หน้าแรก    ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบคำถาม    เข้าสู่ระบบ      


ปลัดกลาโหมน้อยใจ กองทัพเมินซื้ออาวุธที่มีแบรนด์ไทย ต่างชาติกลับซื้อ

โดยคุณ : ocean เมื่อวันที่ : 15/01/2010 13:25:48

สายพานรถยานเกราะ ที่ผลิตโดยบริษัทชัยเสรี ที่ขายไปทั่วโลก 37 ประเทศซื้อไว้หมด ยกเว้นกองทัพไทยที่ไม่ได้ใช้

พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาระบบจรวดหลายลำกล้อง ระหว่างกองทัพบกกับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) โดยมี พล.ท.เอกชัย วัชระประทีป เจ้ากรมสรรพาวุธ และสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) เป็นผู้แทนกองทัพบก และมี พล.ท.ฐิตินันท์ ธัญญสิริ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ร่วมพิธีลงนาม ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 7 มกราคม


พล.อ.อภิชาตกล่าวว่า จรวดหลายลำกล้องที่ได้วิจัยพัฒนาได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากมิตรประเทศ สามารถต่อยอดและวิจัยไปได้เร็วขึ้น แต่คงต้องใช้เวลา 1-2 ปี ถึงจะผลิตเข้าประจำการในกองทัพ จากนั้นจะต่อยอดการวิจัยไปสู่อาวุธนำวิถี ขณะเดียวกัน แผนยุทธศาสตร์และแผนแม่บทในการวิจัยพัฒนาอาวุธประเภทอื่น สถาบันจะปรับปรุงให้สอดคล้องกับคณะกรรมการบริหารและนำเข้าสู่การพิจารณาของสภากลาโหมในเดือนมกราคมนี้


"น่าน้อยใจที่ส่วนใหญ่ผู้ใช้จะไม่ค่อยมั่นใจในผลผลิตที่เกิดจากคนไทยด้วยกันเอง อย่างกรณีของบริษัทชัยเสรีหรือเลดี้แท็งค์ ที่ทำสายพานรถยานเกราะขายทั่วโลก 37 ประเทศรับซื้อหมดเว้นประเทศไทย ไปดูงานประเทศไหนในต่างประเทศ  รถถังที่เอามาวิ่ง ส่วนหนึ่งของแทร็ค (ตีนตะขาบรถถัง) เขาจะพูดถึงประเทศไทย เป็นความภาคภูมิใจที่มีธงชาติไทยไปประดับอยู่ในงานดีเฟ้นด์ เอ็กซิบิชั่น ที่จัดขึ้นในหลายประเทศ สิ่งที่นำเสนอคือต้องการสร้างความเชื่อมั่นว่า สิ่งที่เราพยายามทำต้องการให้เกิดความเชื่อมั่นเชื่อถือกับคนไทยด้วยกัน" พล.อ.อภิชาต กล่าว





ความคิดเห็นที่ 1


รบกวนใส่ที่มาด้วยนะครับ/Admin
โดยคุณ nok เมื่อวันที่ 08/01/2010 06:55:27


ความคิดเห็นที่ 2


-ขอบคุณ ข้อมูลดีๆ จาก

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1262870315&grpid=04&catid=01

 

^^!

โดยคุณ ocean เมื่อวันที่ 08/01/2010 07:14:12


ความคิดเห็นที่ 3


สวัสดีครับ

ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมเราไม่สนับสนุนของที่เราทำเอง

สงสัยๆ

^^
โดยคุณ ohmmer เมื่อวันที่ 08/01/2010 07:29:03


ความคิดเห็นที่ 4


สงสัยเหมือนกันครับ...

อยากรู้ว่าไม่ดีตรงไหน

โดยคุณ Otemus เมื่อวันที่ 08/01/2010 08:26:15


ความคิดเห็นที่ 5


 

    มันเป็นค่านิยมไงครับ   ที่มีมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ปู่ย่าว่าของต่างชาติเลิศหรูกว่า   นอกจากนี้การจัดหาอาวุธมูลค่าสูงๆถ้าดันเกิดปัญหาขึ้นมาว่าคุณภาพด้อยเพียงเล็กน้อยและถ้ามันเกิดจากการซื้อของที่ผลิตในนี้    คิดเอาว่าผู้ทำการจัดหาจะโดนอัดขนาดไหน

