป็นเรืออากาศตรี  แต่ต้องเฉพาะในสายงานตนเองเท่านั้น (เหล่าสื่อสาร เหล่าช่างอากาศ ฯลฯ)

๓. มีอายุเกิน ๔๐ ปีขึ้นไป สอบเป็นเรืออากาศตรี ตามสายงานของตนที่เปิด

จากนั้นเมื่อเป็นนายทหารสัญญาบัตร แล้ว...ตัวใครตัวมันครับ...ระยะเวลาครองยศไม่เท่ากันในแต่ละกำเนิด..มาจาก รร.จ่าอากาศและช่างฝีมือทหาร  มาจากโรงเรียนนายเรืออากาศ  มาจากปริญญาตรี 

รายละเอียดการครองยศในแต่ละชั้นยศ ต้องสอบถามที่ "กรมกำลังพล" ของแต่ละเหล่าทัพครับ...

ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆ

ครับสำหรับข้อมูล

เป็นประโยชน์กับผมมากครับ