    ถ้ารถเกราะ 4X4 ของชัยเสรีขายที่ต่างประเทศได้จำนวนมากๆขึ้นมา    เราคงตั้งคำถามว่าทำไมตอนที่ประกวดแข่งกับ RIVA 4X4 ถึงได้ไปอยู่ท้ายสุดเลย    ............   เฮ้อ

    คนไทยกับคนลาวนิสัยคล้ายกันอยู่ข้อหนึ่ง   ทำไมดูถูกพวกเดียวกันเองจัง

โดยคุณ neosiamese เมื่อวันที่ 08/01/2010 09:08:01


ความคิดเห็นที่ 6


ผมเห็นในภาพ รถ4x4ของบริษัทชัยเสรี
ก็ออกเเบบดูดีเเต่ไม่ทราบว่าคุณลักษณะเป็นยังไง
พอมีลุ่นมั้ย
^^

โดยคุณ ohmmer เมื่อวันที่ 08/01/2010 11:08:45


ความคิดเห็นที่ 7


เพราะมันคือสายพานอย่างเดียวครับ
ยังไง ก็ part ส่วนหนึ่งของรถถัง
แต่การจัดซื้อของกองทัพบก เขาซื้อกันทั้งคัน มิใช่นำมาแค่ part อย่างเดียว
ซึ่งหมายถึง TOR ของกองทัพก็รถถัง สารตะ 
แต่ถ้าจะจัดซื้ออะไหล่มา ก็เป็นอีกเรื่องครับ
ต้องดูที่รายละเอียดด้วยครับมิใช่เหมายกเข่ง
คนไทยดูถูกมิควรครับ
โดยคุณ siamman18 เมื่อวันที่ 08/01/2010 20:44:22


ความคิดเห็นที่ 8


อันนี้เท่าที่ฟังมานะครับ อาจไม่เป็นข้อมูลที่เป็นทางการ

มีคนพูดประมาณว่า " ถ้าเหล่าทัพไม่ได้วิจัยเอง เหล่าสายสรรพาวุธ ไม่รู้เรื่อง หรือ คณะกรรมมาธิการด้านมาตรฐาน ไม่รู้เรื่อง จะทำให้ไม่ได้รับการยอมรับจาก ฝ่ายจัดซื้อ/หา ของกองทัพ แม้ข้ามเหล่าทัพเอง ที่มีเทคโนโลยี ที่ได้ศึกษามาแล้ว แต่ข้ามเหล่าทัพ ก็จะยังมีการศึกษาใหม่ "

อาจไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นในทำนองนั้น อีกอย่างอาจเกี่ยวกับในเรื่องค่า คอมฯ ด้วย ก็น่าจะมีผล
โดยคุณ xavious เมื่อวันที่ 08/01/2010 23:05:57


ความคิดเห็นที่ 9


ค่าคอมมิชชั่น ชัวป้าดๆๆๆๆๆ....

ผมคิดว่ารถเกราะ ชัยเสรี ไม่ได้ด้อยไปกว่า เรวา หรอกครับแต่อยู่ที่ว่าท่านบิ๊กๆๆทั้งหลายจะสนับสนุนหรือเปล่า

-เหมาะกับไทย

-ราคาถูก

-อะหลั่ยหาง่าย

-เงินหมุนอยู่ในประเทศ

 

โดยคุณ bird07 เมื่อวันที่ 09/01/2010 00:16:54


ความคิดเห็นที่ 10


ผมดูจากภายในและภายนอก ไม่รวมถึงวัสดุที่ผลิตแล้ว ผมว่า คุณภาพพอ ๆ กันเลยนะครับ เผลอ ๆ ชัยเสรี จะดีกว่าด้วยซ้ำ

เสียใจและเสียดาย ที่กองทัพไม่อุดหนุนสินค้า และจะเป็นตัวอย่างให้ประชาชนซื้อของไทยได้อย่างไร  ถึงแม้ ชัยเสรี จะทำรถออกมาได้ไม่ดีก็ตาม การซื้อของไทยก็ช่วยกันพัฒนาอุตสาหกรรมด้านนี้ ให้ดีขึ้นไปอีก หากไม่ข้อเสียตรงไหน กองทัพก็ร่วมจะ ชัยเสรี ปรับปรุงพัฒนาออกเป็นรุ่นต่อ ๆ ไป ก็ได้

โดยคุณ tantongs เมื่อวันที่ 09/01/2010 02:29:19


ความคิดเห็นที่ 11


1.RIVA ออกแบบในเรื่องการกระจายแรงระเบิดจากการระเบิดใต้ท้องรถ อันเป็นเป็นคุณสมบัติหลักเสริมนอกจากจะติดเกราะรอบตัวรถ แต่ชัยเสรีล่ะ จากภาพที่เห็นก็แค่กันกระสุนเท่านั้น ถ้าทำดี ถึงกองทัพไทยไม่ซื้อ ต่างประเทศก็ซื้ออยู่ดี

2.ผมไม่ได้ดูถูกฝีมือคนไทย แต่ถ้าญาติ พี่ น้อง ผมต้องไปเสี่ยงโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ผมก็อยากให้เค้ารอดกลับมา ไม่ใช่ไปเป็น หนูลองระเบิด

อย่างบริษัท มาร์ซัน ก่อนกองทัพเรือจะสั่งต่อ ซีฟ๊อกซ์ ก็ได้ขายเรือแบบเดียวกันนี้กับ ปากีสถาน ไปก่อนแล้วตั้งหลายลำ ถ้าดีจริง อย่ากลัวที่จะทำ

3.ส่วนเรื่องสายพาน ผมก็เชื่อเป็นการส่วนตัวว่าน่าจะเป็นอย่างที่หลายๆท่านแสดงความคิดเห็นนั่นแหละ

โดยคุณ น่าคิด เมื่อวันที่ 09/01/2010 05:03:32


ความคิดเห็นที่ 12


รถถังหรือรถเกราะนี่ผมว่าเราทำเองก็น่าจะดี เพราะมันยังสามารถผิดพลาดได้ไม่เหมือนเครื่องบินที่พลาดแล้วตกเกิดการสูญเสีย รถเกราะเรานำเข้าแต่เพียงปืนก็พอ เพราะไทยเรามีอุตสาหกรรมรถยนต์ที่แข็งแกร่งมาก โรงงานผลิตรถแทรกเตอร์เราก็มี โรงหล่อก็มี เกราะ composite ก็ทำได้ไม่ยากเท่าไหร่แต่ในความเป็นจริงแล้ว ภัยคุกคามรอบบ้านเรา เอาแค่เกราะเหล็กหล่อผสม polymer sheet และชั้น ceramic บวกกับเกราะปฏิกิริยาแบบ เกราะ t90 ก็หรูแล้ว แค่รถถัง หรือรถลำเลียงพลเราทำได้สบายมาก นำเข้าแต่เฉพาะปืนก็พอ คิดว่ารถถัง 1 คันต้นทุนเราไม่น่าจะเกิน 50 ล้านบาท ส่งเสริมอุตสาหรรมป้องกันประเทศด้วย ในวงเงินงบประมาณเท่ากันผมมั่นใจว่าผลิตเองย่อมดีกว่าไปซื้อ m60 เก่าๆ ที่จอดทิ้งไว้มาใช้แน่นอนเพราะเทคโนโลยีเกราะที่ไทยทำได้ในตอนนี้ย่อมเหนือกว่าเกราะเหล็กหล่อที่ผลิตเมื่อเกือบครึ่งศตวรรษที่แล้วแน่นอน หรืออย่างน้อยที่สุดหากจะซื้อmbtใหม่เอี่ยม แต่รถเกราะลำเลียงพลขนาด 10- 20 t น่าจะผลิตเองเพราะไม่ได้ใช้เทคโนโลยีเกราะขั้นสูงซื้อเฉพาะปืน 30 mm busmaster หรือ 40 mm bofors หรือ เกียต ก็ใช้ได้แล้วครับ ในความคิดส่วนตัว ปืน 40 mm นี่เหมาะมากสำหรับรถลำเลียงพล ไม่จำเป็นต้องติดmissile ต่อสู้รถถังอีกให้บำรุงรักษาและเล็งยิงยาก เพราะกระสุนขนาดนี้อัตรายิง 200 นัด/นาที ซึ่ง มีแบบ ชนวนเฉียดระเบิดและมีอัตรายิงเพียงพอที่จะ ยิงฮ. หรืออากาศยานบินระดับต่ำ และ อำนาจการยิงสูงพอจะทำลายที่มัน หรือทำลายยานเกราะด้วยกระสุน apfsds เจอจังๆหน้า หาก รถเกราะเล็งยิงได้ก่อนที่mbt จะหมุนป้อมปืนมาที่ตำแหน่งยิงได้กินเวลา 2.-3 วินาทีระยะ1-2 km. abram ก็ abram เถอะ เจอ กระสุน ชาโบต์ apfsds 40 mm สัก 2-3 วินาที 7-10 นัด(เทียบกับกระสุนdepleet uranium 30 mm จาก เครื่องบิน a10 50 นัด กับกระสุน apfsds  10 นัดapfsds น่าจะมีอำนาจทำลายสูงกว่า) ก็ท่าจะไม่รอดครับ  :D
[IMG]http://img97.imageshack.us/img97/654/apfsds.jpg[/img]

[IMG]http://img686.imageshack.us/img686/7249/40mmgiatturret.jpg[/img]
ป้อมปืน 40 mm.ของ giat และ spec.
This turret is designed for fitment to future reconnaissance vehicles and infantry fighting vehicles (in
particular EBRCs and FRESs). The turret demonstrator includes a mechanical structure, the 40 CTA cannon
with its linkless ammunition feed system, a stabilised aiming system, the electrical power, a panoramic
sight, a fire-control system and, when a suitable chassis is used, the gunner’s station.
The architecture of a remote-controlled turret with the crewmembers in the chassis enables to save weight
and space and, as a result, to enhance the survivability and mobility capabilities.
- 40 mm case telescoped ammunition cannon
(maximum rate of fire 200 rds/min).
- 7.62 mm secondary armament with two racks of
each 800 rounds.
- Electric laying:
. traverse: 360° ; 0.6 rad/s,
. elevation/depression: - 10° to + 45° ; 0.6 rad/s.
- Electrical power at 28 V.
- Stabilised in elevation and traverse.
- 3rd generation panoramic gunner’s sight.
- 68 ready-use rounds (eg., 51 HE and 17
APFSDS) with automatic loading (loading of the
selected type of ammunition from the first shot).
- First-round hit probability in a three-round burst:
. stationary target 2.3 m x 2.3 m: > 95%,
. moving target 4.6 m x 2.3 m: > 80%.
- Length: 2,160 mm.
- Width: 1,795 mm.
- Height: 538 mm (without panoramic sight).
- Gun-ring diameter: 1,475 mm.
- Weight/protection compromise according to the
customer’s requirement
[url=http://www.giat-industries.fr/index.php?option=com_content&view=section&layout=categoryblog&id=15&Itemid=90&lang=en]http://www.giat-industries.fr/index.php?option=com_content&view=section&layout=categoryblog&id=15&Itemid=90&lang=en[/url]

โดยคุณ nars เมื่อวันที่ 09/01/2010 12:06:07


ความคิดเห็นที่ 13


กระสุน sabot ความเร็วประมาณ 1500 m/sec

abram ก็ abram เหอะ เจอกะทันหันสมมุติหันข้างให้กว่าจะหันป้อมกลับมาจับเป้าวัดระยะได้ใช้เวสัก 3-5 sec โดน sabot สัก 10 นัดไม่พังก็คงไปไม่เป็นครับ


โดยคุณ nars เมื่อวันที่ 09/01/2010 12:20:32


ความคิดเห็นที่ 14


http://www.army-guide.com/eng/product2430.html

url spec ปืนของ bofors และ giat

http://www.giat-industries.fr/index.php?

 


โดยคุณ nars เมื่อวันที่ 09/01/2010 12:29:20


ความคิดเห็นที่ 15


สำหรับกรณีของ รถเกราะของชัยเสรีเมื่อเทียบกับRIVA 4X4 ของแอฟริกาใต้.....ผมกล้ายืนยันได้เต็มที่เลยว่าของเราไม่แพ้เค้าแน่นนอน(ใน ฐานะที่เป็น1ในวิศวกรที่รับผิดชอบการผลิตรถยนต์ยี่ห้อดังของโลกยี่ห้อหนึ่ง ).....หากดูจากโรงงานของเจ้าRIVA 4X4 จะเห็นได้ว่าไม่ได้มีเทคโนโลยีอะไรที่สลับซับซ้อนมากมายเลย.....ผมเชื่อว่า เทคโนโลยีในการผลิตเจ้าวีโก้...เรนเจอร์...หรือไทรตัน้ที่เราส่งออกปีละเป็น แสนๆคันมีความยุ่งยากและซับซ่อนกว่าเยอะ.........หรือถ้าหากจะมองกันที่ คุณภาพของเหล็กที่ใช้ทำเกราะผมก็เชื่อว่าเราก็สามารถทำได้ไม่ยากเย็นนักะหาก เราจะทำ(ในฐานะที่จบป.โทด้านโลหะวิทยา).....เรามีโรงถลุงเหล็กที่ใหญ่มาก เมื่อเทียบในระดับเอเชียด้วยกัน.....อยู่ที่อำเภอบางสะพานประจวบ.....หรือ หากทำเกราะเองไม่คุ้มค่าที่จะทำ.....เราก็สามารถซื้อเหล็กเกรดแข็งต่างๆมาทำ การประกอบเองได้(โดยส่วนตัวมีความเห็นว่าซื้อเหล็กมาทำเองคุ้มกว่า)..... หรือหากคิดว่าการออกแบบของเรายังไม่เข้าขั้นก็สามารถซื้อแบบ(ลิขสิทธิ์)มาทำ การประกอบเองก็ไม่น่าจะยากเย็น......ได้ทั้งของดีใช้....ได้ทั้งเทคโนโลยี


ผมตัดบางข้อความออก

รบกวนครั้งหน้ากรุณาอย่าพาดพิงเลยครับ เกิดเข้าฟ้องหมิ่นประมาทมา ผมไม่รู้ด้วยน่ะครับ มันมี IP Address หาบ้านคุณเจอแน่นอน บางทีสอหออาจจะมาเคาะบ้านคุณก็ไ้ด้

Webmaster

โดยคุณ Ronin เมื่อวันที่ 11/01/2010 00:33:13


ความคิดเห็นที่ 16


ไม่ขอพูดมาก เบื่อกับคำว่าคอมมิชั่น ที่ไหนมีบอกด้วย อยากเอี่ยวด้วย เห็นแต่คนรับเป็นพวกใส่สูทนอกราคาแพงๆมากกว่า ทหารแค่ปลายแถว(การกิน) เป็นข้อมูลที่ถูกต้องของท่าน Xavious กับท่านประธาน Ronin อ่านของสองท่าน เปรียบเหมือนแหวกเมฆาเห็นแสงตะวัน (วลีจาก สามก๊ก) ของไทยดี แต่ต้องเข้ามาตามขั้นตอนเหมือนกัน ไม่งั้นขาดหลักฐากค่าใช้จ่ายในการตลาด (บิลเบิกจ่ายน่ะเข้าใจไหม)ส่วนท่านน่าคิด สมนามท่านมักฝากข้อ ให้คิดเหมือนกันว่า ทำไมต้องอย่างนี้ ทำไมต้องอย่างนั้น เป็น กูรูที่ดีเหมือนกัน ขอบคุณครับ ขอร้องเถิดครับ ข้าราชการ มีคนดีมากกว่าคนเลว ถ้าไม่นับอาวุธ มองไปรอบๆ กทม.หรือ ตลาดหรือกีฬาก็ได้อะไรที่ไทยไม่มี อย่างท่านประธาน Ronin กล่าว

โดยคุณ makropolo เมื่อวันที่ 11/01/2010 03:37:59


ความคิดเห็นที่ 17


อย่าดูถูกประเทศไทย เรามีดีกว่าที่เห็น

โดยคุณ makropolo เมื่อวันที่ 11/01/2010 03:41:07


ความคิดเห็นที่ 18


ขออภัย ข้างบนไม่ใช่ความคิดของผมหรอก ของใครก็ไม่รู้ ผมลืมชื่อไปล่ะ

ผม copy และตัดคำที่กล่าวหาเรื่องค่าคอมทิ้งไป มันดูไม่ดี



โดยคุณ Ronin เมื่อวันที่ 11/01/2010 04:17:35


ความคิดเห็นที่ 19


อย่างที่คุณ makropolo พูดและครับ ทหารนะครับ ดีมากกว่า เงินเดือนก็ไม่ได้มากมาย กินอยู่อย่าง พ่อท่านสอน เราทำไหม ไม่คิดหาทางแก้ไขกันละครับ บ้างอย่างเขาอยากได้ยั้งไม่ได้เลย ครับน่าเห็นใจ ไปขวางเขามากก็ โดน อยากให้ตรวจสอบครับ จะได้ช่วยกองทัพที่น้ำท่วมปากด้วยครับ

โดยคุณ pat49res เมื่อวันที่ 13/01/2010 22:40:57


ความคิดเห็นที่ 20


ค่าคอม  ที่ใหนก็มีเหมือนกัน แต่ถ้าคนไทยจ่าย คนไทยรับ คนไทยสร้าง

คนไทยซื้อ เงินก็ไม่ไปไหน (มองในแง้ดี)

โดยคุณ sit เมื่อวันที่ 13/01/2010 23:41:41


ความคิดเห็นที่ 21


คนเสียเงินไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้เสียแต่จำใจต้องใช้ ไม่ว่าจะดีไม่ดี ก็ต้องใช้


โดยคุณ xavious เมื่อวันที่ 13/01/2010 23:50:14


ความคิดเห็นที่ 22


กองการสัสดี

โดยคุณ I see u เมื่อวันที่ 14/01/2010 00:27:11


ความคิดเห็นที่ 23


อย่าไปคิดมากอะไรเลยครับ กองทัพไม่สนับสนุนเราก็ลองไปเสนอให้กองทัพต่างประเทศประเมินค่าจัดซื้อหาแทนไป ถ้าเขาประเมิณแล้วตรงตามความต้องการของเขาแล้วจัดหาไปใช้งานแล้ว พอมีงานแสดงโชว์อาวุธในประเทศ ก็เอาผลงานที่ต่างประเทศจัดหานั่นแหละมาเปิดโชว์ให้เขาเห็นว่ามีประเทศอื่นเขาอยากได้ของเรา(แต่เราไม่เอาของกันเอง) วันดีคืนดีเกิดมีการซ้อมรบร่วมแล้วประเทศที่มาซ้อมรบด้วยดันหิ้วเจ้าตัวเมดอินไทยแลนด์มาร่วมซ้อมด้วย งานนี้มี ...ม้าน กันบ้างล่ะ

แต่ว่าไป ก็ใช่ว่ากองทัพจะไม่สนับสนุนบริษัทคนไทยนะครับ อย่างน้อยการซ่อมปรับปรุง ยานเกราะ รถบรรทุก ส่วนใหญ่ก็ใช้บริการบริษัทคนไทย แม้แต่รถใช้งานทั่วไปเดี๋ยวนี้ก็เริ่มใช้รถที่ประกอบในประเทศแล้ว แต่รถหุ้มเกราะอาจจะยังมีข้อสงสัยเรื่องประสิทธิภาพอยู่เลยยังไม่กล้าจัดหา ยังไงก็ขอเอาใจช่วยและสนับสนุนให้บริษัทคนไทยพัฒนารถแบบนี้ต่อไปให้มีประสิทธิภาพเป็นที่เชื่อมั่นของกองทัพต่อไปครับ ผมเชื่อว่าสักวัน รถหุ้มเกราะแบรนด์ไทยคงติดตราป้ายทะเบียนกองทัพวิ่งปร๋อแน่นอนครับ

โดยคุณ เด็กทะเล เมื่อวันที่ 14/01/2010 20:54:39


ความคิดเห็นที่ 24


จิงๆแล้วกองทัพก็ส่งยุทโธปกรณ์ (รยยนต์ ทั้งหลาย) ให้ บ. เหล่านั้นเค้าซ่อม ทำอยู่นะแหละ อย่าง บ.ชัยเสรี หรืออีกหลายๆ บ. ที่ประมูลการว๋อมได้ หรือส่งซ่อมเลยอะไรพวกนั้น แต่ในส่วนของการจัดซื้อใหม่นั้น อย่างที่บางท่านกล่าว รถที่ไทยทำ/สร้าง มาเสนอ มันอาจไม่ตรงกับหลักเกณฑ์ หรือตามความต้อ งการ ในการจัดหาก็ได้ เลย ไม่ได้ทำการจัดซื้อเข้ามาประจำการ

คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ก็ที่กล่าวไว้ ก่อนหน้านี้ มันมีผลมากกว่า

โดยคุณ xavious เมื่อวันที่ 15/01/2010 02:25:47